3 แฟรนไชส์สุดฮอต ชายสี่-เซเว่น-ไก่ย่างห้าดาว อยากลงทุนต้องทำอย่างไร

หากพูดถึง “ธุรกิจแฟรนไชส์” นับเป็นธุรกิจยอดนิยมในไทยอย่างมาก เพราะไม่จำเป็นต้องมีประสบการณ์ในการทำธุรกิจมาก่อน ก็สามารถเริ่มต้นธุรกิจได้ เพราะแฟรนไชส์ส่วนใหญ่จะให้การฝึกอบรมที่จำเป็นในการดำเนินธุรกิจ รวมทั้งธุรกิจแฟรนไชส์ยังมีอัตราความสำเร็จสูงกว่าธุรกิจเริ่มต้นนั่นก็เพราะว่า เจ้าของได้ทำการลองผิดลองถูก จนได้สูตรสำเร็จมาแล้วนั่นเอง 

และหากเป็นแฟรนไชส์ยอดนิยมก็นับเป็นความสำเร็จที่สูงไปอีกขั้น เพรามักมีชื่อเสียงและภาพลักษณ์เป็นที่ยอมรับอยู่แล้ว ทำให้การทำการตลาดเป็นเรื่องง่าย จึงการันตีได้ว่าธุรกิจจะซัคเซสนั่นเอง 

ขณะเดียวกันการซื้อแฟรนไชส์ยังมีค่าใช้จ่ายน้อยกว่าการเริ่มต้นธุรกิจประเภทเดียวกันด้วยตัวคุณเองเสียด้วยซ้ำ ทำให้การซื้อแฟรนไชส์เป็นการลงทุนที่มีความเสี่ยงน้อยกว่า และหากเป็นแฟรนไชส์ที่มีจำนวนสาขามากที่สุด ก็แสดงให้เห็นถึงเครือข่ายและการเติบโตของสาขาแฟรนไชส์ ซึ่งก็ถือเป็นหนึ่งในปัจจัยของการเลือกการลงทุนของผู้สนใจแฟรนไชส์ด้วยเช่นกัน 

ในครั้งนี้ #Thairath Money จะพาไปทำความรู้จักกับ 3 แฟรนไชส์สุดฮอตว่ามีอะไรบ้าง? และหากอยากลงทุนต้องทำอย่างไร?

ชายสี่บะหมี่เกี๊ยว ลงทุนเริ่มต้นไม่ถึง 5 หมื่นบาท 

จากตำนานนักสู้ สู่อนาคตองค์กรมหาชน ชายสี่บะหมี่เกี๊ยว เป็นธุรกิจแฟรนไชส์แบบครบวงจร ตั้งแต่การผลิต รถเข็น เส้นบะหมี่ โดยสร้างสรรค์สูตรในการทำบะหมี่เกี๊ยวให้มีรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ของชายสี่บะหมี่เกี๊ยว ซึ่งนับเป็นหนึ่งในแฟรนไชส์สร้างอาชีพที่คนนิยมลงทุนอันต้นๆ ของประเทศไทย โดยจะเป็นร้านก๋วยเตี๋ยวรถเข็นที่ยึดทำเลทองข้างร้านสะดวกซื้อ 7-Eleven เป็นเอกลักษณ์ 

โดยที่ราคาเริ่มต้น 7.6 หมื่นบาท ซึ่งจะเป็นรถเข็น ชายสี่บะหมี่เกี๊ยว ขนาด 183x270 ซม. ส่วนสิ่งที่จะได้รับก็จะมีค่าลิขสิทธิ์รายปี 4,000 บาท อุปกรณ์สำหรับเริ่มต้นธุรกิจ 60 รายการ ราคา 43,105 บาท วัตถุดิบสำหรับเริ่มต้นธุรกิจ 46 รายการ ราคา 5,000 บาท

ทั้งนี้ลูกค้าต้องใช้สินค้ามาตรฐานตามที่กำหนดเท่านั้น และลูกค้าต้องเข้ารับการอบรมมาตรฐานแฟรนไชส์เป็นเวลา 3 วัน 2 คืน รวมทั้งยังได้แพ็กเกจ CRM อีกด้วย ซึ่งปัจจุบันมีจำนวนสาขาทั้งหมด ประมาณ 4,800 สาขา

ไก่ย่างห้าดาว ลงทุนเริ่มต้น เกือบ 1 แสน

แบรนด์อาหารที่ฮิตติดใจหลายๆ Generation มากว่า 36 ปี อย่าง ห้าดาว นั้นต้องยอมรับว่าแบรนด์มี Menu Signature ที่ชัดเจน อย่างเช่น ไก่ย่าง แต่ก็ยังไม่หยุดแค่นั้น ยังได้ พัฒนาเมนูใหม่ๆ ไม่ว่าจะเป็น ไก่ย่างสูตรพริกไทยดำ, ไก่ย่างสูตรทรงเครื่อง ฯลฯ

เริ่มก่อตั้งเมื่อปี 2528 หรือกว่า 34 ปีมาแล้ว โดยสินค้าเริ่มแรกของบริษัท คือ ไก่ย่างห้าดาว อันเป็นสินค้าที่คนไทยรู้จักเป็นอย่างดี จนเมื่อปี 2543 บริษัทฯ จึงได้เริ่มการขายแฟรนไชส์ให้แก่ผู้สนใจร่วมธุรกิจ ส่งผลให้บริษัทมีการขยายตัวอย่างรวดเร็ว มีจุดขายมากกว่า 6,000 สาขา ครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศ และกว่า 1,600 สาขาในต่างประเทศ

รวมถึง มีการแตกไลน์เพิ่มสินค้าให้ผู้บริโภคเลือกใช้บริการ เช่น ไก่ย่างห้าดาว ไก่ทอดห้าดาว ข้าวมันไก่ห้าดาว บะหมี่ห้าดาว ห้าดาวเรดดี้มีล ห้าดาวโรลเลอร์กริลล์ ราคาเริ่มต้น 99,000 บาท

สิ่งที่จะได้รับ คือ สิทธิ์ในการใช้แบรนด์เครื่องหมายการค้า การออกแบบร้าน เตรียมความพร้อมก่อนเปิด มีอุปกรณ์ สูตร วัตถุดิบมาตรฐานจากโรงงานโดยตรง มีทีมงานทำการตลาด คอยดูแลให้ตลอดกิจการ สิทธิในการใช้ระบบ POS การอบรมและบริหารจัดการร้าน รวมทั้งยังมีมีการโฆษณาจากบริษัทอีกด้วย โดยปัจจุบันมีจำนวนสาขาทั้งหมด มากกว่า 5,000 สาขา ครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศ และกว่า 2,300 สาขาในต่างประเทศ

กำตังค์เกือบ 3 ล้านเพื่อเปิด 7-Eleven 

เชนร้านสะดวกซื้อเบอร์หนึ่งในประเทศไทย ภายใต้การดูแล CP All ซึ่งนับตั้งแต่ปี 2534 ซีพี ออลล์เปิดโอกาสให้พนักงานของบริษัทและบุคคลภายนอกที่ต้องการความมั่นคงทางธุรกิจ ได้มีโอกาสในการเป็นผู้ร่วมธุรกิจร้านเซเว่น อีเลฟเว่น ซึ่งซีพี ออลล์ มีนโยบายส่งเสริมและสนับสนุนให้เกิดผู้ประกอบการรายย่อยที่ต้องการทำธุรกิจ ที่มั่นคงด้วยการเป็น สโตร์พาร์ตเนอร์ หรือผู้ร่วมธุรกิจร้านเซเว่น อีเลฟเว่น มาอย่างต่อเนื่อง 

โดยบริษัทมุ่งเน้นการสร้างมาตรฐานการดำเนินงาน นำนวัตกรรมมาใช้ในการบริหารจัดการ เพื่อให้บริการผู้บริโภคได้อย่างรวดเร็ว มีคุณภาพ คอยให้คำปรึกษาการดำเนินงานอย่างใกล้ชิด เพื่อให้สามารถเติบโตไปพร้อมๆ กันได้อย่างแท้จริง ปัจจุบันมีสาขาทั้งสิ้นทั่วประเทศรวม 14,047 สาขา

หากเป็นที่ดินเปล่าจะใช้ขนาดความกว้าง 15 เมตร ลึก 30 เมตรขึ้นไป หากเป็นอาคารจะต้องเป็น 2 คูหาขึ้นไป และหากมีพื้นที่ต้องเสนอทำเลที่ตั้งเบื้องต้นก่อนเพื่อให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบ ถ้าทำเลผ่านจะได้ค่าเช่าต่างหาก ยอดเงินลงทุนแยกต่างหาก ราคาเริ่มต้นจะอยู่ที่ 2,630,000 บาท ทั้งนี้เป็นที่ดินเปล่าจะเสียค่าก่อสร้างเพิ่มอีก 200,000 บาท  

ส่วนสิ่งที่จะได้รับ คือ มีทีมงานมืออาชีพพร้อมให้คำปรึกษา, สัญญาบริหาร 10 ปี รวมทั้งได้ 54% จากกำไรข้างต้น (แต่จะต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายต่างๆ อาทิ เงินเดือนพนักงาน, ค่าน้ำ ค่าไฟ, ค่าโทรศัพท์, ค่าวัสดุสิ้นเปลือง) ทั้งนี้หากไม่มีทำเลเปิดร้านจะมีการช่วยคัดสรรค์พื้นที่ดีๆ ให้ รวมทั้งยังมีการช่วยวางแผนงานการตลาดและส่งเสริมการขาย, มีการอบรมสำหรับผู้บริหาร และใน 1-2 เดือนแรกจะมีการส่งพนักงานมาให้กับทางสาขา ภายใต้ระบบการจัดการสินค้าที่ทันสมัยด้วยเช่นกัน