ตลาดสุขภาพ-ความงามโต “วัตสัน ประเทศไทย” วางแผนเปิดหน้าร้านเพิ่มปีละ 50 สาขา  ครอบคลุม 77 จังหวัด

Business & Marketing

Marketing

กองบรรณาธิการ

Author

กองบรรณาธิการ

Tag

ตลาดสุขภาพ-ความงามโต “วัตสัน ประเทศไทย” วางแผนเปิดหน้าร้านเพิ่มปีละ 50 สาขา ครอบคลุม 77 จังหวัด

Date Time: 4 ส.ค. 2566 13:56 น.

Video

3 มาตรการใหม่ ตลาดหลักทรัพย์ฯ คุมหุ้นร้อนผิดปกติ | Money Issue

Summary

  • “ผู้หญิงอย่าหยุดสวย” ถือเป็นวลียอดฮิตที่ไม่เคยตกยุค เนื่องจากขึ้นชื่อว่า “สุขภาพ” และ “ความงาม” ไม่ว่าเพศไหน วัยไหน หรือเชื้อชาติใด ต่างก็ให้ความสำคัญกันทุกคน และด้วยเหตุนี้เองทำให้ตลาดสินค้าเพื่อสุขภาพและความงามไม่เคยจะหยุดโต

Latest


และเมื่อนึกถึงธุรกิจที่อยู่ในตลาดนี้คงจะเป็นใครไปไม่ได้นอกซะจาก “วัตสัน” ร้าน Health and Beauty ที่มีสโตร์สีเขียวเป็นเอกลักษณ์ นับเป็นอีกหนึ่งร้านที่ผู้บริโภคมักนึกถึงอยู่เสมอ และดูเหมือนกับว่าจะมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ด้วยความที่มีสินค้าคุณภาพที่หลากหลาย ที่สามารถเชื่อมโยงให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างของลูกค้าได้อย่างลงตัว จนกลายเป็น Top of Mind Brand ของผู้บริโภคไปโดยปริยาย

หากพูดถึง “วัตสัน” ร้านเพื่อสุขภาพและความงามอันดับหนึ่งของประเทศไทย ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการในประเทศไทยเมื่อ 2539 โดยถือเป็นแบรนด์เรือธงภายใต้บริษัท เอ.เอส. วัตสัน กรุ๊ป 

นวลพรรณ ชัยนาม ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ วัตสัน ประเทศไทย ได้กล่าวกับ #Thairath Money ในโอกาสครบรอบ 27 ว่า ในธุรกิจ Health & Beauty หากมองไปในอนาคตพบว่ายังคงสดใส แม้ว่าจะผ่านสถานการณ์มามากมาย แต่ในเรื่องของความสวยความงามและการดูแลสุขภาพยังคงอยู่ และเติบโตต่อไป

ซึ่ง “วัตสัน” เองก็ยังคงยืนหนึ่งในใจของคนไทยในเรื่องของ Health & Beauty ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของสาขา หรือแม้กระทั่งความเชี่ยวชาญทางด้านความสวยความงามและการดูแลสุขภาพ และที่สำคัญที่สุดคือ กลยุทธ์ล่าสุดที่นำมาปรับใช้นั่นคือ กลยุทธ์ O+O หรือ หรือ Online to Offline 

ที่ไหนมีดีมานด์ ที่นั่น “วัตสัน” จะไป 

โดยที่วิสัยทัศน์และทิศทางในอนาคตของวัตสันประเทศไทยจะเป็นไปดังนี้

1. สร้างมาตรฐานที่ดีอย่างต่อเนื่อง ด้วยการส่งมอบสินค้าและบริการที่มีคุณภาพ คุ้มค่า คุ้มราคา

2. เดินหน้ากลยุทธ์แบบ O+O พัฒนาช่องทางออนไลน์ และขยายจำนวนสาขาให้ครอบคลุมทั่วประเทศไทย ซึ่งในปัจจุบันถือได้ว่าประสบความสำเร็จเนื่องจากวัตสันมีการขยายสาขาครบทุกจังหวัดทั่วประเทศไทยเป็นที่เรียบร้อย โดยจังหวัดล่าสุดคืออุทัยธานีเป็นจังหวัดที่ 77 ที่เป็นการเปิดสาขาบน Street Store เพราะที่จังหวัดอุทัยธานีไม่มีห้างสรรพสินค้า จึงถือได้ว่าการเปิดสาขาของวัตสันจะมีทั้งเปิดเป็น Stand Alone และในห้างสรรพสินค้า ขอเพียงแค่มีดีมานด์ความต้องการของลูกค้าก็จะมีวัตสันอยู่ตรงนั้น 


ซึ่งนับได้ว่าการเปิดสาขาใหม่ของวัตสันนั้นจะเปิดให้เห็นแทบทุกอาทิตย์ และไม่เพียงเท่านั้นมีอีกหลายสิบสาขาที่จะเปิดภายในปี 2566 นี้ โดยเป้าหมายของปี 2566 คือเปิดสาขาเพิ่มอีก 50 สาขา ทั้งในพื้นที่กรุงเทพฯ ปริมณฑล และต่างจังหวัด ถือได้ว่ามี Store networking ที่แข็งแกร่ง

รวมทั้งวัตสันจะยังคงขยายสาขาอย่างต่อเนื่องเฉลี่ย 50 สาขาต่อปี และช่วงที่ผ่านมายังได้ขยาย คลังสินค้าในพื้นที่วังน้อย อยุธยาด้วยเช่นกัน เพื่อรองรับการเติบโตต่อเนื่อง ทั้งนี้ปัจจุบันวัตสันมีจำนวนมากกว่า 670 สาขาทั่วทั้ง 77 จังหวัด

3. ยึดมั่นด้านความรับผิดชอบต่อสังคม ด้วยผลิตภัณฑ์ และบรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม 


ทั้งนี้ในแง่ของ “ลูกค้า” ทุกคน นวลพรรณมองว่า ลูกค้าล้วนต้องการความสะดวก ดังนั้นการที่วัตสันมีแพลตฟอร์มมาซัพพอร์ตในเรื่องของออนไลน์ จะทำให้การช็อปปิ้งสามารถทำได้ 24 ชั่วโมง ฉะนั้นสิ่งที่เราขาย และนำเสนอจะขึ้นอยู่กับความต้องการของลูกค้าว่าจะสะดวกช็อปเมื่อไร เพราะหากไม่มีนั่นจะทำให้เราอาจจะ “ตกขบวน” ได้ 

ขณะเดียวกันจากข้อมูลพบว่าการมีช่องทางออนไลน์ไม่ได้ส่งผลให้ยอดขายหน้าร้านลดลง ในทางกลับกันลูกค้าที่ช็อปปิ้งทั้งทางออนไลน์และหน้าร้านมีการใช้จ่ายมากกว่าลูกค้าที่ซื้อหน้าร้านอย่างเดียวถึง 3 เท่า และการช็อปออนไลน์ก็มีผลประกอบการเติบโตดีมากกว่าปีที่ผ่านมา

ส่วนกลุ่มเป้าหมายของลูกค้าแน่นอนว่า สัดส่วนผู้หญิงจะมีมากกว่าผู้ชาย ซึ่งในกลุ่มของผู้หญิงจะเป็นในส่วนของกลุ่มอายุวัยทำงานเป็นหลัก แต่กลุ่มลูกค้าวัยรุ่นก็ยังคงมีจำนวนมากขึ้นเช่นกัน 

สำหรับครึ่งปีแรกพบว่าตลาดสินค้าเพื่อสุขภาพและความงามนับได้ว่าเติบโตอย่างต่อเนื่องดีกว่าปีที่ผ่านมา ส่วนสินค้า Top 3 ในวัตสันที่ได้รับความนิยมจากผู้บริโภคไม่ว่าจะเป็น 

1. Skincare (ซึ่งของวัตสันรวม Dermaskincare ด้วย) 

2. Cosmetic

3. Personal care & Wellness

เมื่อ “สุขภาพ-ความสวย” หยุดไม่ได้ ดันตลาด Health & Beauty โต

และในฐานะที่วัตสันเดินทางมาจนถึงปีที่ 27 ปีที่ผ่านมาสิ่งที่ถือเป็นความท้าทายที่สุดของวัตสันที่มองว่าทุกๆ ธุรกิจจะต้องเจอคือ Customers Change นั่นคือ การเปลี่ยนของพฤติกรรมผู้บริโภคอย่างสิ้นเชิง เพราะฉะนั้นค้าปลีกรายใดก็ตามต่างเห็นภาพนี้กันแทบทั้งสิ้น ดังนั้นเมื่อ Customers Change, We Change ด้วยเช่นกัน เพราะความท้าทายทุกวันนี้คือพฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ดังนั้นเราจะต้องเปลี่ยนตามด้วยเช่นกัน เพื่อให้ทันกับลูกค้าจึงจะอยู่ได้ ทั้งนี้สมาชิกวัตสันทั้งหมดที่มีจำนวนกว่า 8 ล้านคน ทำให้เราสามารถวิเคราะห์ข้อมูลและสามารถเสิร์ฟสินค้าและบริการได้ตรงใจผู้บริโภค จึงทำให้วัตสันอยู่ได้จนถึงทุกวันนี้


ขณะเดียวกัน Grand View Research บริษัทวิจัยด้านการตลาดในสหรัฐอเมริกา ได้เคยประเมินมูลค่าตลาดเสริมความงามทั่วโลกไว้ว่า คาดว่าในปี 2570 มูลค่าตลาดจะขึ้นไปแตะระดับ 2.16 แสนล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 7.14 ล้านล้านบาท เติบโตเฉลี่ยปีละ 13.9% (CAGR ปี 2563-2570) เพิ่มขึ้นจากปี 2563 ประมาณ 2.5 เท่า ขณะที่ในไทยจะแตะระดับ 7.51 พันล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 2.48 แสนล้านบาท โตเฉลี่ยปีละ 16.6% (CAGR ปี 2563-2570) เพิ่มจากปี 2563 เกือบ 3 เท่า

สำหรับ เอ.เอส.วัตสัน กรุ๊ป ก่อตั้งที่ฮ่องกงในปี 2384 เป็นผู้นำร้านค้าปลีกด้านสุขภาพและความงามระดับนานาชาติที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยมีการดำเนินธุรกิจกว่า 16,100 แห่งภายใต้แบรนด์ค้าปลีก 12 แบรนด์ ใน 28 ตลาด สำหรับปีงบประมาณ 2564 เอ.เอส.วัตสันกรุ๊ปมีรายได้รวมที่ 22 พันล้านเหรียญสหรัฐ และในทุกๆ ปีให้บริการนักช็อปมากกว่า 5.5 พันล้านคน ทั้งนี้ เอ.เอส.วัตสัน กรุ๊ป ยังเป็นหนึ่งในสมาชิกของกลุ่มบริษัทข้ามชาติระดับโลกอย่าง ซี.เค.ฮัทชิสัน โฮลดิ้งส์ ลิมิเต็ด ซึ่งมีธุรกิจหลัก 4 ประเภท ได้แก่ ธุรกิจส่งออก, ธุรกิจการค้าปลีก, ธุรกิจโครงสร้างพื้นฐาน และธุรกิจโทรคมนาคมในมากกว่า 50 ประเทศ

ติดตามข่าวสารอัปเดต เศรษฐกิจ เศรษฐกิจโลก เศรษฐกิจในประเทศ บทวิเคราะห์เศรษฐกิจ ล่าสุด ได้ที่นี่

ข่าวเศรษฐกิจ : https://www.thairath.co.th/money/economics 

เศรษฐกิจนในประเทศ : https://www.thairath.co.th/money/economics/thailand_econ

เศรษฐกิจโลก : https://www.thairath.co.th/money/economics/world_econ 


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
กองบรรณาธิการไทยรัฐออนไลน์