"โออิชิ กรุ๊ป" ตอกย้ำผู้นำอาหารและเครื่องดื่มสไตล์ญี่ปุ่น

Business & Marketing

Marketing

กองบรรณาธิการ

Author

กองบรรณาธิการ

Tag

"โออิชิ กรุ๊ป" ตอกย้ำผู้นำอาหารและเครื่องดื่มสไตล์ญี่ปุ่น

Date Time: 28 ม.ค. 2566 05:36 น.

Summary

  • โออิชิ กรุ๊ป เปิดกลยุทธ์หลักในการรุกตลาดในปีนี้ตอบรับกระแสผู้บริโภคตื่นตัวดูแลสุขภาพของตนเองและมีพฤติกรรมเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วหลังเกิดการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19

Latest

รอบรั้วการตลาด : Mega Clinic ทำ all-time high เปิดกลยุทธ์ตอบโจทย์ทุกช่วงวัย

โออิชิ กรุ๊ป เปิดกลยุทธ์หลักในการรุกตลาดในปีนี้ตอบรับกระแสผู้บริโภคตื่นตัวดูแลสุขภาพของตนเองและมีพฤติกรรมเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วหลังเกิดการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ด้วยการตอกย้ำคุณภาพของวัตถุดิบที่นำเข้าจากแหล่งคุณภาพสูงเพื่อนำมาผลิตสินค้าและสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภคชาวไทย

ในการนี้ทางโออิชิ กรุ๊ปได้เชิญสื่อมวลชนไทยเดินทางไปประเทศญี่ปุ่นเพื่อร่วมสังเกตการณ์ถึงแหล่งต้นกำเนิดเครื่องดื่มชาเขียว และ “ตลาดโทโยสุ” ตลาดปลาและอาหารทะเลชั้นนำที่นำเข้ามาเป็นวัตถุดิบอาหารที่เน้นคุณภาพ ความสดใหม่และรสชาติของอาหารญี่ปุ่นในร้านเครือโออิชิ

เริ่มจากไร่ชา “มัตสึดะ” เมืองโอมาเอซากิ ด้วยภูมิประเทศชุ่มชื้นจากสภาพแวดล้อมที่อุดมสมบูรณ์มาก ประกอบกับน้ำที่ได้จากเทือกเขาเจแปนแอลป์เป็นน้ำบริสุทธิ์ อุดมด้วยแร่ธาตุมากมายเหมาะกับการเพาะปลูกชาและมีความเชี่ยวชาญการปลุกชามากว่า 150 ปี ตกทอดมาถึง 5 รุ่นคนกวาดรางวัลชนะเลิศระดับประเทศมาแล้วถึง 3 ครั้ง ครั้งล่าสุดได้รับรางวัล The Emperor’s Cup ชารางวัลจักรพรรดิญี่ปุ่นปี 2015

กรรมวิธีการผลิตชาที่พิถีพิถัน ใบชาทั้งหมดถูกเลือกเก็บจากยอดอ่อนใบชา หลังจากนั้นนำใบชาไปนึ่งด้วยไอน้ำ เพื่อหยุดการเปลี่ยนสีของใบชาและคงคุณภาพชาไม่ให้เสียไป แล้วนำมานวดในทันที เพื่อให้ชาเกิดกระบวนการทางเคมี ใบชาจะมีกลิ่นหอมเป็นพิเศษ เพื่อคงความสดของชาให้มากที่สุด ทาง “โออิชิ” ได้นำเข้าใบชา 100% เพื่อนำมาผลิตเครื่องดื่มชาเขียว “โออิชิ โกลด์” เครื่องดื่มพรีเมียมที่ตอบโจทย์กลุ่มผู้บริโภคที่รักสุขภาพ

สำหรับตลาดโทโยสุ ตลาดปลาและอาหารทะเลชั้นนำที่ทันสมัยและใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่นมีร้านค้ากว่า 700 ร้าน และกลับมามีบรรยากาศาคึกคักหลังโควิด-19 ซึ่งเป็นศูนย์กลางของวัตถุดิบทางทะเลที่สดใหม่ และสะอาด มีการควบคุมอุณหภูมิและความเย็นภายในตลาดให้พอเหมาะ เพื่อให้สามารถรักษาคุณภาพและความสดของปลาและสินค้าอื่นๆ

โดย “โออิชิ” ได้นำเข้าวัตถุดิบจากญี่ปุ่นเพิ่มขึ้นทั้งอาหารทะเล เนื้อสัตว์ และเบเกอรี โดยกลุ่มอาหารทะเลมีปริมาณการนำเข้ามากที่สุด โดย เฉพาะปลาทูน่าญี่ปุ่น จากตลาดโทโยสุ เฉลี่ยนำเข้าสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง โดยมีการควบคุมอุณหภูมิระหว่างการจัดส่งอย่างเข้มงวด พร้อมกันนั้นยังดูแลการจัดเก็บวัตถุดิบอาหารอย่างมีมาตรฐาน เพื่อให้ผู้บริโภคได้สัมผัสถึงความสด ใหม่ และรสชาติที่ดีที่สุดของวัตถุดิบได้อย่างแท้จริง

นางนงนุช บูรณะเศรษฐกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท โออิชิ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ผลประกอบการโออิชิ กรุ๊ป ในปีงบประมาณ 2565 (1 ต.ค.64-30 ก.ย.65) มีรายได้รวม 12,696 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2,878 ล้านบาท หรือเติบโตสูง 29.3% เป็นรายได้จากธุรกิจเครื่องดื่ม 7,292 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,042 ล้านบาท หรือเติบโต 16.7% รายได้จากธุรกิจอาหาร 5,404 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,836 ล้านบาท หรือ 51.5% กำไรสุทธิ 1,199 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 654 ล้านบาท หรือเติบโตถึง 120% จากการผ่อนคลายมาตรการโควิด-19 ในปีที่ผ่านมา โดยผลประกอบการรวมเป็นระดับใกล้เคียงในภาวะปกติก่อนโควิด-19

สำหรับกลยุทธ์ทางธุรกิจในฐานะผู้นำธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มสไตล์ญี่ปุ่น ในปีนี้จะยังคงตอกย้ำจุดยืนด้านคุณภาพ การนำเข้าวัตถุดิบ พัฒนาและสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ๆ ตอบโจทย์เทรนด์ของผู้บริโภค โดยตลาดเครื่องดื่มชาเขียว “โออิชิ” เป็นแชมป์ตลาด มีส่วนแบ่ง 48% จากตัวเลขของ “นีลเส็น” บริษัทวิจัยตลาด เมื่อปีที่ผ่านมา

ในปีนี้กลุ่มธุรกิจเครื่องดื่มจะเดินหน้า 4 กลยุทธ์คือ 1.สื่อสารประโยชน์ของชาเขียว จากสารคาเทชินในชาเขียว จากข้อมูลในหลายๆงานวิจัยพบว่า คาเทชินทำหน้าที่ป้องกันการเกิดอนุมูลอิสระ และช่วยเพิ่มความสดชื่น 2.ขยายฐานกลุ่มวัยรุ่น 3.ขยายเซกเมนต์น้ำตาล 0% ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรักสุขภาพ เช่น โออชิ ฮันนี่ เลมอน น้ำตาล 0% รวมถึงโออิชิ โกลด์ 4.ขยายตลาดส่งออก โดยเพิ่มความแข็งแกร่งในตลาดหลักคือ กัมพูชา ลาว และพม่า ตลอดจนสร้างโอกาสการเติบโตในตลาดใหม่ในกลุ่มประเทศอาเซียน

ทางด้านธุรกิจอาหาร ยังคงเดินหน้าขับเคลื่อนธุรกิจเพื่อรักษาความเป็นผู้นำตลาดในกลุ่มร้านอาหารญี่ปุ่น ด้วยการขยายสาขาและช่องทางการขายในรูปแบบมัลติ ฟอร์แมต และธุรกิจแฟรนไชส์ พร้อมเพิ่มความหลากหลายของช่องทางจำหน่ายแบบไร้รอยต่อ (Omni Channel) และการบริหารจัดการร้านอาหารอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งในเดือน ก.ย. ปีที่ผ่านมา โออิชิมีร้านอาหารในเครือทุกแบรนด์รวม 266 สาขา และมีเป้าหมายขยายสาขาอย่างน้อย 30 สาขาต่อปี

โดยกลยุทธ์ทั้งหมด มุ่งขับเคลื่อนธุรกิจตามเป้าหมาย PASSION 2025 โดยสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ๆ ทั้งผลิตภัณฑ์และบริการที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ผู้บริโภค ที่สอดรับกับแนวคิดเรื่อง Health & Wellness ที่เป็นเทรนด์สำคัญในปัจจุบันและอนาคต ตอกย้ำการเป็นผู้นำธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มสไตล์ญี่ปุ่นในประเทศไทย.

วานิชหนุ่ม
wanich@thairath.co.th


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ