โตโยต้า-ฮอนด้า ย้ำไทยปีนี้กระหึ่ม เศรษฐกิจฉลุยหนุนยอดขายรถยนต์-รถจักรยานยนต์ไปโลด

Business & Marketing

Marketing

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

Tag

โตโยต้า-ฮอนด้า ย้ำไทยปีนี้กระหึ่ม เศรษฐกิจฉลุยหนุนยอดขายรถยนต์-รถจักรยานยนต์ไปโลด

Date Time: 27 ม.ค. 2566 06:15 น.

Summary

  • 2 บิ๊กยานยนต์แถลงลั่นเศรษฐกิจไทยปีนี้ฉลุย หนุนส่งตลาดรถยนต์–จยย.โตต่อเนื่อง โตโยต้าฟันธงยอดขายรถยนต์รวมปีนี้ทะลัก 9 แสนคัน ฮอนด้าชี้ตลาดรถจักรยานยนต์รวมปีนี้ไม่ต่ำกว่า 1.75 ล้านคัน

Latest

คาราบาวแดง ตั้งเป้าเพิ่มแชร์ 3% ทะยานสู่แชมป์ตลาดเครื่องดื่มชูกำลัง ผนึกไทยรัฐ กรุ๊ป ปีที่ 4 ลุยแคมเปญใหญ่

2 บิ๊กยานยนต์แถลงลั่นเศรษฐกิจไทยปีนี้ฉลุย หนุนส่งตลาดรถยนต์–จยย.โตต่อเนื่อง โตโยต้าฟันธงยอดขายรถยนต์รวมปีนี้ทะลัก 9 แสนคัน ฮอนด้าชี้ตลาดรถจักรยานยนต์รวมปีนี้ไม่ต่ำกว่า 1.75 ล้านคัน

นายโนริอากิ ยามาชิตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด เปิดเผยในฐานะที่โตโยต้าเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์ประเทศไทยว่าปี 2565 ถือเป็นปีที่อุตสาหกรรมยานยนต์โดยรวมของประเทศไทยยังอยู่ในภาวะการฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป มีปัจจัยบวกจากการดำเนินมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง พร้อมนโยบายผ่อนคลายทางการเงินของภาครัฐ เพื่อช่วยสนับสนุนในการฟื้นตัวของเศรษฐกิจภายในประเทศ และการส่งออกที่เริ่มเติบโตดีขึ้นตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจของประเทศคู่ค้า ตลอดจนสถานการณ์ของโควิด-19 ที่มีการผ่อน คลายมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดภายในประเทศของภาครัฐ รวมถึงการทยอยฟื้นตัวของการท่อง เที่ยวจากการเปิดประเทศ มีส่วนช่วยให้สถานการณ์เศรษฐกิจในประเทศเริ่มกลับเข้าสู่ภาวะปกติได้ดียิ่งขึ้น แต่ยังคงมีปัจจัยด้านลบอื่นๆที่ส่งผลกระทบอยู่อย่างต่อเนื่อง เช่น ปัญหาการขาดแคลนเซมิ คอนดักเตอร์ที่ยังคงยืดเยื้อส่งผลกระทบกับภาคการผลิตในทุกอุตสาหกรรมทั่วโลก รวมถึงปัจจัยอื่นๆจากสถานการณ์เศรษฐกิจในภาพรวม

ทำให้ในภาพรวมแล้วยังถือว่าการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยเป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้น ซึ่งสะท้อนมายังตลาดรถยนต์ในประเทศ โดยตัวเลขยอดขายรถยนต์รวมทุกประเภทและทุกยี่ห้อภายในประเทศปี 2565 อยู่ที่ 849,388 คัน หรือเพิ่มขึ้น 11.9% เมื่อเทียบกับปี 2564 ประกอบด้วยยอดขายจากตลาดรถยนต์นั่ง 265,069 คัน เพิ่มขึ้น 5.3% และตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ 584,319 คัน เพิ่มขึ้น 15.2% โดยในส่วนของตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ มียอดขาย 454,875 คัน เพิ่มขึ้น 15.6%

สำหรับแนวโน้มอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยโดยรวมในปี 2566 คาดว่าจะยังคงกลับคืนสู่สภาวะปกติอย่างค่อยเป็นค่อยไปพร้อมๆกับการฟื้นตัวของภาคเศรษฐกิจโดยรวมทั้งหมด จากทิศทางที่ดีในการลดระดับโควิด-19 สู่โรคติดต่อเฝ้าระวังของกระทรวงสาธารณสุข ส่งผลให้การดำเนินชีวิตผู้คนเริ่มกลับสู่สภาวะปกติ พร้อมกับการเปิดประเทศส่งเสริมการท่องเที่ยว ที่มีส่วนช่วยเพิ่มอุปสงค์ภายในประเทศ ในขณะที่ปัญหาการขาดแคลนชิ้นส่วนการผลิตก็จะค่อยๆคลี่คลายลงเช่นกัน อันจะส่งผลให้อุตสาหกรรมยานยนต์เริ่มทยอยกลับคืนสู่สภาวะปกติและคาดการณ์ว่ายอดขายรถยนต์ในปี 2566 จะอยู่ที่ 900,000 คัน หรือเพิ่มขึ้น 6.0% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ประกอบด้วย ตลาดรถยนต์นั่ง 301,500 คัน เพิ่มขึ้น 13.7% และตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ 598,500 คัน เพิ่มขึ้น 2.4% เฉพาะในส่วนของโตโยต้า ตั้งเป้าขายปีนี้อยู่ที่ 310,000 คัน หรือเพิ่มขึ้น 7.3% โดยครองส่วนแบ่งทางการตลาดอยู่ที่ 34.4% โดยปีที่แล้วโตโยต้าขายได้อยู่ที่ประมาณ 288,809 คัน หรือเพิ่มขึ้น 20.5% เมื่อเทียบกับปี 2564

ด้านนายชิเกโตะ คิมูระ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไทยฮอนด้า จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายรถจักรยานยนต์ฮอนด้าในไทย กล่าวในฐานะผู้นำตลาดรถจักรยานยนต์ในประเทศไทยว่าภาพรวมตลาดรถจักรยานยนต์ไทยปี 2565 มีแนวโน้มที่ดีขึ้น โดยตลาดรถจักรยานยนต์รวมทุกยี่ห้อมียอดจดทะเบียนอยู่ที่ 1.80 ล้านคัน เติบโตขึ้นจากปีที่ผ่านมา 12% ทั้งนี้ รถครอบครัวยังเป็นเซ็กเมนต์ที่ใหญ่ที่สุดด้วยส่วนแบ่งตลาดถึง 51.8% ตามมาด้วยกลุ่มรถเอ.ที. ที่มีสัดส่วนอยู่ที่ 43.5% เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 0.5% ถือเป็นกลุ่มที่กำลังเติบโตอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ในปี 2565 รถจักรยานยนต์ฮอนด้าปิดตัวเลขที่ 1.38 ล้านคัน เติบโตขึ้น 12% โดยยังครองยอดขายสูงสุดในไทยถึง 34 ปีซ้อน

“สำหรับสภาพเศรษฐกิจในปี 2566 เราคาดการณ์ว่าจะยังมีแนวโน้มดีด้วยปัจจัยบวกจากการเลือกตั้งและอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวที่กลับมาฟื้นตัว แต่เศรษฐกิจโลกยังมีความไม่แน่นอนซึ่งจะส่งผลกระทบกับการส่งออกของไทย จึงคาดการณ์ว่าตลาดรถจักรยานยนต์รวมทุกยี่ห้อในปีนี้จะอยู่ที่ 1.75 ล้านคัน เฉพาะในส่วนของฮอนด้าตั้งเป้าไว้ที่ 1.38 ล้านคัน เท่ากับปีที่ผ่านมา ทั้งนี้ ฮอนด้าพร้อมรุกตลาดปี 2566 ด้วยรถจักรยานยนต์เซ็กเมนต์ใหม่ เพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างของคนไทย ผ่านศูนย์ฮอนด้า วิง เซ็นเตอร์ ที่ในปีนี้จะมีการปรับโฉมถึง 370 แห่ง พร้อมกับยกระดับการทำการตลาดออนไลน์บนทุกแพลตฟอร์มให้เป็นไปตามเทรนด์ปัจจุบัน รวมไปถึงการเพิ่มขีดความสามารถของแอปพลิเคชัน My Honda Moto ให้สามารถรองรับงานบริการได้อย่างรวดเร็ว และหลากหลายมากยิ่งขึ้น”.


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ