ตลาดบ้านพรีเมียมราคา 10 ล้านบาทขึ้นไปยังบูม LPN ตั้งเป้าปี 66 เปิดเพิ่ม 5 โครงการ หลังปิดยอดขาย BAAN 365 RAMA 3 มูลค่า 3,200 ล้านบาท
นายโอภาส ศรีพยัคฆ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการบริษัท แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ LPN กล่าวว่า แนวโน้มสถานการณ์ตลาดบ้านระดับราคา 10 ล้านขึ้น ในช่วงปี 66 นั้นเราคาดว่าจะมีทิศทางที่เป็นบวก
เนื่องจากกำลังซื้อที่ยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่อง เพราะเป็นกลุ่มที่เน้นอยู่อาศัยจริง ผู้ประกอบการยังคงเน้นจับตลาดบ้านกลุ่มนี้ และยังเปิดตัวโครงการใหม่ขึ้นมาเรื่อยๆ เพราะยังมั่นใจในดีมานด์ที่เติบโตขึ้น โดยปัจจัยสำคัญที่ทำให้ตลาดบ้านระดับพรีเมี่ยมยังไปต่อได้ คือสภาพแวดล้อมที่เอื้ออำนวย และให้ความสะดวกในการดำเนินชิวิต
ทั้งนี้จะเห็นว่ากลุ่มบ้านในระดับราคา 10 ล้านขึ้นไปได้ขยายตัวออกไปในพื้นที่ส่วนต่อขยายของกรุงเทพฯ หรือ EBD และได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้ซื้อ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงพฤติกรรมในการอยู่อาศัยและการเลือกที่อยู่อาศัยของคนเมืองที่เปลี่ยนไป
โดยมีปัจจัยสำคัญของการเลือกซื้อบ้านคือ ทำเลที่ตั้ง พื้นที่ใช้สอยกว้างขวาง ระบบรักษาความปลอดภัยที่ดี และมีความเป็นส่วนตัวมากขึ้น โดยระดับราคาบ้านที่มีความต้องการสูงที่สุด คือบ้านที่มีระดับราคาระหว่าง 10-20 ล้านบาท
กลุ่มผู้ซื้อจะเป็นกลุ่มที่ต้องการขยายครอบครัว เช่น กลุ่มเจ้าของธุรกิจส่วนตัว หรือกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ประสบความสำเร็จ รวมถึงกลุ่มคนไทยที่อยู่ต่างประเทศซื้อเก็บเพื่อใช้พักผ่อนในช่วงมาเมืองไทย
จากปัจจัยบวกดังกล่าวทำให้โครงการ BAAN 365 RAMA 3 ซึ่งถือว่าเป็นโครงการบ้านและทาวน์โฮมระดับพรีเมียม เรือธงใหม่จาก LPN เจาะกลุ่มเป้าหมายในระดับ B+ ขึ้นไป ได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้าย่านพระราม 3 ซึ่งเป็นทำเลที่มีกำลังซื้อสูง เนื่องจากเป็นทำเลที่แวดล้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก ติดแม่น้ำเจ้าพระยา และยังคงมีพื้นที่สีเขียวที่ตอบโจทย์กับการใช้ชีวิตที่มีสุขอนามัยที่ดี หรือ Well-being
นายโอภาส กล่าวอีกว่า จากการสำรวจของ บริษัท ลุมพินี วิสดอม แอนด์ โซลูชั่น จำกัด หรือ LWS บริษัทวิจัยและพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในเครือ LPN พบว่า มีโครงการบ้านพักอาศัยในทำเลพระราม 3 นี้ 4 โครงการ มีจำนวนทั้งสิ้น 256 ยูนิต มีอัตรการขายไปแล้ว 57% มีจำนวนหน่วยเหลือขาย 109 หน่วย โดยบ้านพักอาศัยที่ขายดีในทำเลนี้อยู่ที่ระดับราคา 17-25 ล้านบาท สำหรับทาวน์เฮาส์ขนาด 3.5 ชั้น และ 4 ชั้น และบ้านเดี่ยวที่ระดับราคามากกว่า 50 ล้านบาท
ในปี 2566 LPN ยังมีแผนเปิดโครงการแนวราบระดับพรีเมียมอีก 5 โครงการ มูลค่ากว่า 5,000 ล้านบาท ภายใต้แบรนด์ 168 ซึ่งนับว่าเป็นการพัฒนาโครงการที่เน้นเจาะกลุ่มลูกค้าคนรุ่นใหม่ที่ต้องการมีที่อยู่อาศัยเป็นของตัวเอง ท่ามกลางสังคมคุณภาพ น่าอยู่ ปลอดภัย และเป็นส่วนตัว ตามมาตรฐานและคุณค่าของ LPN
นายโอภาส ทิ้งท้ายว่า ถึงแม้ปีนี้จะเป็นอีกปีที่ท้าทาย แต่เรามั่นใจว่าจะสามารถรับมือกับความผันผวนของสถานการณ์ได้ ภายใต้ความแข็งแกร่งทางการเงิน และความเชื่อมั่นของลูกค้าในเรื่องของแบรนด์ และคุณภาพมาตรฐาน ทั้งสินค้าและการบริการทั้งก่อน-หลังการขายจาก LPN.