วันเสาร์สบายๆวันนี้คุยข่าวดีๆในบ้านเมืองดีกว่านะครับ วารสารการเงินธนาคาร ฉบับธันวาคม เพิ่งประกาศผล “นักการเงินแห่งปี 2565” และ “แชมป์เศรษฐีหุ้นไทยปี 2565” หมาดๆ ที่เป็นบิ๊กเซอร์ไพรส์ในเศรษฐีหุ้นไทยปีนี้ก็คือ เศรษฐีหุ้นอันดับ 2 ม้ามืดข้ามฝั่งมาจาก สปป.ลาว ที่ไม่มีใครรู้จัก จู่ๆก็พุ่งขึ้นมาเป็น เศรษฐีหุ้นรวยอันดับ 2 ในตลาดหุ้นไทย ด้วยความมั่งคั่งกว่า 81,630 ล้านบาท แถมยังถือหุ้นอยู่ในโครงการไฟฟ้ามูลค่ามหาศาลใน สปป.ลาว ร่วมกับคนไทยอีกด้วย
เศรษฐีหุ้นไทยจาก สปป.ลาว คนนี้ เธอเป็นใครมาจากไหน เดี๋ยวจะเล่าสู่กันฟัง
คนแรกที่ต้องขอแสดงความยินดีก็คือ คุณวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการ ธนาคารออมสิน เจ้าของนโยบาย “ธนาคารเพื่อสังคม Social Bank” สร้างผลงานในฐานะนายแบงก์ในช่วง 3 ปีที่ก้าวเข้ามาเป็น ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน จนสามารถคว้ารางวัลเกียรติยศ “นักการเมืองแห่งปี 2565 Financier of the Year 2022” จาก วารสาร การเงินธนาคาร ไปครองได้สำเร็จ ผ่านเกณฑ์การพิจารณาตัดสินทั้ง 4 ด้านของ วารสาร การเงินธนาคาร อย่างเป็นเอกฉันท์ในฐานะ นักการเงินที่มีวิสัยทัศน์กว้างไกล ทันสมัย ซื่อสัตย์ต่อวิชาชีพ สร้างความเติบโตให้กับองค์กร และมีความรับผิดชอบต่อสังคมส่วนรวม
ด้วยแนวคิด “ธนาคารเพื่อสังคม” ทำให้หลายคนสงสัย แล้วจะสร้างผลกำไรให้แบงก์ได้อย่างไร แต่ คุณวิทัย ก็ทำกำไรให้แบงก์ออมสินเป็นกอบเป็นกำ ปี 2562 มีกำไรสุทธิ 24,208 ล้านบาท ปี 2563 มีกำไรสุทธิ 18,660 ล้านบาท ปี 2564 มีกำไรสุทธิ 25,260 ล้านบาท โดย คุณวิทัย ได้รุกเข้าสู่ ธุรกิจ Non-Bank ช่วยประชาชนระดับรากหญ้า กดดอกเบี้ยจำนำทะเบียนรถในตลาดลดจาก 28% ลงมาเหลือ 16-18% ปล่อยสินเชื่อ “SMEs มีที่ มีเงิน” ให้กับ เอสเอ็มอีที่มีที่ดินเป็นหลักประกันเพื่อเพิ่มสภาพคล่องวงเงินกว่า 21,250 ล้านบาท และ ปล่อยสินเชื่อให้รายย่อยที่เป็น Micro Finance ผ่านแอป MyMo กว่า 1.7 ล้านราย วงเงินกว่า 30,000 ล้านบาท ปัจจุบันแอป MyMo มีลูกค้าใช้บริการกว่า 13 ล้านราย ก็ขอแสดงความยินดีกับ คุณวิทัย รัตนากร นักการเงินแห่งปี 2565 เห็นผลงานแล้วก็ยอมรับว่า เก่งจริงครับ
คนที่ต้องแสดงความยินดีถัดมาคือ คุณสารัชถ์ รัตนาวะดี หรือ “เสี่ยกลาง” เจ้าของบริษัทพลังงาน กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ที่แผ่ขยายอาณาจักรไปเป็นเจ้าของธุรกิจสื่อสาร อินทัช เอไอเอส และ ดาวเทียมไทยคม ตลอดจนท่าเรือน้ำลึก แต่หุ้นที่นำมาคำนวณนับเฉพาะหุ้นที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ไทยเท่านั้น “เสี่ยกลาง” สามารถรักษาแชมป์ “เศรษฐีหุ้นไทยปี 2565” จากการจัดอันดับของ วารสาร การเงินธนาคาร เป็นปีที่ 4 ติดต่อกัน ด้วยความมั่งคั่ง 218,981 ล้านบาท ถ้านับรวมหุ้นหรือทรัพย์สินที่มีอยู่ทั้งหมด น่าจะมากกว่านี้อีกเท่าตัว ปี 2565 ถ้าจีดีพีไทยโตขึ้นอีก 3.5% ตามที่สภาพัฒน์คาดการณ์ “เสี่ยกลาง” จะรวยเพิ่มขึ้นจากปีนี้อีกเยอะทีเดียว
เศรษฐีหุ้นไทยที่ถือว่าเซอร์ไพรส์สุดๆในปีนี้ก็คือ คุณปณิชา ดาว ผู้ถือหุ้นใหญ่ 80% อันดับ 1 ใน บมจ.พีเอสจี คอร์ปอเรชั่น (PSG) ด้วยมูลค่าหุ้นสูงถึง 81,630 ล้านบาท แต่ไม่มีตำแหน่งในบริษัท วารสาร การเงินธนาคาร รายงานว่า คุณปณิชา ดาว เป็นภรรยาของ นายเดวิด แวน ดาว ซีอีโอ PSG กลุ่มทุนจาก สปป.ลาว ที่เข้ามาเทกโอเวอร์ บมจ.ที เอ็นจิเนียร์ริ่ง คอร์เปอร์เรชั่น ในตลาดหลักทรัพย์ ด้วยมูลค่าหุ้นละ 2 สตางค์ จำนวน 54,044 ล้านหุ้น ราว 1,080 ล้านบาท ณ 30 กันยายน หุ้น PSG อยู่ที่ 1.57 บาท มูลค่า 8 หมื่นกว่าล้านบาท
ข้อมูล การเงินธนาคาร ระบุว่า เธอและสามีหุ้นใหญ่ใน บริษัทหลวงพระบาง พาวเวอร์ เจ้าของโครงการ เขื่อนผลิตไฟฟ้าพลังน้ำหลวงพระบาง อีกด้วย มีกำลังการผลิตปีละ 1,460 เมกะวัตต์ สัมปทาน 32 ปี นับจากวันจ่ายไฟ โดยมี กลุ่ม ช.การช่าง ร่วมถือหุ้นในโครงการนี้ด้วย
เศรษฐกิจเมืองไทยมีโอกาสมากมาย เศรษฐีเพื่อนบ้านมาลงหลักปักฐานในไทยกันทั้งนั้น ถ้ารัฐบาลบริหารเป็นและเก่ง ไม่ต้องไปลดภาษีแบบแจกแถมจนถึงขายที่ดินชาติเพื่อจูงใจ ขอแค่ “มีความโปร่งใส เล่นตามกติกาสากล” ประเทศไทยก็รวยไม่รู้เรื่องแล้ว.
“ลม เปลี่ยนทิศ”