เคลมประกันโควิด เจอ จ่าย จบ ถึงกาลอวสาน BKI คาดครึ่งปีหลัง 65 กำไรมาเพียบ

Business & Marketing

Marketing

กองบรรณาธิการ

Author

กองบรรณาธิการ

Tag

เคลมประกันโควิด เจอ จ่าย จบ ถึงกาลอวสาน BKI คาดครึ่งปีหลัง 65 กำไรมาเพียบ

Date Time: 6 ก.ค. 2565 13:45 น.

Video

ล้วงลึกอาณาจักร “PCE” สู่บริษัทมหาชน ปาล์มครบวงจร | On The Rise

Summary

  • เคลมประกันโควิด เจอ จ่าย จบ ถึงกาลอวสาน กรุงเทพประกันภัย เชื่อไตรมาส 3/65 เป็นต้นไปจะได้เห็นกำไรจากการรับประกัน แย้มมีโอกาสขึ้นค่าเบี้ยประกันรถยนต์ที่เป็นแบบต่ออายุ

Latest


เคลมประกันโควิด เจอ จ่าย จบ ถึงกาลอวสาน กรุงเทพประกันภัย เชื่อไตรมาส 3/65 เป็นต้นไปจะได้เห็นกำไรจากการรับประกัน แย้มมีโอกาสขึ้นค่าเบี้ยประกันรถยนต์ที่เป็นแบบต่ออายุ หลังอัตราค่าซ่อม ค่าอะไหล่ มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น

เมื่อวันที่ 6 ก.ค. 65 ดร.อภิสิทธิ์ อนันตนาถรัตน ประธานคณะผู้บริหารและกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) หรือ BKI กล่าวว่า ไตรมาสที่ 2/65 นี้เราคาดว่ายอดการจ่ายสินไหมโควิดของบริษัทจะลดลงจากไตรมาส 1/65 ทั้งนี้ บริษัทคาดว่าจะมียอดเคลมสินไหมประมาณ 3.4 พันล้านบาท และถือเป็นไตรมาสสุดท้ายของการสิ้นสุดความคุ้มครองสำหรับการรับประกันภัยโควิดของปี 2564-2565

อย่างไรก็ตาม บริษัทเชื่อว่าผลการดำเนินงานของบริษัทจะมีกำไรจากการรับประกันภัยดีขึ้นในช่วงไตรมาส 3 และ 4 ของปีนี้ โดยปัจจุบันผลการดำเนินงานส่วนประกันภัยที่ไม่ใช่ประกันโควิด ประกอบด้วย รถยนต์ อัคคีภัย ประกันภัยทางทะเล มีกำไรเพิ่มขึ้นถึง 40% ในช่วงที่ผ่านมา รวมถึงกำไรจากการลงทุนที่คาดว่าจะอยู่ในระดับพันล้านบาทเช่นเดียวกับในช่วงไตรมาสแรก

ทั้งนี้ ยอดรวมการเคลมประกันโควิดของบริษัทปี 2564-2565 อยู่ที่ประมาณ 8,700 ล้านบาท แต่จะไม่ส่งผลกระทบต่อสถานะทางการเงินของบริษัทอย่างแน่นอน เพราะที่ผ่านมาบริษัทมีเงินสำรองกองทุนอยู่ที่ 172.3% ซึ่งสูงกว่าที่ คปภ.กำหนดไว้ที่ระดับ 140%

อย่างไรก็ตาม เราเชื่อว่าหลังจากไตรมาส 2/65 เป็นต้นไปเงินสำรองกองทุนของบริษัทจะขึ้นมาอยู่ที่ 200% ใกล้เคียงกับช่วงก่อนเกิดโควิด นอกจากนี้ ในช่วงที่ทำการจ่ายเคลมโควิดบริษัทยังมีสินทรัพย์สภาพคล่องใกล้เคียงเงินสดรองรับอยู่ 466% ประกอบด้วย เงินสด เงินฝาก สินทรัพย์ที่สามารถแปลงเป็นเงินสดได้ทันทีอยู่ในระดับสูง รวมถึงเงินทุนในส่วนของเจ้าของอีก 3.8 หมื่นล้านบาท ทำให้เชื่อมั่นได้ว่าบริษัทจะไม่มีปัญหาเกี่ยวกับสถานะทางการเงินแน่นอน

"สถานะทางการเงินเราถือว่ามั่นคงมาก ที่ผ่านมาเราถือเป็นบริษัทที่มีค่าเฉลี่ยในการจ่ายเคลมสินไหมเฉลี่ยต่ำมากอยู่ที่ 11 วันต่ำกว่าที่ คปภ.กำหนด เพราะเราใช้พนักงานกว่า 400 คนจากหลายส่วนมาช่วยดูแล ซึ่งถ้าเอกสารครบถ้วน มีผลชัดเจนเราสามารถส่งข้อความอนุมัติให้แก่ลูกค้าได้รวดเร็วยิ่งขึ้น แต่ก็มีบางเคสเช่นกันที่เอกสารไม่ครบถ้วนหรือไม่ชัดเจนอาจต้องใช้เวลาในการขอเอกสาร หรือพิจารณา เพราะยอดเคลมแต่ละวันมีจำนวนมาก บางที่สูงถึงกว่า 5 พันเคสต่อวันเลยทีเดียว"

ดร.อภิสิทธิ์ กล่าวอีกว่า สำหรับเบี้ยประกันภัยของบริษัทในช่วงที่ผ่านมามีอัตราการเติบโตประมาณ 2% และคาดว่าทั้งปีจะเติบโตได้ตามเป้าถึงระดับ 5-6% ซึ่งถือเป็นอัตราการเติบโตที่น่าพอใจ และการรับประกันภัยรถยนต์น่าจะเป็นสินค้าหลักที่บริษัทมีอัตราการเติบโตของเบี้ยประกันภัยมากสุด

โดยส่วนหนึ่งน่าจะมาจากการปิดตัวของบริษัทประกันภัยทำให้มีเบี้ยประกันภัยในส่วนนี้กลับเข้ามาโดยครึ่งปีแรกการรับประกันภัยรถยนต์ของบริษัทเติบโตขึ้นประมาณ 15% และมีอัตรากำไรเพิ่มขึ้น 16% ซึ่งเป็นผลมาจากอัตรา Loss ratio มีอัตราลดลงอยู่ที่ 50%

"ที่เราโตแค่ 5-6% เพราะ 2 ปีที่ผ่านมาเราขายโควิดไปค่อนข้างเยอะกว่า 1.3 ล้านกรมธรรม์ ซึ่งเบี้ยที่เข้ามามันไปกลบส่วนโควิดที่หายไป ถ้าไม่นับจากฐานที่มีโควิดเดิมเราก็โตกว่า 10% อยู่แล้ว ซึ่งปีนี้รถยนต์น่าจะมีการเติบโตมากหน่อยเพราะมีเบี้ยกลับเข้ามาจากการปิดตัว และคาดว่าอัตราเบี้ยต่ออายุก็น่าจะเพิ่มขึ้นเล็กน้อย เนื่องจากอัตราค่าซ่อม อะไหล่ มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น"


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
กองบรรณาธิการไทยรัฐออนไลน์