ธุรกิจรับสร้างบ้านหรูโตสวนกระแสเศรษฐกิจแม้มีโควิด ล่าสุด "แลนดี้ โฮม" เตรียมขยับราคารับต้นทุนวัสดุก่อสร้างพุ่งในไตรมาสที่ 2/65 มั่นใจโกยรายได้อีก 2,750 ล้านบาทในปีนี้
เมื่อวันที่ 8 มี.ค.65 นางสาวพรรัตน์ มณีรัตนะพร ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการและผู้อำนวยการฝ่ายขาย บริษัท แลนดี้ โฮม (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ภาพรวมตลาดรับสร้างบ้านในปัจจุบันต้องเผชิญกับปัจจัยลบ โดยเฉพาะเรื่องของต้นทุนวัสดุก่อสร้างสูงขึ้นต่อเนื่อง ทำให้เราต้องวางแผนเพื่อควบคุมต้นทุนการสร้างบ้านให้อยู่ในงบประมาณ
อย่างไรก็ตาม การควบคุม budget นั้นไม่ใช่การลดคุณภาพของวัสดุก่อสร้าง แต่เป็นการควบคุมค่าใช้ง่ายในส่วนอื่นๆ ซึ่งแลนดี้ โฮม เป็นบริษัทใหญ่ทำให้สามารถทำ forward contract กับพาร์ทเนอร์ได้
จากการประเมินเราไม่รู้ความไม่แน่นอนของวิกฤติรัสเซีย-ยูเครนจะยาวนานแค่ไหน และราคาน้ำมันจะพุ่งสูงขึ้นกระทบต้นทุนสินค้าต่างๆ อยู่ในขณะนี้ ซึ่งเราจะยังคงราคารับสร้างบ้านในอยู่ในระดับเดิมไปก่อน แต่คาดว่าในไตรมาสที่ 2/65 นี้ก็อาจจะต้องปรับราคาขึ้น
นางสาวพรรัตน์ กล่าวอีกว่า แม้ปีที่ผ่านมาธุรกิจรับสร้างบ้านจะได้รับผลกระทบจากโควิด แต่กลุ่มตลาดสร้างบ้านหรู หรือลักซ์ชัวรี นั้นยังโตสวนกระแส โดยแลนดี้ โฮมได้จัดแคมเปญกระตุ้นการตัดสินใจจองสร้างบ้านในไตรมาสที่ 3-4 ที่ผ่านมาเพื่อให้กลุ่มลูกค้าตัดสินใจได้ง่ายขึ้น หลังมีข่าวเรื่องการปรับราคาวัสดุก่อสร้างประมาณ 3-5% ในปี 64 ที่ผ่านมา
ขณะเดียวกันเรายังได้ปรับปรุงพัฒนาแบบบ้านให้ตรงใจลูกค้ามากที่สุด และเพิ่มช่องทางในการพูดคุยกับทางลูกค้าในช่องทางออนไลน์ เพื่อทำให้ลูกค้าสามารถตัดสินใจได้ทันทีไม่ต้องเข้ามาที่สาขา
สำหรับในปี 64 ส่งผลประกอบการเติบโตกว่า 20% คิดเป็นมูลค่ายอดขายกว่า 2,500 ล้านบาท สูงกว่าเป้าที่ตั้งไว้เดิมที่ 2,350 ล้านบาท โดยแบ่งสัดส่วนตามมูลค่าการปลูกสร้าง ดังนี้
บ้านหรูขนาดใหญ่ Brand Landy Grand ราคา 15 ล้านบาทขึ้นไป สัดส่วน 28%
บ้านขนาดกลาง Brand Landy Home ราคา 5-10 ล้านบาท สัดส่วน 47%
บ้านหลังเล็ก Brand Trendy Home ราคา 2-5 ล้านบาท สัดส่วน 25%
สำหรับปี 65 แลนดี้ โฮม ตั้งเป้ายอดขายไว้ที่ 2,750 ล้านบาท โดยเน้นนโยบาย Go Green ขยายฐานลูกค้าในกลุ่มตลาดบ้าน Green Living ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ด้วยเทคโนโลยีเพื่อการอยู่อาศัย อย่าง Solar Roof และ EV chargers เป็นต้น พร้อมตั้งเป้าเป็นผู้นำด้าน E-commerce ทั้งนี้คาดว่าในครึ่งปีแรกจะสามารถปิดยอดขาย 1,200 ล้านบาท
นางสาวภัทรา มณีรัตนะพร ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดและพัฒนาผลิตภัณฑ์ บริษัท แลนดี้ โฮม (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่าในปีนี้ทางแลนดี้ โฮม เน้นสร้างกลยุทธ์การตลาดทางสื่อออนไลน์เพิ่มขึ้น เพื่อสอดรับกับไลฟ์สไตล์ของกลุ่มลูกค้าในปัจจุบัน
โดยลูกค้าสามารถเลือกสร้างบ้านกับทางแลนดี้ โฮม และทำธุรกรรมผ่านทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือ E-commerce เน้นความสะดวกรวดเร็ว เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างทันท่วงที ลูกค้าสามารถตัดสินใจจองสร้างบ้านได้ตลอด 24 ชั่วโมง
นอกจากนี้ในปี 65 ทางแลนดี้ โฮม ได้มีการเปิดตัวแบบบ้าน Pool Villa Series เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ ช่วงโควิด-19 สำหรับกลุ่มลูกค้าที่มีลูกเล็ก ที่ไม่สามารถออกไปทำกิจกรรมนอกบ้านได้ ก็สามารถเล่นน้ำในสระว่ายน้ำส่วนตัวได้
นายพานิช มณีรัตนะพร ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาธุรกิจ บริษัท แลนดี้ โฮม (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ในปีนี้เรายังให้ความสำคัญกับเทคโนโลยีการอยู่อาศัยในราคาที่จับต้องได้ อย่าง เทคโนโลยีใหม่ล่าสุด CAP+ หรือ แค็พพลัส ระบบเติมอากาศบริสุทธิ์ภายในบ้าน ช่วยลดการสะสมของคาร์บอนไดออกไซด์กรองฝุ่น PM 2.5 และป้องกันเชื้อโรคเข้าสู่ภายในห้อง
โดยเราติดตั้งให้บ้านทุกหลังที่สร้างบ้านกับ แลนดี้ โฮม และได้รับผลตอบรับเป็นอย่างดีจากลูกค้า ขณะเดียวกันเรายังได้ให้ความสำคัญกับ Green Technology หรือเทคโนโลยีเพื่อสิ่งแวดล้อม สำหรับการอยู่อาศัย อาทิ ลดการใช้พลังงานและทดแทนด้วยพลังงานสะอาด โดยมีแผนที่จะร่วมมือกับพันธมิตรในการนำเสนอสิ่งดีๆ ให้กับลูกค้า
เช่น EV Charger, Solar Panel และระบบป้องกัน รวมถึงระบายความร้อนจากภายนอกเพื่อการใช้พลังงานที่ลดลง อีกทั้งภายในปีนี้เรายังมีแผนที่จะพัฒนาสินค้าและบริการที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของลูกค้าอีกด้วย