ชาวอเมริกันแห่จับจ่ายใช้สอยก่อนเทศกาลวันหยุดยาว ดันตัวเลขค้าปลีกพุ่ง ขณะที่สถานการณ์เงินเฟ้อยังน่าห่วง
สำนักข่าวอัลจาซีรา รายงานว่า ชาวอเมริกันแห่ช็อปปิ้งก่อนเทศกาลสำคัญ แม้ว่าตัวเลขเงินเฟ้อจะพุ่งสูงที่สุดในรอบ 30 ปี โดยกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ ยอดขายค้าปลีกในประเทศขยับข้ึน 1.7 เปอร์เซ็นต์ ในเดือนตุลาคมที่ผ่านมา เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า นับว่าขยายตัวมากที่สุดในรอบ 8 เดือน ขณะที่วิกฤติห่วงโซ่อุปทานและการขาดแคลนวัตถุดิบรวมถึงแรงงาน ส่งผลให้ต้นทุนธุรกิจเพิ่มสูงขึ้น ทำให้ผู้บริโภคชาวอเมริกันต้องแบกรับกับค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้นตามไปด้วย
ด้านเกรโกรี ดาโก นักเศรษฐศาสตร์จากออกซ์ฟอร์ดอีโคโนมิกส์ ระบุว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และปัญหาซัพพลายในภาคยานยนต์ที่มีแนวโน้มดีข้ึน ประกอบกับการจับจ่ายใช้สอยก่อนเข้าสู่ช่วงเทศกาลวันหยุด ล้วนเป็นปัจจัยที่กระตุ้นให้การใช่จ่ายพุ่งสูงขึ้น ซึ่งแต่ละครัวเรือนเดินหน้าใช้จ่ายแม้ว่าราคาสินค้าจะเพิ่มสูงขึ้นก็ตาม เนื่องจากยังมีเงินเก็บสะสมจากช่วงที่โรคโควิด-19 ระบาด
ขณะที่ครัวเรือนรายได้สูงมีกำลังจ่ายในช่วงเงินเฟ้อที่สินค้ามีราคาแพง แต่ครัวเรือนที่มีรายได้ต่ำนั้นกลายเป็นกลุ่มที่ได้รับผลกระทบอย่างหนัก ซึ่งในช่วงที่สินค้ามีราคาแพง ผู้บริโภคสามารถชะลอการใช้จ่าย ตัดการซื้อสินค้าที่ไม่จำเป็น แต่ในปีนี้กลับไม่เป็นเช่นนั้น เมื่อชาวอเมริกันที่มีกำลังซื้อได้แห่ช็อปปิ้งสินค้าแบบไม่ยั้ง ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าเศรษฐกิจในปีหน้าจะปรับตัวไปในทิศทางที่ดีขึ้น ทั้งความเชื่อมั่นของผู้บริโภค การฟื้นตัวของตลาดแรงงาน รวมถึงรายได้ที่เพิ่มมากขึ้น.
ที่มา: Aljazeera