REIC เผยตลาดที่อยู่อาศัยครึ่งแรก 64 ชะลอตัว โครงการใหม่ลดฮวบ 32.0%

Business & Marketing

Marketing

กองบรรณาธิการ

Author

กองบรรณาธิการ

Tag

REIC เผยตลาดที่อยู่อาศัยครึ่งแรก 64 ชะลอตัว โครงการใหม่ลดฮวบ 32.0%

Date Time: 8 ก.ย. 2564 13:07 น.

Video

ทางรอดเศรษฐกิจไทยในยุค AI ครองโลก | 1st Anniversary Thairath Money

Summary

  • REIC สำรวจพบ ตลาดที่อยู่อาศัยครึ่งปีแรก 64 หดตัว Supply ใหม่ -32% คอนโดชะลอตัวกว่าบ้านจัดสรร ขณะที่ผู้ประกอบการเน้นระบายโครงการเดิมแทนการสร้างใหม่

Latest


REIC สำรวจพบ ตลาดที่อยู่อาศัยครึ่งปีแรก 64 หดตัว Supply ใหม่ -32% คอนโดชะลอตัวกว่าบ้านจัดสรร ขณะที่ผู้ประกอบการเน้นระบายโครงการเดิมแทนการสร้างใหม่

เมื่อวันที่ 7 ก.ย. 64 ที่ผ่านมา ดร.วิชัย วิรัตกพันธ์ ผู้ตรวจการธนาคารอาคารสงเคราะห์ และรักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ หรือ REIC กล่าวว่า ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ได้ทำการสำรวจภาคสนามถึงสภาวะของตลาดที่อยู่อาศัยใน 27 จังหวัดที่สำคัญ พบว่า อุปทาน หรือ Supply ที่อยู่อาศัยใหม่ที่เข้าสู่ตลาดใหม่มีความเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจน

โดยในช่วงครึ่งแรกของปี 64 มีจำนวนหน่วยเพียง 29,775 หน่วย ลดลง -32.0% และมีมูลค่า 118,667 ล้านบาท ลดลง -37.3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 63 ซึ่งเป็นผลมาจากโควิด-19 แพร่ระบาด ทำให้ภาพรวมเศรษฐกิจไทยในปี 64 และภาพรวมตลาดที่อยู่อาศัยของทั้งประเทศเปลี่ยนแปลงไป 

นอกจากนี้ยังพบว่า โครงการอาคารชุดมีอุปทานชะลอตัวมากกว่าโครงการบ้านจัดสรร โดยประเภทโครงการอาคารชุดเข้าใหม่ในพื้นที่ 27 จังหวัด มีจำนวนประมาณ 8,769 หน่วย รวมมูลค่า 28,918 ล้านบาท ลดลง -46.0% และ -53.3% ตามลำดับ ในขณะที่ประเภทโครงการบ้านจัดสรรเข้าใหม่ มีจำนวนหน่วยประมาณ 21,006 หน่วย มูลค่ารวม 89,749 ล้านบาท ลดลง -23.9% และ -29.6% ตามลำดับ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 63

ทั้งนี้ ภาพรวมของอุปทานที่อยู่อาศัยทั้งหมดที่มีการขายในตลาดพื้นที่ 27 จังหวัด ช่วงครึ่งแรกปี 64 มีจำนวนทั้งสิ้น 328,657 หน่วย มูลค่ารวม 1,446,276 ล้านบาท จำนวนหน่วยลดลง -5.7% มูลค่าลดลง -6.4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า แสดงให้เห็นถึงกลยุทธ์การปรับตัวของผู้ประกอบการพัฒนาที่อยู่อาศัย ที่ไม่เพิ่มเติมสินค้าใหม่เข้ามาในตลาดมากนัก แต่จะเน้นการระบายสินค้าเดิมที่มีอยู่ออกไป เพื่อสร้างสภาพคล่องในการบริหารจัดการ

ขณะเดียวกัน REIC ยังพบอีกว่า ยอดขายที่อยู่อาศัยขายได้ใหม่ในภาพรวมในช่วงครึ่งแรกปี 64 มีจำนวนที่อยู่อาศัยขายได้ใหม่ประมาณ 45,895 หน่วย มูลค่า 195,803 ล้านบาท หรือ ลดลง 14.3% และ 14.7% ตามลำดับ เรียงตามประเภทที่อยู่อาศัย ดังนี้

- โครงการบ้านจัดสรร ขายได้ใหม่ 27,489 หน่วย มูลค่า 124,219 ล้านบาท ลดลง -22.6% และ -20.7% ตามลำดับ

- โครงการอาคารชุด ขายได้ใหม่ 18,406 หน่วย มูลค่า 71,583 ล้านบาท ในส่วนของจำนวนหน่วยเพิ่มขึ้น 1.8% ในขณะที่มูลค่าลดลง -1.8% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 63 

อย่างไรก็ตาม จะสังเกตได้ว่า จำนวนหน่วยเพิ่มขึ้นเล็กน้อย เพราะในปี 63 มีฐานที่ต่ำมาก นอกจากนี้ยังพบว่าอัตราดูดซับในภาพรวมลดลงต่ำกว่าช่วงเดียวกันของปี 63 ถือว่าอยู่ในระดับต่ำอยู่แล้ว

อย่างไรก็ตาม จำนวนยอดขายน้อยลงรวมกับอุปทานเข้าใหม่ในตลาดน้อยลง จึงทำให้จำนวนหน่วยเหลือขายลดลงตามไปด้วย ช่วงครึ่งแรกปี 64 มีที่อยู่อาศัยเหลือขายจำนวน 282,762 หน่วย คิดเป็นมูลค่า 1,250,473 ล้านบาท ลดลง -4.1% และ -4.9%

ทั้งนี้ถือว่าช่วยลดแรงกดดันของภาวะหน่วยเหลือขายในตลาดให้ลดความรุนแรงลง และสะท้อนว่าตลาดมีการปรับสมดุลของอุปสงค์และอุปทานมาอย่างต่อเนื่อง โดยศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ได้ส่งสัญญาณเตือนตลาดมาอย่างต่อเนื่อง.


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
กองบรรณาธิการไทยรัฐออนไลน์