ไทยพาณิชย์ลุยแก้หนี้ “เพซ” ประกาศยืดพักหนี้ท่องเที่ยว-โรงแรม

Business & Marketing

Marketing

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

Tag

ไทยพาณิชย์ลุยแก้หนี้ “เพซ” ประกาศยืดพักหนี้ท่องเที่ยว-โรงแรม

Date Time: 5 มี.ค. 2564 07:43 น.

Summary

  • ไทยพาณิชย์ลุยสางหนี้ “เพซ ดีเวลลอปเมนท์” หมื่นล้าน ปล่อยกู้ใหม่ 1.5 พันล้าน ก่อสร้างนิมิตร หลังสวนให้เสร็จพร้อมโอน หวังต้นปีหน้าได้เงินคืน 5 พันล้าน

Latest

คาราบาวแดง ตั้งเป้าเพิ่มแชร์ 3% ทะยานสู่แชมป์ตลาดเครื่องดื่มชูกำลัง ผนึกไทยรัฐ กรุ๊ป ปีที่ 4 ลุยแคมเปญใหญ่

ไทยพาณิชย์ลุยสางหนี้ “เพซ ดีเวลลอปเมนท์” หมื่นล้าน ปล่อยกู้ใหม่ 1.5 พันล้าน ก่อสร้างนิมิตร หลังสวนให้เสร็จพร้อมโอน หวังต้นปีหน้าได้เงินคืน 5 พันล้าน นอกจากนั้นยังแปลงหนี้เป็นทุนเข้าไปถือหุ้นดีน แอนด์ เดลูก้า 25% ส่วนหุ้นที่เหลืออีก 75% ใช้ค้ำประกันเงินกู้ เร่งปรับโครงสร้างธุรกิจ ประกาศอุ้มสินเชื่อโรงแรม–ท่องเที่ยวยืดหนี้–พักหนี้ฝ่าโควิด–19

นายสารัชต์ รัตนาภรณ์ ผู้จัดการใหญ่ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยกรณีการปรับโครงสร้างหนี้ของบริษัท เพซ ดีเวลลอปเมนท์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ PACE ว่า ธนาคารเตรียมปล่อยสินเชื่อเพิ่มให้อีก 1,500 ล้านบาท ซึ่งเป็นไปตามคำสั่งศาลล้มละลายกลาง กรณีการยื่นฟื้นฟูกิจการ เพื่อนำสินเชื่อที่ปล่อยให้ใหม่ดังกล่าวนำไปก่อสร้างโครงการนิมิตร หลังสวน ให้แล้วเสร็จ และขายให้ลูกค้าที่จองซื้อไว้ ซึ่งจะทำให้เมื่อปิดการโอนโครงการให้กับลูกค้าในช่วงต้นปีหน้า ธนาคารจะได้รับสินเชื่อคืนประมาณ 5,000 ล้านบาท

“ความคืบหน้าการแก้ไขหนี้เพชที่ธนาคารปล่อยกู้ไป 10,000 ล้านบาทนั้น ในส่วนของโครงการนิมิตร หลังสวนมีลูกค้าจองซื้อหมดแล้ว เหลือเพียงก่อสร้างโครงการให้จบ ธนาคารจึงจะปล่อยกู้เพิ่ม 1,500 ล้านบาท ขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจากับผู้รับเหมาจะได้ข้อสรุปเร็วๆนี้ ขณะที่ในส่วนของ “ดีน แอนด์ เดลูก้า” จบกระบวนการฟื้นฟูกิจการที่สหรัฐฯ แล้วตอนนี้อยู่ระหว่างการปรับโครงสร้างธุรกิจ ส่วนโครงการมหาสมุทร ที่หัวหิน ซึ่งต้องพึ่งพากำลังซื้อจากต่างชาติ กรณีนี้รอหลังจบโควิด-19 เพื่อให้กำลังซื้อกลับมา จึงจะดำเนินโครงการต่อไป”

ทั้งนี้ สำหรับดีน แอนด์ เดลูก้า ที่ได้จบกระบวนการฟื้นฟูกิจการที่ประเทศสหรัฐฯเรียบร้อยแล้ว ธนาคารได้ชำระหนี้ให้กับเจ้าหนี้ต่างประเทศไปทั้งหมด และมีการแปลงหนี้เป็นทุน ธนาคารไทยเข้าไปถือหุ้นในดีน แอนด์ เดลูก้า ในสัดส่วน 25% ของทุนจดทะเบียน และหุ้นที่เหลืออีก 75% ใช้เป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันหนี้ของธนาคาร ขณะนี้อยู่ระหว่างการปรับโครงสร้างธุรกิจ และพร้อมเลือกแนวทางที่ดีที่สุด เพื่อให้ธนาคารได้รับชำระหนี้คืนเต็มจำนวน อย่างไรก็ตาม ธุรกิจของดีน แอนด์ เดลูก้า ทั้งในประเทศไทย และเอเชีย ยังสามารถสร้างกำไรได้ แม้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 จะส่งผลกระทบต่อธุรกิจ

นายสารัชต์ยังได้กล่าวต่อถึงสินเชื่อลูกค้าสินเชื่อท่องเที่ยว และโรงแรม ที่ธนาคารมีส่วนแบ่งการตลาดมากที่สุดอันดับ 1 ของระบบธนาคารพาณิชย์ มีสินเชื่อรวม 80,000 ล้านบาท หรือคิดเป็น 10% ของสินเชื่อรายใหญ่ของธนาคาร อย่างไรก็ตาม สินเชื่อที่ปล่อยกับโรงแรมและท่องเที่ยวส่วนใหญ่เป็นผู้ประกอบการรายใหญ่ มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน 40-60% ของวงเงินสินเชื่อ ซึ่งผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ระลอกใหม่ ทำให้มีลูกค้าในส่วนนี้ประมาณ 90% เข้าโครงการช่วยเหลือพักเงินต้น และดอกเบี้ย 6 เดือน ซึ่งเมื่อมาตรการสิ้นสุดในเดือน มิ.ย.64 ลูกค้ายังไม่สามารถชำระหนี้ได้ ธนาคารก็พร้อมพิจารณาช่วยเหลือเป็นรายๆไป และตามความเหมาะสม โดยเชื่อว่าสถานการณ์การท่องเที่ยวจะกลับมาฟื้นไตรมาส 1 ปี 65 หรืออย่างช้าไตรมาส 3 ขึ้นอยู่กับการฉีดวัคซีนโควิด-19

“สินเชื่อท่องเที่ยวและโรงแรม แม้ว่าจะได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ละลอกใหม่ แต่ยังมีลูกค้าในสัดส่วน 10% ที่ยังชำระหนี้ได้ปกติ โดยผู้ประกอบการมีรายได้จากธุรกิจอื่นๆ นำมาชำระหนี้ และหากธุรกิจโรงแรม และท่องเที่ยวฟื้นตัว ผู้ประกอบการต้องการเงินไปปรับปรุงกิจการ ธนาคารก็พร้อมสนับสนุนสินเชื่อ”.


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ