"อารียา พรอพเพอร์ตี้" ชื่อนี้มีดีที่ไม่ได้แค่สร้างบ้าน

Business & Marketing

Marketing

กองบรรณาธิการ

Author

กองบรรณาธิการ

Tag

"อารียา พรอพเพอร์ตี้" ชื่อนี้มีดีที่ไม่ได้แค่สร้างบ้าน

Date Time: 26 ธ.ค. 2563 05:01 น.

Summary

  • เหลือเพียงไม่กี่วันก็จะผ่านพ้นปีนี้ที่ทุกๆธุรกิจล้วนได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ซึ่ง “อารียา พรอพเพอร์ตี้” ผู้นำในการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทย

Latest

รอบรั้วการตลาด : Mega Clinic ทำ all-time high เปิดกลยุทธ์ตอบโจทย์ทุกช่วงวัย

เหลือเพียงไม่กี่วันก็จะผ่านพ้นปีนี้ที่ทุกๆธุรกิจล้วนได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ซึ่ง “อารียา พรอพเพอร์ตี้” ผู้นำในการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทย มองว่า ในทุกวิกฤติมีโอกาสพิสูจน์ฝีมือการทำงานแบบมืออาชีพ

ในฐานะผู้คร่ำหวอดในแวดวงธุรกิจอสังหา จึงแก้เกมพลิกสถานการณ์ที่ผู้คนกลัวการจับจ่าย ไม่กล้าลงทุนซื้อสินทรัพย์ขนาดใหญ่ ด้วยการปรับกลยุทธ์การตลาดอย่างรวดเร็ว และการออกแบบบ้านสอดรับกับพฤติกรรมผู้บริโภคยุคใหม่ที่เปลี่ยนสู่ Back to Basic เน้นให้ความสำคัญด้านความเป็นอยู่ และใช้เวลาทำกิจกรรมที่บ้านมากขึ้น ตอกย้ำความเป็น “อารียา” ว่าไม่ได้ทำแค่บ้านจัดสรร แต่ได้ออกแบบสังคม ชีวิต และความเป็นอยู่

นายวิวัฒน์ เลาหพูนรังษี ประธานกรรมการอาวุโส บริษัท อารียา พรอพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ภาพรวมของอารียาในปีนี้นับว่าเป็นอีกปีที่ถือเป็นบททดสอบฝีมือได้เป็นอย่างดี และผลที่ออกมาน่าพึงพอใจมาก โดยดูได้จากตัวเลขผลประกอบการไตรมาส 3 ของปีนี้ ที่สูงเกือบ 3,000 ล้านบาท โตขึ้นถึง 339% เมื่อเทียบจากช่วงเดียวกันของปีก่อน

โครงการที่ถือว่าเป็น “ฮีโร่ โปรเจกต์” ของปีนี้ คือ โคโม่ เบียงก้า บางนา (Como Bianca Bangna) ที่แม้ในช่วงเวลานั้นจะเกิดผลกระทบจากการแพร่ระบาดมาตั้งแต่ต้นปี แต่อารียามีทฤษฎีหนึ่งที่เชื่อว่า ยังไงบ้านและที่อยู่อาศัยเป็นปัจจัยที่สำคัญต่อการดำรงชีวิตและการวางกลยุทธ์ของแบรนด์ผ่านความเข้าใจถึงรูปแบบการใช้ชีวิตและความต้องการ ของครอบครัวคนเมืองยุคนิวนอร์มอล และคอนเซปต์ของโครงการเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่สะท้อนความสำเร็จ นั่นคือ Eco Minimal Living ซึ่งการใช้งาน พื้นที่ใช้สอย และความงดงามของสถาปัตยกรรมถูกผนวกเข้าด้วยกันอย่างลงตัว เน้นความ “น้อยแต่มาก”

นอกจากนี้ยังชูจุดเด่นด้านความใส่ใจในสิ่งแวดล้อม หรือ Zero Waste เพื่อให้ผู้อาศัยสามารถใช้ชีวิตร่วมกับธรรมชาติได้อย่างกลมกลืน จากสิ่งนี้เอง ถือเป็นไฮไลต์ที่ทำให้กลุ่มเป้าหมายมีความสนใจในตัวโครงการมากขึ้น ส่งผลให้ขายหมดจนปิดโครงการในเฟสแรกมูลค่า 250 ล้านบาท ได้ภายในช่วง 2 วันแรกของการพรีเซล จนเรียกได้ว่าสวนกระแสตลาดในช่วงเวลานั้น

นอกจากนี้ อารียายังส่งโครงการไฮไลต์ส่งท้ายปีตามมาอีก 2 โครงการ ได้แก่ โคโม่ โบทานิก้า (Como Botanica) ออกแบบชีวิตให้ชิดธรรมชาติ และ เดอะ วิลเลจ บางนา–วงแหวนฯ 4 บ้านในฝันสไตล์ American Cottage ที่ใหม่และใหญ่ขึ้นพร้อมฟังก์ชันพิเศษ

เมื่อพิจารณาปัจจัยบวกที่ทำให้ธุรกิจของอารียายังเติบโตสวนกระแสตลาดในขณะนี้ ส่วนหนึ่งมาจากการที่บริษัทสามารถตรึงพื้นที่สำคัญของกรุงเทพฯ ใน 3 เขตหลัก ประกอบด้วย โซน “Areeya Heart Quarter Bang Na” ทำเลใจกลางบางนา เน้นกลุ่มเป้าหมายครอบครัวคนเมืองยุคใหม่ ด้วยบ้านเดี่ยว ทาวน์โฮม และวิลเลจ ทาวน์ ราคาตั้งแต่ 2-6 ล้านบาท จากแบรนด์เดอะ คัลเลอร์ส, เดอะ วิลเลจ, โคโม่ พรีโม่ และโคโม่ เบียงก้า โซน “Areeya Urban Zone” สุขุมวิท เอกมัย-รามอินทรา เกษตร-นวมินทร์ เน้นกลุ่มเป้าหมายพรีเมียมด้วยโครงการบ้านเดี่ยว ทาวน์โฮม และโฮมออฟฟิศระดับพรีเมียม ลักชัวรี ราคาตั้งแต่ 6-30 ล้านบาท ด้วยแบรนด์อย่าง ดิ เอวา เรสซิเดนซ์, แมนดารีน่า และเดอะ พาร์ที โซน “Areeya Town กาญจนาภิเษก-ราชพฤกษ์” เน้นกลุ่มเป้าหมายกลุ่ม แมสด้วย บ้านเดี่ยว ทาวน์โฮม และวิลเลจ ทาวน์ ราคาตั้งแต่ 2-3 ล้านบาท จากแบรนด์เดอะ คัลเลอร์ส เดอะ วิลเลจ โคโม่ และเดอะ เพลส

นอกจากนี้ โครงการที่เปิดใหม่ของอารียาในปีนี้ยังได้เน้นเรื่องนวัตกรรม Zero Waste ที่ถูกออกแบบมาเพื่อการใช้ชีวิตที่ไร้ขยะโดยบ้านของโครงการเหล่านี้จะมีถังสำหรับจัดการขยะแบบบูรณาการ ขณะที่ลูกบ้านยังสามารถจัดตารางการเก็บขยะรีไซเคิลได้ด้วยแอปพลิเคชัน “Recycle Time” ของอารียา ที่ทำให้ลูกค้าสามารถเปลี่ยนขยะเป็นเงิน ซึ่งเป็นโครงการที่ริเริ่มและบริหารจัดการโดยอารียา เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ลูกบ้านทุกหลังอีกด้วย

และสิ่งสำคัญที่สุดที่ทำให้อารียาโดดเด่นเหนือคู่แข่งนั้น คือการยึดมั่นหัวใจหลัก 4 ประการ ประกอบด้วย 1.Aesthetic Design and Premium Quality งานออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์โดดเด่นมาพร้อมกับคุณภาพ 2.Sustainable Happiness ความสุขและสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน 3.Innovative Living นวัตกรรมที่ส่งเสริมความเป็นอยู่ทุกรูปแบบ และ 4.Best in class after sales service การเอาใจใส่ดูแลลูกบ้านตั้งแต่เริ่มและหลังการขาย

นายวิวัฒน์กล่าวเสริมว่า จะเห็นได้ว่าอารียาได้วางแผนตั้งรับและรองรับความต้องการในทุกเซ็กเมนต์ อย่างไรก็ตาม ต้องยอมรับว่าการระบาดทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตและความต้องการของผู้คนไปอย่างมาก ทำให้มองว่าความนิยมบ้านเดี่ยวแนวราบจะมีมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งจะไม่หยุดนิ่งในการพัฒนา และก้าวทันความต้องการของโลกและผู้บริโภค พร้อมทั้งพัฒนาระบบต่างๆที่มีอยู่แล้วให้ดียิ่งขึ้น เช่น การออกแบบบ้านที่มีเอกลักษณ์ การเป็นผู้พัฒนารายแรกๆที่นำระบบสมาร์ทโฮมมาใช้เพื่อตอบโจทย์วิถีชีวิตคนยุคใหม่

นี่เป็นแค่เพียงส่วนหนึ่งในยุทธศาสตร์การดำเนินงานของอารียา จากผู้บริหารมืออาชีพอย่าง “วิวัฒน์ เลาหพูนรังษี” ซึ่งในปีหน้าต้องจับตาว่าจะมีอะไรมาเซอร์ไพรส์และเขย่าวงการอสังหาริมทรัพย์อีกหรือไม่.

วานิชหนุ่ม
wanich@thairath.co.th 


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ