นางโสรดา เลิศอาภาจิตร์ รองอธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยถึงสถิติการจดทะเบียนธุรกิจในเดือน พ.ย.63 ว่า มีผู้ประกอบธุรกิจยื่นขอจดทะเบียนจัดตั้งห้างหุ้นส่วนบริษัทใหม่ทั่วประเทศจำนวน 4,479 ราย เมื่อเทียบกับเดือน ต.ค.ที่ผ่านมา ลดลง 17% และเทียบเดือน พ.ย.62 ลดลง 10% โดยมีทุนจดทะเบียนทั้งสิ้น 15,559 ล้านบาท เทียบกับเดือน ต.ค.63 ลดลง 64% และเทียบกับเดือน พ.ย.62 ลดลง 27% เนื่องจากผู้ประกอบการชะลอการจัดตั้งทำธุรกิจใหม่ เพราะเป็นช่วงปลายปี จึงไม่ต้องการทำบัญชีและจัดส่งงบการเงินของปีบัญชี 63 และคาดว่าการจดทะเบียนตั้งใหม่ในเดือน ธ.ค.63 จะลดลงเช่นเดียวกัน
สำหรับธุรกิจจัดตั้งใหม่สูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และธุรกิจบริการด้านอาหารในภัตตาคารและร้านอาหาร โดยธุรกิจบริการด้านอาหารถือว่ากำลังฟื้นตัวต่อเนื่อง จากมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวของรัฐบาล โครงการคนละครึ่ง รวมถึงธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยวที่กำลังฟื้นตัวได้ดี แต่เชื่อว่าเมื่อมีการระบาดซ้ำ การจดทะเบียนตั้งใหม่อาจชะงักบ้าง
ส่วนธุรกิจเลิกกิจการมีจำนวน 2,457 ราย เทียบกับเดือน ต.ค.63 เพิ่มขึ้น 19% และเทียบกับเดือน พ.ย.62 เพิ่มขึ้น 3% มีมูลค่าทุนจดทะเบียน 19,442 ล้านบาท เทียบกับเดือน ต.ค.63 เพิ่มขึ้น 150% และเทียบกับเดือน พ.ย.62 เพิ่มขึ้น 162% โดยธุรกิจที่เลิกกิจการสูงสุด 3 อันดับแรกสอดคล้องกับธุรกิจที่ตั้งใหม่ ที่ตั้งใหม่จำนวนมากเลิกจำนวนมาก ได้แก่ ก่อสร้างอาคารทั่วไป อสังหาริมทรัพย์ ภัตตาคารและร้านอาหาร
ขณะที่ช่วง 11 เดือน (ม.ค.-พ.ย.) ปีนี้ มีธุรกิจจัดตั้งใหม่ 60,053 ราย ลดลง 12% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ทุนจดทะเบียนรวม 207,688 ล้านบาท ลดลง 32% และธุรกิจเลิกกิจการ 14,907 ราย ลดลง 9% ทุนจดทะเบียน 75,133 ล้านบาท ลดลง 17% คาดว่าทั้งปี 63 จะมีการจดตั้งธุรกิจใหม่ป63,000-64,000 ราย ลดลงจากปี 62 ที่มี 71,485 ราย เพราะปี 63 มีโควิดระบาด ทำให้ผู้ประกอบการชะลอการทำธุรกิจ โดยในปี 64 กรมตั้งเป้าหมาย มีธุรกิจตั้งใหม่ 64,000-66,000 ราย โดยจริงๆ แล้ว แนวโน้มการจดทะเบียนตั้งใหม่ กำลังมีทิศทางดีขึ้น ตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ แต่พอมาเจอโควิด-19 ระบาดรอบนี้ ทำให้ต้องรอดูสถานการณ์ในช่วงต่อไป.