นายสุรินทร์ กฤตยาพงศ์พันธุ์ กรรมการผู้อำนวยการ สายธุรกิจโทรทัศน์ บริษัท บีอีซี เวิลด์ จำกัด (มหาชน) เจ้าของสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 เปิดเผยว่า ธุรกิจของช่อง 3 น่าจะพ้นจุดต่ำสุดไปแล้ว หลังจากที่ผลประกอบการไตรมาส 3 ปี 2563 ที่ผ่านมา สามารถทำกำไรได้เป็นครั้งแรกในรอบหลายไตรมาส “เชื่อว่าไตรมาสจากนี้ เราน่าจะสามารถทำผลกำไรได้แล้ว จากความสามารถในการปรับลดต้นทุน ลดขนาดองค์กร และการหารายได้ผ่านช่องทางใหม่ๆ อย่างไรก็ตาม ธุรกิจโทรทัศน์จะดีขึ้นหรือไม่ ขึ้นอยู่กับ 3 ปัจจัย ได้แก่ การแพร่ระบาดของโควิด ปัญหาเศรษฐกิจและความวุ่นวายทางการเมือง”
นายสุรินทร์ยังเปิดเผยในงาน “เปิดวิกบิ๊ก 3 The New Normal” ว่า ทิศทางของช่อง 3 ในปีหน้าจะกลับมาเด่นในคอนเทนต์แบบครบเครื่องมากขึ้น แน่นอนว่าละครยังคงเป็นคอนเทนต์แม่เหล็กหลักและต้องยกมาตรฐานขึ้นมาอีก รวมทั้งคอนเทนต์ข่าว ซึ่งจะเห็นได้ว่าเมื่อ 2-3 ปีที่ผ่านมา ข่าวของช่อง 3 โดดเด่นน้อยลงจึงต้องรื้อฟื้นกลับมาอีกครั้ง โดยจะเริ่มเห็นความเปลี่ยนแปลงตั้งแต่ไตรมาส 4 ของปีนี้เป็นต้นไป
“วิสัยทัศน์ของเรา ยังจะเปลี่ยนจากการเป็นสถานีโทรทัศน์อันดับหนึ่ง เป็นผู้ให้บริการคอนเทนต์ (Content Provider) โดยมองว่าจุดแข็งของการดำเนินธุรกิจในยุคนี้คือ ผลิตคอนเทนต์ด้วยต้นทุน 1 ครั้ง แต่สามารถขายต่อได้หลายแพลตฟอร์ม โดยมองว่าแพลตฟอร์มรับชมหนัง วิดีโอที่เกิดขึ้นใหม่ๆ คือพันธมิตรของช่อง 3 ไม่ใช่คู่แข่ง”
ปัจจุบันรายได้หลักของช่อง 3 สัดส่วน 80% มาจากค่าโฆษณาจากรายการโทรทัศน์ ส่วนอีก 20% เป็นรายได้จากธุรกิจใหม่ (แพลตฟอร์มออนไลน์) และธุรกิจต่างประเทศ โดยสัดส่วนของ 2 ธุรกิจหลังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ.