ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 21 ส.ค.นายนพพร ศุภพิพัฒน์ อดีตผู้ถือหุ้นใหญ่บริษัทวินด์ เอนเนอยี่ จำกัด ได้เปิดแถลงข่าวด่วนผ่าน Zoom ข้ามโลกมาจากฝรั่งเศส เพื่อชี้แจงและตอบโต้กรณีการซื้อขายหุ้นวินด์กับนายณพ ณรงค์เดช ว่า กลุ่มบริษัทของนายณพ คือบริษัท ฟุลเลอร์ตัน เบย์ อินเวสเมนท์ส จำกัด และบริษัท เคพีเอ็น เอนเนอยี โฮลดิ้ง จำกัด ยังค้างชำระค่าซื้อหุ้นวินด์ที่เหลือตามสัญญารวมดอกเบี้ยค้างจ่าย ตามคำพิพากษาเมื่อ มิ.ย.62 ของอนุญาโตตุลาการ 585 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และยังมียอดหนี้ที่จะทยอยครบกำหนดชำระต้นปีหน้าอีก 100 ล้านเหรียญสหรัฐฯ รวม 685 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ดังนั้นที่นายณพอ้างว่าชำระค่าหุ้นหมดแล้วและชนะคดีต่างๆที่ฟ้องร้องกันนั้นจึงไม่เป็นความจริง และแม้หลังจากนั้นนายณพจะร้องขอต่อศาลสูงสิงคโปร์ให้มีคำสั่งเพิกถอนคำชี้ขาดของอนุญาโตตุลาการ ซึ่งล่าสุดปรากฏว่าศาลสูงสิงคโปร์ได้มีคำพิพากษาถึงที่สุดให้ยกคำร้องดังกล่าว
นายนพพร กล่าวว่า แม้ตนจะชนะคดี แต่ลูกหนี้ทั้ง 2 คือ ฟุลเลอร์ตันฯและเคพีเอ็นฯคงไม่มีทรัพย์สินพอชำระหนี้ เพราะนายณพได้ยักย้ายถ่ายโอนหุ้นวินด์ออกจากบริษัททั้ง 2 ไปอยู่ที่บริษัทโกลเด้น มิวสิค ที่ฮ่องกง ซึ่งศาลฮ่องกงได้มีคำสั่งอายัดหุ้นไว้ตามที่ร้องขอ นอกจากนี้ ตนยังได้ฟ้องนายณพ-โกลเด้น มิวสิค-คุณหญิงกอแก้วต่อศาลอังกฤษว่ากระทำละเมิดโกงเจ้าหนี้โดย
โอนถ่ายหุ้นวินด์ โดยเรียกร้องให้จำเลยชำระเงินหลายหมื่นล้านบาท และขอให้ศาลอังกฤษออกคำสั่งห้ามจำหน่ายจ่ายโอนหุ้นวินด์ ซึ่งมั่นใจว่าจะชนะคดีที่ศาลอังกฤษ ซึ่งหากชนะคดีก็จะบังคับให้ โกลเด้น มิวสิคชำระหนี้ หากใช้หนี้ไม่ได้ก็ต้องชำระบัญชีโดยบังคับขายสินทรัพย์ทอดตลาด ซึ่งคือหุ้นวินด์ที่โกลเด้น มิวสิคถืออยู่เกือบ 40% เพื่อนำเงินมาจ่ายหนี้ตน ซึ่งอาจกระทบต่อการนำหุ้นวินด์ระดมทุนเข้าตลาดหุ้นไทยได้ ตั้งแต่ซื้อขายกลุ่มตนได้เงินเพียง 175 ล้านเหรียญ โดยเป็นเงินโอนตรงจากบัญชีร่วมพี่น้องณรงค์เดช 10 ล้านเหรียญ.