น.ส.ปิยวรรณ ล่ามกิจจา รองผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) รักษาการที่ปรึกษาด้านการพัฒนารัฐวิสาหกิจ เปิดเผยว่า ขณะนี้ สคร.อยู่ระหว่างการพิจารณาแนวทางการจำหน่ายหลักทรัพย์ที่ไม่มีความจำเป็นต้องถือครอง หรือเป็นหุ้นที่กระทรวงการคลังถือครองหุ้นต่ำกว่า 50% อีกจำนวน 4 บริษัท โดย สคร.ตั้งเป้าจะขายหลักทรัพย์ทั้งหมดให้ได้ภายใน ก.ย.นี้
ทั้งนี้ หลักทรัพย์ที่นำมาขายเป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่เห็นชอบให้จำหน่ายหลักทรัพย์ที่ไม่จำเป็นต้องถือครองตามที่กระทรวงการคลังเสนอ อาทิ หุ้นที่ได้รับมาโดยนิติเหตุหรือยึดทรัพย์ หุ้นที่หมดความจำเป็นตามนโยบายของภาครัฐ เป็นต้น จำนวน 24 บริษัทที่ผ่านมา สคร.ได้มีการจำหน่ายหลักทรัพย์ไปแล้ว 2 บริษัท จากทั้งหมด 24 บริษัท ได้แก่ บริษัท บางกอกเดินเรือและการค้า จำกัด และบริษัท สยามซิตี้ประกันภัย จำกัด (มหาชน) รวมมูลค่าราว 1 ล้านบาท ส่วนหุ้นที่เหลืออาทิ บริษัท ไทยยูนีค จำกัด บริษัท ชลสิน จำกัด เป็นต้น กระทรวงการคลังเคยประกาศขายแล้วแต่ยังไม่มีผู้ใดสนใจซื้อ
“ส่วนกระบวนการซื้อขายหลักทรัพย์ยังยึดลักษณะเดิมที่หากใครให้ราคาประมูล (บิดดิ้ง) สูงกว่าก็จะขายหลักทรัพย์ให้คนนั้น ส่วนหลักทรัพย์ที่น่าสนใจและยังขายไม่ได้ คือ หุ้นของบริษัทเดวิสกรุ๊ป ซึ่งเกี่ยวข้องกับธุรกิจอาบอบนวด โดย สคร.จะเร่งดูแลเรื่องของราคาให้เหมาะสม ทั้งนี้ ที่ต้องเร่งขายหลักทรัพย์นั้นเป็นเพราะถ้าหากเก็บไว้นานจะมีภาระต้นทุนในการบริหารจัดการ เพราะจะต้องส่งคนไปประชุมทุกครั้ง ซึ่งทำให้เสียทรัพยากรด้านบุคลากร”.