แค่เผาหลอก จับตาหลังปีใหม่ เศรษฐกิจแย่ บริษัทปิดกิจการ คนตกงานเป็นหมื่น

Business & Marketing

Marketing

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

Tag

แค่เผาหลอก จับตาหลังปีใหม่ เศรษฐกิจแย่ บริษัทปิดกิจการ คนตกงานเป็นหมื่น

Date Time: 25 ธ.ค. 2562 18:12 น.

Video

ล้วงไส้ TEMU อีคอมเมิร์ซจีน บุกไทย ทำไมอาจสร้างวิบากกรรมกว่าที่คิด ? | Digital Frontiers

Summary

  • เป็นสิ่งที่ลูกจ้างพนักงานไม่ต้องการให้เกิดขึ้น กับการตกงานกะทันหัน จากข่าวการปิดกิจการของหลายโรงงานในขณะนี้ อย่างกรณีของบริษัทพงศ์พาราโคดันรับเบอร์ จำกัด ทำให้หลายคนรู้สึกเสียวสันหลัง

Latest


เป็นสิ่งที่ลูกจ้างพนักงานไม่ต้องการให้เกิดขึ้น กับการตกงานกะทันหัน จากข่าวการปิดกิจการของหลายโรงงานในขณะนี้ อย่างกรณีของบริษัทพงศ์พาราโคดันรับเบอร์ จำกัด ทำให้หลายคนรู้สึกเสียวสันหลัง ไม่มั่นใจเศรษฐกิจปีหน้าจะเป็นอย่างไร?

“ทีมข่าวเจาะประเด็นไทยรัฐออนไลน์” ตรวจสอบข้อมูลกรมโรงงานอุตสาหกรรม พบว่าตั้งแต่ 1 ม.ค.2562 ถึง 25 ธ.ค. 2562 มีโรงงานเลิกกิจการ จำนวน 1,686 แห่ง ขณะที่โรงงานขอประกอบกิจการใหม่ มีจำนวน 3,219 แห่ง ส่วนข้อมูลตั้งแต่ 1 ม.ค.2562 ถึง 31 ต.ค.2562 กลุ่มอุตสาหกรรมที่มีการเลิกกิจการ สูงสุด 3 อันดับ 1.ผลิตภัณฑ์จากพืช 2.ผลิตภัณฑ์โลหะ และ 3.ผลิตยานพาหนะและอุปกรณ์รวม โดย กทม.เลิกกิจการมากสุด 168 โรงงาน จากจำนวน 1,370 แห่ง และเลิกจ้างงานมากที่สุด 7,715 คน ส่วน จ.ระยอง เลิกกิจการมีเงินลงทุนมากที่สุด 11,949.80 ล้านบาท

นายชาลี ลอยสูง รองประธานคณะกรรมการสมานฉันท์แรงงานไทย (คสรท.) ระบุกับ “ทีมข่าวเจาะประเด็นไทยรัฐออนไลน์” ว่า ช่วงก่อนปีใหม่มีบริษัทปิดไปแล้วหลายแห่ง อย่างล่าสุดบริษัทเซอิชิน จำกัด สาขาชลบุรี ซึ่งผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ เปิดมานาน 20 ปี มีพนักงาน 50 กว่าคน ไม่ได้รับเงินชดเชยการเลิกจ้าง หลังปิดกิจการเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว โดยก่อนหน้าใช้มาตรา 75 จ่ายค่าจ้างเพียง 75% ตั้งแต่วันที่ 20 ก.ย.ที่ผ่านมา และบริษัทพงศ์พาราโคดันรับเบอร์ จำกัด ใน จ.สมุทรสาคร ทำให้พนักงานตกงานกว่า 1 พันคน ส่วนบริษัทมิซูโน พลาสติก ใน จ.พระนครศรีอยุธยา มีการเลิกจ้างพนักงาน 30 กว่าคน เฉพาะที่เป็นสหภาพแรงงาน โดยอ้างภาวะเศรษฐกิจ ถือเป็นการละเมิดสิทธิ์ชัดเจน

“เท่าที่ดูพบว่าบริษัทเซอิชิน สำนักงานใหญ่ตั้งอยู่แถวพระโขนง ในกทม. ยังทำกิจการขายสุราต่างประเทศ แต่ไม่ยอมจ่ายค่าชดเชยให้พนักงานในชลบุรีอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ในจำนวนนี้มีคนท้อง 2 คน คนพิการอีก 2 คน ได้รับความเดือดร้อน ซึ่งต้องพยายามช่วยเหลือ เพราะบริษัทยื่นข้อเสนอมา จะจ่ายค่าชดเชยต่ำกว่ากฎหมายแรงงาน”

จากสถานการณ์ขณะนี้คาดว่า หลังปีใหม่จะมีบริษัท "ปิดกิจการ" อีกจำนวนมาก มีคนเดือดร้อนตกงานกว่า 1 หมื่นคน โดยเห็นได้ชัดจากยอดขายรถยนต์ของบริษัทต้นน้ำ ตกลงอย่างมากกว่า 20% จะทำให้บริษัทในส่วนที่ทำพาร์ทชิ้นส่วน ซึ่งเป็นบริษัทขนาดเล็กมีปัญหา และอาจไม่สนใจกฎหมายแรงงานในการเลิกจ้างพนักงาน เพราะมีพนักงาน 50-100 คนเท่านั้น เนื่องจากถูกกดดันราคาจากบริษัทระดับบน ทำให้อยู่ไม่ได้ ต้องลดต้นทุนด้วยการลดกำลังคน เท่าที่ทราบขณะนี้มีบางบริษัทได้ให้พนักงานออกไปบ้างแล้วโดยได้รับค่าชดเชย

นอกจากนี้การผลิตรถยนต์อีวีที่ใช้ไฟฟ้า ส่วนใหญ่ส่งออกขายต่างประเทศ แต่ด้วยเศรษฐกิจโลกไม่ดี ทำให้ยอดสั่งซื้อลดลง และด้วยอัตราแลกเปลี่ยนจากค่าบาทแข็ง ยิ่งกระทบต่อยอดขาย อีกทั้งรถยนต์อีวีมีราคาสูง จึงไม่มีใครอยากซื้อ ยกเว้นหากค่าบาทอ่อนลง ราคาจะถูกลง ซึ่งอยากให้หลายฝ่ายที่เกี่ยวข้องเอาความจริงมาพูด และยอมรับสภาพความเป็นจริง

“ถามว่าคนของเราจะทำอย่างไรเกี่ยวกับคนตกงาน และกระทรวงแรงงานจะทำอย่างไร เพราะปีหน้าเศรษฐกิจจะแย่ โดยเฉพาะรัฐบาลจะช่วยอย่างไรกับธุรกิจ และกับคนที่ตกงานจำนวนมาก ในการแก้ปัญหาที่ต้นเหตุไม่ใช่ปลายเหตุ ควรวางเป้าดูว่าบริษัทจะพออยู่ได้ หรืออยู่ไม่ได้ ในการเข้าช่วยเหลือจากยอดออเดอร์ที่ตกลง หรือจะเอาคนออก ต้องมีความยุติธรรมตามกฎหมาย เพราะขณะนี้โรงงานทยอยปิดมาตั้งแต่กลางปี บางโรงงานจ่ายค่าชดเชยเลยไม่มีปัญหา”

ส่วนข้อโต้แย้งของรัฐบาลว่ามีโรงงานยื่นจดทะเบียนประกอบกิจการ 2 พันกว่าแห่ง ซึ่งมากกว่าโรงงานที่ปิดกิจการลงนั้น ขณะนี้ยังไม่มีการเปิดกิจการ และยังไม่มีข้อมูลหรือพิกัดในการตั้งโรงงาน รวมถึงรับคนมาเป็นพนักงาน หรือกรณีโครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) แม้มีต่างประเทศเข้ามาเปิดกิจการจริง แต่พบว่าไม่เอาคนงานของไทยเข้าทำงาน ยกตัวอย่างโรงงานของจีน มีการนำคนจีนเข้ามาทำงาน ซึ่งไม่เอื้อต่อคนไทยแต่อย่างใด.


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ