นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เปิดเผยถึงแนวทางการแก้ไขปัญหาความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการดำเนินการในโครงการระบบการขนส่งทางรถไฟยกระดับในกรุงเทพมหานคร (โฮปเวลล์) ว่า ขณะนี้ทางคณะทำงานพิจารณาความเสียหายในโครงการโฮปเวลล์ที่มีนายพิศักดิ์ จิตวิริยะวศิน รองปลัดกระทรวงคมนาคม ได้สรุปรายละเอียดและรายงานว่า ได้พบหลักฐานใหม่อีก 8 ประเด็นที่จะสามารถฟ้องร้องต่อศาลอาญาในคดีทุจริต ซึ่งทางคณะทำงานจะเสนอกลับมายังตนภายในสัปดาห์นี้
ขณะเดียวกันที่จะมีการยื่นฟ้องต่อศาลอาญา ทางคณะทำงานก็จะยังคงเดินหน้าในการยื่นอุทธรณ์ ต่อศาลปกครองสูงสุด ก่อนวันที่ 20 ก.ย.ที่ผ่านมาก่อนหน้านี้ด้วย โดยเนื้อหาการยื่นอุทธรณ์ขอให้ศาลพิจารณาอีกครั้งนี้นั้น ทางคมนาคม และ รฟท. ตามหลักการจะไม่สามารถที่จะนำเสนอข้อมูลรายละเอียดใหม่ให้ศาลพิจารณาได้ เพราะการพิจารณาศาลจะดูจากรายละเอียดเดิม
นอกจากนั้นขณะเดียวกันทางคณะทำงานก็ต้องพิจารณาหาแนวทางการชดเชยความเสียหายจากการบอกเลิกสัญญาโฮปเวลล์ ตามที่ศาลมีคำสั่งให้กระทรวงคมนาคม และ การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ชดใช้กว่า 11,888 ล้านบาทพร้อมดอกเบี้ยด้วย ว่าเงินที่จะนำมาชดใช้จะนำมาจากส่วนไหนบ้างอย่างไร ซึ่งทุกแนวทางทางกระทรวงคมนาคมจะทำควบคู่กันไปทั้งทุกแนวทางที่ทำ
ผู้สื่อข่าวรายงานจากกระทรวงคมนาคมว่า การสู้คดีในหลักฐานการทุจริต ก่อนหน้านี้กระทรวงคมนาคมเคยหยิบยกประเด็นดังกล่าว และต่อสู้จนชนะคดีมาแล้ว คือกรณีบูรพาวิถี เกิดขึ้นจากการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) ถูกฟ้อง จากบริษัทต่างชาติขอเรียกค่าเสียหายทั้งหมดประมาณ 8,000 ล้านบาท แต่เมื่อรวบรวมข้อมูลตรวจสอบคุณสมบัติของอนุญาโตตุลาการที่เป็นคณะของอัยการผู้ตรวจสอบสัญญา และคณะของเจ้าหน้าที่ กทพ.แล้วพบว่า เจ้าหน้าที่ของรัฐหลายรายได้กระทำการเอื้อประโยชน์ให้แก่บริษัทต่างชาติ คณะทำงานจึงได้นำข้อมูลดังกล่าวเสนอต่อศาล ศาลจึงมีคำพิพากษายกฟ้องในกรณีบูรพาวิถีในที่สุด.