“สมคิด” สั่งเพิ่มมูลค่าเกษตรแปรรูป

เร่งปั้นสินค้าต้นแบบ 40 ผลิตภัณฑ์ หวังดันเศรษฐกิจฐานรากเข้มแข็ง

นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยหลังการตรวจเยี่ยมกระทรวงอุตสาหกรรมและประชุมร่วมกับผู้บริหารกระทรวงเพื่อติดตามงาน ว่า ขอให้กระทรวงอุตสาหกรรมมุ่งเน้นนโยบายและงบประมาณ เพื่อเพิ่มการพัฒนาสินค้าเกษตรให้มีมูลค่าสูงขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มเกษตรอุตสาหกรรม (การนำวัตถุดิบภาคการเกษตรมาแปรรูปหรือทำให้เกิดเป็นสินค้าหรือผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าเพิ่มขึ้น) ควบคู่ไปกับการพัฒนาอุตสาหกรรมเป้าหมาย ซึ่งจะต้องทำงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ธนาคารออมสิน ฯลฯ เพื่อสนับสนุนการเติบโตของเศรษฐกิจฐานราก

ทั้งนี้ ปัจจุบันเกษตรอุตสาหกรรมซึ่งเป็นกลุ่มที่จะต้องสนับสนุนการลงทุนให้เพิ่มขึ้นไม่มีใครดูแลจริงจัง ดังนั้น กระทรวงอุตสาหกรรมจึงควรเข้าไปดูแลให้มากขึ้น โดยต้องเพิ่มกำลังคน งบประมาณ การเชื่อมโยงเงินทุน และการตลาด ซึ่งกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) ต้องไปเชื่อมโยง กับสถาบันต่างๆที่มีอยู่ อาทิ สถาบันอาหาร เป็นต้น

“ต้องการให้กระทรวงอุตสาหกรรมร่วมมือกับภาคเอกชนเพื่อร่วมกันพัฒนาประสิทธิภาพการแข่งขันของภาคเอกชน เพราะความสามารถในการแข่งขันของไทยอยู่ในอันดับที่ดี แต่ประสิทธิภาพของภาคธุรกิจไทยไม่ค่อยดี”

นายกอบชัย สังสิทธิสวัสดิ์ อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) กล่าวว่า วันที่ 26 มิ.ย.นี้ กสอ.จะหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) หน่วยงานด้านนวัตกรรม เป็นต้น เพื่อพัฒนาสินค้าเกษตรแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต้นแบบ 40 ผลิตภัณฑ์ โดยจะดึงสินค้าภาคเกษตรที่ได้สิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์หรือจีไอรวม 99 ราย มาพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์สินค้าเกษตรแปรรูปที่โดดเด่นด้านนวัตกรรม

ด้านนายพงชาญ สำเภาเงิน รักษาการกรรมการผู้จัดการธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) กล่าวว่า เตรียมเสนอให้กระทรวงอุตสาหกรรมขอวงเงินสินเชื่อโครงการฟื้นฟูและเสริมศักยภาพวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม สำหรับเอสเอ็มอีคนตัวเล็กเพิ่มอีก 10,000 ล้านบาท หลังจากวงเงิน 8,000 ล้านบาทหมดแล้ว.