นวัตกรรม "นม" ป้องกันฟันผุ "ฮีโร่"…ใหม่เด็กไทย

จะดีแค่ไหนหาก “นม” ที่เด็กๆดื่มไม่เพียงแต่จะให้คุณค่าทางสารอาหารที่ช่วยทำให้ร่างกายเติบโตแข็งแรง แต่กลับช่วยลดปัญหาสุขภาพในช่องปาก เช่น ฟันผุได้ โดยปัญหาฟันผุถือเป็นปัญหาสำคัญที่พบได้บ่อยในกลุ่มเด็กที่ชอบรับประทานขนมหวาน และแปรงฟันไม่สะอาด

เขียนเปิดเรื่องมาเอาใจเด็กๆแบบนี้ Business On My Way สัปดาห์นี้ขอพาไปรู้จักกับอีกหนึ่งธุรกิจที่น่าสนใจ นอกจากเป็นของที่ทานได้แล้ว ยังช่วยเสริมสร้างสุขภาพช่องปากและฟันให้แข็งแรงควบคู่ไปด้วย กับ นวัตกรรมนมป้องกันฟันผุ “แดรี่โฮม” เครื่องดื่มฟังก์ชัน (Functional Drink) จากโพรไบโอติกสายพันธุ์คัดพิเศษ

โดยเป็นผลิตภัณฑ์ที่ร่วมพัฒนาขึ้นโดย บริษัท แดรี่โฮม จำกัด และคณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ภายใต้การสนับสนุนของสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ NIA ซึ่งต้องบอกเลยว่าผลิตภัณฑ์ที่พัฒนาขึ้น ถือเป็นมิติใหม่ในอุตสาหกรรมนมที่ใช้นวัตกรรมและผลงานวิจัยระดับเวิลด์คลาสมาช่วยในการแก้ปัญหาฟันผุ หรือสุขภาพช่องปากสำหรับเด็ก

“คุณพฤฒิ เกิดชูชื่น” กรรมการผู้จัดการ บริษัท แดรี่โฮม จำกัด ผู้ร่วมพัฒนาผลิตภัณฑ์ เล่าว่า นวัตกรรมนมป้องกันฟันผุ เป็นการคัดเลือกจุลินทรีย์สายพันธุ์ที่มีต้นกำเนิดจากช่องปากของคน (Lactobacillus paracasei SD1) มาประยุกต์เป็นผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพช่องปาก โดยมีคุณสมบัติทั้งการยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อ Streptococcus Mutans และ Streptococcus Sobrinus แบคทีเรียซึ่งเป็นสาเหตุของฟันผุ

อีกทั้งช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกันในน้ำลาย และควบคุมจำนวนเชื้อก่อโรคฟันประเภทต่างๆ ให้สามารถคงอยู่ในช่องปากเพื่อกำจัดแหล่งเชื้อฟันผุได้นาน พร้อมเกาะติดเยื่อบุผิวในช่องปากได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ ยังสร้างกรดน้อยกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับจุลินทรีย์สายพันธุ์อื่นๆ ที่มีความสามารถในการยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรียสาเหตุของฟันผุได้ในระดับที่เท่ากัน

“นวัตกรรมดังกล่าวถือเป็นประโยชน์มากในทางสุขภาพช่องปาก โดยเฉพาะลดการสูญเสียฟันก่อนวัยอันควรในกลุ่มเด็กเล็ก และกลุ่มผู้สูงอายุ ทั้งยังมีราคาถูกกว่าการนำเข้าผลิตภัณฑ์โพรไบโอติกจากต่างประเทศ โดยปัจจุบันก็ได้พัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ หลายรูปแบบ อาทิ นมพร้อมดื่ม นมอัดเม็ด ลูกอม และนมผง เป็นต้น”

คุณพฤฒิ เล่าว่า ผลิตภัณฑ์ที่ผลิตออกมาถูกพัฒนามาจากงานวิจัยของรองศาสตราจารย์ ดร.รวี เถียรไพศาล ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยโรคที่พบบ่อยในช่องปากและวิทยาการระบาด คณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ โดยงานวิจัยดังกล่าวเป็นการศึกษาความชุกของโรคฟันผุในเด็ก ที่อำเภอเทพา จังหวัดสงขลา

โดยพบว่ามีเด็กจำนวนประมาณ 15% ที่ฟันไม่ผุทั้งที่อยู่ในสภาพแวดล้อมเดียวกัน ซึ่งเมื่อทำการแยกเชื้อในปากของเด็กกลุ่มดังกล่าว ก็พบว่ามีแบคทีเรียกลุ่มโพรไบโอติก ซึ่งมีฤทธิ์ในการควบคุมจำนวนแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของอาการฟันผุ และเมื่อได้ทำการทดสอบในกลุ่มนักเรียนในพื้นที่พบว่าสามารถที่จะควบคุมอัตราการเกิดโรคฟันผุได้อย่างมีนัยสำคัญ

“ด้วยเหตุนี้ทางบริษัท แดรี่โฮม จำกัด จึงได้สนใจรับการถ่ายทอดเทคโนโลยีดังกล่าวมาพัฒนาต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์โยเกิร์ตพร้อมดื่มที่มีโพรไบโอติก ช่วยยับยั้งการเพิ่มจำนวนเชื้อแบคทีเรียสาเหตุของโรคฟันผุ โดยทางบริษัทไม่ได้มุ่งหวังจะพัฒนาผลิตภัณฑ์ดังกล่าวในเชิงการค้าเท่านั้น แต่ยังมีการพัฒนาให้กลายเป็นโครงการเพื่อสังคม เพื่อให้ผลิตภัณฑ์ดังกล่าวแพร่กระจายสู่ชุมชน และกลุ่มเด็กผู้ด้อยโอกาส”

คุณพฤฒิ เล่าต่อว่า เนื่องจากทางบริษัทมีพื้นฐานในการประกอบธุรกิจด้านผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับนมอยู่แล้ว จึงทำให้บริษัทมีศักยภาพในการผลักดันให้โครงการดังกล่าวสามารถเกิดขึ้นได้จริงและมีความยั่งยืน โดยขณะนี้ผลิตภัณฑ์ที่ผลิตออกมาเป็นกลุ่มโยเกิร์ตพร้อม ดื่มหรือนมเปรี้ยว เหมาะสำหรับผู้บริโภคทุกเพศ ทุกวัย โดยเฉพาะในกลุ่มเด็กที่ฟันแท้กำลังเริ่มขึ้น (ตั้งแต่ระดับประถมศึกษามัธยมศึกษาตอนต้น)

ทั้งนี้ การพัฒนาแค่ โยเกิร์ตพร้อมดื่มเพียงอย่างเดียวอาจยังไม่ตอบโจทย์กับผู้บริโภคอย่างทั่วถึง เนื่องจากต้องเก็บรักษาในอุณหภูมิที่เย็นเพื่อป้องกันและยืดอายุของผลิตภัณฑ์ให้มีความสดใหม่ เหตุนี้ทำให้บริษัทได้ต่อยอดไปสู่ผลิตภัณฑ์ประเภท “นมอัดเม็ด” เพื่อให้เกิดความสะดวกทั้งในการขนส่ง จัดเก็บ และอายุของสินค้าที่ยาวนาน

“การต่อยอดเป็นนมอัดเม็ดนั้น เราได้แรงบันดาลใจมาจากนมอัดเม็ดของสวนดุสิต โครงการส่วนพระองค์สวนจิตรลดา ของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร (รัชกาลที่ 9) ที่ต่อยอดเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์น้ำนมดิบให้สูงขึ้น”

สำหรับช่องทางจัดจำหน่ายอยู่ที่ร้านเลม่อนฟาร์ม ห้างสรรพสินค้า และร้านแดรี่โฮม ซึ่งในอนาคตตั้งเป้าจะขยายสินค้าไปสู่คลินิกทันตกรรม และร้านสะดวกซื้อเพื่อให้เข้าถึงผู้บริโภคได้ครอบคลุม งานนี้หากสนใจผลิตภัณฑ์สอบถามข้อมูลได้ที่เว็บไซต์ http://www.dairyhome.co.th  และเฟซบุ๊ก dairyhome-organic.