นางสาวบรรจงจิตต์ อังศุสิงห์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า เร็วๆนี้ กรมเตรียมเรียกผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ (ทูตพาณิชย์) มาประชุมเพื่อประเมินสถานการณ์ส่งออก ทั้งในภาพรวมและรายตลาด เบื้องต้นคาดว่าอาจต้องปรับเป้าหมายการส่งออกปี 62 ที่กำหนดไว้ขยายตัว 8% จากปี 61 แต่จะปรับลดลงเหลือขยายตัวเท่าไรนั้น ต้องรอผลการประชุมก่อน
นอกจากนี้ จะหารือกับผู้ส่งออกในสินค้าส่งออกสำคัญ 10 รายการหลักของไทย เช่น ยานยนต์และชิ้นส่วน เครื่องใช้ไฟฟ้า อิเล็กทรอนิกส์ อาหาร ฯลฯ รวมถึงสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) สภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) ฯลฯ ในช่วงหลังสงกรานต์ เพื่อรวบรวมข้อมูลก่อนนำไปหารือกับทูตพาณิชย์ในช่วงงานแสดงสินค้าอาหารไทยเฟกซ์ 2019 ที่จะจัดขึ้นวันที่ 28 พ.ค.-1 มิ.ย.นี้
“เป้าหมาย 8% ยอมรับว่าค่อนข้างเหนื่อยมาก จึงอยากประเมินสถานการณ์และกำหนดเป้าหมายอีกครั้งเพื่อความเหมาะสม เบื้องต้นยอมรับว่า ไตรมาส 1 การส่งออกไม่ค่อยสดใส แต่โดยวงจรการส่งออกช่วงไตรมาส 2 จะดีขึ้น โดยปัจจัยที่จะกระทบต่อการส่งออกปีนี้ คือ การที่อังกฤษออกจากสหภาพยุโรป (เบร็กซิต) ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีความชัดเจน สงครามการค้าที่ทำให้การส่งออกสินค้าไทยไปตลาดจีนลดลง และความผันผวนของเศรษฐกิจโลก”
ด้าน น.ส.กัณญภัค ตันติพิพัฒน์พงศ์ ประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) เปิดเผยว่า สรท.อยู่ระหว่างประเมินสถานการณ์ส่งออกไทยในปี 62 ใหม่ จากเดิมที่ตั้งเป้าหมายขยายตัว 5% หลังจากมูลค่าการส่งออกไทยไตรมาส 1 ปีนี้อาจติดลบ 4-5% จากผลกระทบของสงครามการค้า รวมถึงการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก และความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน
หากปัจจัยต่างๆยังไม่ดีขึ้น มูลค่าการส่งออกในไทยปีนี้อาจขยายตัวได้เพียง 3% ซึ่งหากขยายตัว 3% ในช่วง 9 เดือนที่เหลือของปีนี้ จะต้องส่งออกให้ได้ไม่ต่ำกว่า 22,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ.