นายกฯนั่งประธานบอร์ดพีพีพี สั่งตั้งคณะอนุกรรมการด้านกฎหมายไปพิจารณาว่าการเปิดประมูลดิวตี้ฟรี 4 สนามบิน ของ ทอท. เข้าข่าย พ.ร.บ.การร่วมลงทุนฯ ปี 2562 หรือไม่ พร้อมให้แจ้งผลกลับโดยเร็ว ขณะที่บอร์ด ทอท. ยอมถอยสั่งหั่น “ดิวตี้ฟรี” เป็น 2 สัญญา แต่ต้องได้ผลประโยชน์เท่าเดิม
ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาล ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีได้เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน (บอร์ด PPP) ซึ่งเป็นการประชุมครั้งแรกตามพระราชบัญญัติการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน พ.ศ.2562 โดยมีนายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลัง นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคม เข้าร่วม ส่วนนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ไม่ได้เข้าร่วม เนื่องจากขอลาราชการ 2 วัน ทั้งนี้ เป็นที่สังเกตว่าที่ผ่านมานายกรัฐมนตรีจะมอบหมายให้นายสมคิดเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการชุดนี้แทน ยกเว้นในการประชุมครั้งนี้ที่นายกฯนั่งเป็นประธานเอง จะใช้เวลาในการประชุมเพียง 30 นาที
โดยมติที่สำคัญของการประชุมครั้งนี้ คือ บอร์ด PPP ได้มีมติแต่งตั้งคณะอนุกรรมการด้านกฎหมาย โดยให้อัยการสูงสุดเป็นประธาน ไปพิจารณาโครงการร่วมลงทุนที่ต้องดำเนินการภายใต้ พ.ร.บ.การร่วมทุนฯ 2562 ของบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. ในกรณีของการประมูลพื้นที่เชิงพาณิชย์และพื้นที่ร้านค้าปลอดอากร หรือดิวตี้ฟรี ของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เชียงใหม่ ภูเก็ต และหาดใหญ่ ว่าจะเข้าข่ายต้องปฏิบัติตาม พ.ร.บ.การร่วมลงทุนฯปี 2562 หรือไม่ โดยให้กรอบเวลาในการพิจารณาให้เร็วที่สุด
ด้านนายประภาศ คงเอียด ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ กล่าวว่า ที่ประชุมได้มอบหมายให้คณะอนุกรรม- การด้านกฎหมายเร่งดำเนินการจัดทำร่างประกาศคณะกรรมการนโยบายการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน เรื่องกิจการเกี่ยวเนื่องที่จำเป็น พ.ศ. ... เพื่อเสนอคณะกรรมการพิจารณาก่อนเสนอคณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบและออกเป็นประกาศ เพื่อให้เกิดความชัดเจนกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการดำเนินการตาม พ.ร.บ.การร่วมลงทุนฯปี 2562
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 28 มี.ค. ที่ประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) ทอท. ได้มีมติให้ฝ่ายบริหารดำเนินการคัดเลือกผู้ประกอบการโครงการจำหน่ายสินค้าปลอดอากร และโครงการบริหารจัดการกิจกรรมเชิงพาณิชย์ พร้อมทั้งให้แนวทางในการคัดเลือกเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อรัฐและผู้ถือหุ้น ดังนี้ 1.โครงการดิวตี้ฟรีให้เปลี่ยนจากการประมูล 1 สัญญา เป็น 2 สัญญา คือ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ 1 สัญญา และท่าอากาศยานภูมิภาค ประกอบด้วย ท่าอากาศยานภูเก็ต ท่าอากาศยานเชียงใหม่ และท่าอากาศยานหาดใหญ่ 1 สัญญา โดยให้กำหนดกรอบแนวทางในการคัดเลือกให้ได้สินค้าที่มีคุณภาพ (Brand Name) สามารถแข่งขันกับธุรกิจเดียวกันในตลาดโลกได้ และผลประโยชน์ตอบแทนรวมของทั้ง 2 สัญญา จะต้องไม่ต่ำกว่าที่ ทอท.ได้รับอยู่ในปัจจุบัน 2.โครงการบริหารจัดการกิจกรรมเชิงพาณิชย์ ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ให้สัมปทานแบบรายเดียว
ทั้งนี้ ทอท.จะออกประกาศหนังสือเชิญชวนการประมูลดิวตี้ฟรี ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และพื้นที่เชิงพาณิชย์ภายในอาคารผู้โดยสาร ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เป็นส่วนแรกก่อน โดยกำหนดขายเอกสารทั้ง 2 โครงการระหว่างวันที่ 1 เม.ย.-8 เม.ย.62 หลังจากนั้น จะเปิดชี้แจงรายละเอียดโครงการในวันที่ 22 เม.ย.62 กำหนดดูสถานที่ประกอบกิจการ ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ในวันที่ 23 เม.ย.62 ก่อนจะเปิดให้เอกชนยื่นข้อเสนอในวันที่ 22 พ.ค.62 ส่วนโครงการดิวตี้ฟรี 3 ท่าอากาศยานภูมิภาคนั้น ทอท.จะเร่งปรับแก้ทีโออาร์และคาดว่าจะออกประกาศเชิญชวนได้ภายในสัปดาห์หน้า.