นางนันทวัลย์ ศกุนตนาค ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว (นบข.) ที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน มีมติเห็นชอบมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าวปีการผลิต 2561/62 คือ 1.โครงการสินเชื่อชะลอการขายข้าวเปลือก และการช่วยเหลือค่าเก็บเกี่ยวและปรับปรุงคุณภาพ หรือรับจำนำยุ้งฉาง โดยจัดสินเชื่อให้เกษตรกรและสถาบันเกษตรกร เพื่อชะลอการจำหน่ายข้าวเปลือกหอมมะลิ ข้าวเปลือกเหนียว ข้าวเปลือกเจ้า ข้าวเปลือกปทุมธานี 1 เป้าหมาย 2 ล้านตันข้าวเปลือก ให้ค่าฝากเก็บตันละ 1,500 บาท วงเงิน 22,000 ล้านบาท ทั้งนี้ ได้กำหนดราคารับจำนำยุ้งฉาง อาทิ ข้าวเปลือกหอมมะลิตันละ 11,800 บาท, ข้าวเปลือกเหนียวตันละ 10,200 บาท ส่วนค่าเก็บเกี่ยวและปรับปรุงคุณภาพข้าว จะจ่ายให้เฉพาะเกษตรกรรายย่อย ไร่ละ 1,500 บาท ไม่เกินครัวเรือนละ 12 ไร่ หรือไม่เกินครัวเรือนละ 18,000 บาท
“การจ่ายเงินเพื่อช่วยเหลือค่าเก็บเกี่ยวและปรับปรุงคุณภาพข้าวรอบนี้ ได้เสนอให้ที่ประชุมช่วยเหลือครัวเรือนละ 15 ไร่ แต่นายกรัฐมนตรีเห็นว่าควรดูภาระการเงินการคลังของประเทศ จึงปรับเหลือครัวเรือนละ 12 ไร่ หรือไม่เกิน 18,000 บาท เมื่อคำนวณรายได้ที่ชาวนาจะได้รับทั้งการเข้าร่วมโครงการจำนำยุ้งฉาง และเงินช่วยเหลือ ค่าเก็บเกี่ยว ฯลฯ ในส่วนของข้าวเปลือก
หอมมะลิ จะมีรายได้ตันละ 17,050 บาท เป็นต้น
โครงการที่ 2 คือโครงการสินเชื่อเพื่อรวบรวมข้าวและสร้างมูลค่าเพิ่ม โดยให้สินเชื่อสถาบันเกษตรกร เพื่อรวบรวมข้าวเปลือกเพื่อจำหน่าย, แปรรูป 2 ล้านตัน รัฐบาลชดเชยดอกเบี้ยให้ 3% สถาบันเกษตรกร รับภาระดอกเบี้ย 1% วงเงินสินเชื่อ 12,500 ล้านบาท โครงการที่ 3 คือการชดเชยดอกเบี้ยให้ผู้ประกอบการค้าข้าว ในการเก็บสต๊อก รัฐบาลชดเชยดอกเบี้ยให้ 3% โรงสีต้องรับซื้อข้าวเปลือกเก็บไว้ 2-6 เดือน ทั้ง 3 โครงการจะช่วยดึงข้าวเปลือกออกจากตลาดในช่วงที่ผลผลิตออกมามาก ได้ 9.5 ล้านตัน จากปีที่แล้วดึงออกจากตลาดได้ 6.4 ล้านตัน.