“พาณิชย์” จับมือเอกชน จัดมหกรรมลดราคาสินค้าใหม่ต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 ระหว่าง 14 ธ.ค.60-4 ม.ค.61 ลดราคาขายต่ำกว่าท้องตลาดตั้งแต่ 20-80% หวังกระตุ้นกำลังซื้อปลายปี..
วันที่ 13 พ.ย.60 นายบุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยภายหลังการประชุมถึงการจัดมหกรรมลดราคาสินค้า เพื่อกระตุ้นกำลังซื้อในช่วงปลายปี ร่วมกับผู้ประกอบการห้างสรรพสินค้า 15 ราย ผู้ผลิตสินค้า (ซัพพลายเออร์) 32 ราย และสมาคมผู้ประกอบการค้า 3 สมาคม ว่า ภาครัฐและเอกชนจะร่วมมือกันจัดมหกรรมลดราคาสินค้าอุปโภคบริโภค ภายใต้ชื่อ รวมใจ เพิ่มสุข ลดรับปีใหม่ ระหว่างวันที่ 14 ธ.ค.60-4 ม.ค.61 โดยเป็นการจัดงานต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 ซึ่งจะนำสินค้าอุปโภคบริโภคกว่า 10,000 รายการ มาลดราคาขายต่ำกว่าท้องตลาดตั้งแต่ 20-80% เพื่อกระตุ้นกำลังซื้อในช่วงปลายปี
ขณะที่ การจัดมหกรรมลดราคาจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคครั้งนี้ เป็นการจัดงานมหกรรมขนาดใหญ่ และทำทั่วประเทศ ผู้ประกอบการห้างสรรพสินค้า ห้างค้าปลีกสมัยใหม่ รวมทั้งห้างค้าส่งค้าปลีกในท้องถิ่นต่างๆ และซัพพลายเออร์ จะต้องใช้เวลาในการบริหารแผนการผลิต การผลิตสินค้าเพิ่ม และการทำราคา จึงไม่สามารถจัดในช่วงเดียวกันกับมาตรการช็อปช่วยชาติได้ แต่ได้ขอความร่วมมือให้ผู้ประกอบการห้างสรรพสินค้า และห้างค้าปลีกสมัยใหม่ ลดค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่เก็บจากผู้ผลิตสินค้าลงจากเดิม เพื่อให้ราคาสินค้าปรับลดลงได้
สำหรับการจัดมหกรรมในปีนี้ จะเน้นสินค้าอุปโภคบริโภค ของใช้ในชีวิตประจำวัน กว่า 10,000 รายการ เช่น น้ำมันพืช ผงซักฟอก บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป เครื่องครัว รวมทั้งเครื่องใช้ไฟฟ้า แต่ในปีนี้จะมีสินค้าโอทอป สินค้าชุมชน สินค้าเอสเอ็มอี เข้าร่วมด้วย เพื่อสร้างตลาดและสร้างรายได้ให้กับผู้ประกอบการ คาดว่าจะมีเม็ดเงินสะพัดภายในงานไม่ต่ำกว่าปีที่ผ่านมาที่มีมูลค่า 30,000 ล้านบาท และจะช่วยลดค่าครองชีพให้ประชาชนได้มากกว่าปีก่อนที่ประหยัดได้ถึง 7,000-8,000 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม สำหรับความคืบหน้าการตรวจสอบห้างค้าปลีก ที่ประชาชนร้องเรียนว่า ปรับราคาสินค้าขึ้น เมื่อใกล้ถึงช่วงมาตรการช็อปช่วยชาติ โดยหวังประโยชน์จากนโยบายของรัฐบาลนั้น ห้างดังกล่าวได้ชี้แจงว่าเป็นช่วงที่หมดโปรโมชั่น ในส่วนของสินค้าทีวีพอดี หรือหมดโปรโมชั่นตั้งแต่วันที่ 7 พ.ย.ที่ผ่านมา แต่ได้นำป้ายราคาที่เพิ่มขึ้นจากช่วงโปรโมชั่น มาเปลี่ยนในช่วงเช้าของวันที่ 8 พ.ย. ส่งผลให้ผู้บริโภคเข้าใจผิด ทั้งนี้ กรมการค้าภายในได้ตรวจสอบเรื่องนี้อย่างเข้มงวด และส่งหนังสือชี้แจงเรื่องการปรับเปลี่ยนป้ายราคาอย่างไม่มีเหตุผลให้ผู้ประกอบการห้างร้านต่างๆ รับทราบเพื่อไม่ให้เกิดเหตุการเอาเปรียบผู้บริโภคได้อีก.