นายกลินท์ สารสิน ประธานกรรมการหอการค้าไทยและประธานสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยถึงผลการเยือนสหรัฐฯที่ผ่านมาว่า ได้ลงนามบันทึกความร่วมมือ (เอ็มโอยู) กับหอการค้าสหรัฐฯ และเสนอให้มีการจัดตั้งคณะกรรมการร่วมไทย-สหรัฐฯ เพื่อเป็นกลไกขับเคลื่อนความร่วมมือด้านการค้าและการลงทุนระหว่างกัน และฟื้นความสัมพันธ์ระหว่างกันหลังห่างหายไปนาน และยังเป็น เหมือนตัวแทนในการให้ข้อมูลด้านการค้าการลงทุน ทำให้นักลงทุนสหรัฐฯมองภาพไทยดีขึ้น โดยสมาชิกหอการค้าสหรัฐฯที่มี 300,000 ราย สนใจลงทุนในไทยด้านความมั่นคง ด้านอาหาร การท่องเที่ยว ธนาคาร และสุขภาพ และยังสนใจลงทุนในโครงการเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) เพราะมองไทย เป็นศูนย์กลางอาเซียน ที่กำลังลงทุนโครงสร้างพื้นฐานและปรับปรุงกฎหมายเพื่ออำนวยความสะดวกในการทำธุรกิจ จึงต้องการใช้ไทยเป็นฐานเจาะตลาดอาเซียน และหอการค้าสหรัฐฯยังเสนอเป็นตัวเชื่อมกับหอการค้าไทย กรณีเกิดปัญหาด้านการค้าการลงทุน หรือช่วยติดต่อประสานงานกับภาครัฐในสหรัฐฯให้ เพราะหอการค้าสหรัฐฯ มีบทบาทในการเสนอแนะและร่างกฎหมายต่อสภาคองเกรสหลายฉบับ
นายวิชัย อัศรัสกร รองประธานกรรมการหอการค้าไทย เปิดเผยว่า หอการค้าไทยร่วมกับบริษัท ในตลาดหลักทรัพย์และบริษัทญี่ปุ่นรายใหญ่ในไทย 60 ราย และสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) ช่วยอบรมอาชีพและพัฒนาธุรกิจให้คนพิการ มีเป้าหมายให้เกิดการจ้างงานในภาคธุรกิจอย่างน้อย 55,445 อัตรา ภายในปี 61 จากปัจจุบันที่จ้างงานแล้ว 46,185 อัตรา โดยอาชีพที่พัฒนา เช่น การส่งเสริมทำร้านค้าชุมชนเครือสหพัฒน์ และร้านกาแฟคนพิการของคาเฟ่ อะเมซอน รวมถึงการพัฒนาแอพพลิเคชั่นสำหรับคนพิการออทิสติกของทรู คอร์ปอเรชั่น เป็นต้น อนาคตจะเข้าไปพัฒนาศักยภาพคนพิการอย่างต่อเนื่อง คาดว่าน่าจะมีคนกลุ่มนี้ถึงล้านคน.