เริ่มปี 2025 มาได้ไม่นาน เราต่างก็เห็นความเปลี่ยนแปลงในหลายด้าน ทั้งการเมืองที่เปลี่ยนขั้วของสหรัฐอเมริกา ที่โดนัลด์ ทรัมป์ขึ้นมารับตำแหน่งเป็นสมัยที่สอง การเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี ที่คำว่า AI กลายเป็นเรื่องที่ทุกคนทั่วโลกพูดถึงและคนทุกเพศทุกวัยต้องหันมาใช้งาน ตลอดจนการเปลี่ยนแปลงทางสภาพอากาศ อุทกภัย วาตภัย อากาศที่เต็มไปด้วยฝุ่นควัน
ความเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ ต่างนำมาซึ่งการต้อง “ปรับตัว” และไม่ใช่แค่ในระดับองค์กร ธุรกิจ ผู้นำระดับโลก หรือผู้บริหาร แต่ยังรวมไปถึงบุคคลทั่วไปที่ยังต้องใช้ชีวิตภายใต้การนำของผู้นำโลก ในยุคที่เต็มไปด้วยเทคโนโลยี และในวันที่อากาศแทบจะพยากรณ์ไม่ได้
สรุปจากงาน Future Trends Ahead Summit 2025 ในหัวข้อ “Twists and Turns 2025: Megatrends in AI, Sustainability, Aging and Geopolitics” โดย ดร.สันติธาร เสถียรไทย นักเศรษฐศาสตร์ นักเขียน และผู้บริหาร มาเล่าถึง 4 คลื่นลูกยักษ์ เทรนด์ที่ต้องจับตา เพราะการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นต่อเนื่อง เป็นไปอย่างรวดเร็ว และกระทบกับทุกภาคส่วน
“มักจะมีหลายครั้งที่ แม้เราจะอยู่ในจุดนี้อุตสาหกรรมนี้มาช้านาน ทำดีทำได้เหมือนเดิม แต่ธุรกิจกลับไม่ไปข้างหน้า” จนเกิดเป็นคำถามตามมาว่า เราควรสร้าง “กำแพง” ป้องกันคลื่นเหล่านี้ หรือมันคือ “โอกาส” ที่ต้องไหลตามไป?
4 Twists & Turns คลื่นแห่งการเปลี่ยนแปลง Megatrends สำหรับผู้บริหาร องค์กร ผู้นำระดับประเทศ ตลอดจนคนธรรมดาคนหนึ่ง
เทคโนโลยีมีการพัฒนาก้าวหน้าไปอย่างรวดเร็ว จนหลายฝ่ายเริ่มจะปรับตัวไม่ทัน โดยเฉพาะในเรื่องของ AI ที่หลังจากการเกิดขึ้นของ OpenAI และการเปิดตัว ChatGPT ในปี 2022 คำว่า AI ก็กลายเป็นคำที่ใคร ๆ ก็ต้องรู้จัก และในระยะเวลาเพียง 2 เดือน จำนวนผู้ใช้งาน ChatGPT ก็พุ่งทะลุแตะ 100 ล้านรายเลยทีเดียว (ซึ่งแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียอย่าง Facebook ต้องใช้เวลานานถึง 4 ปี)
หลังจากนั้นเป็นต้นมา ก็มีการพัฒนาแชทบอทและเปิดตัวเครื่องมือใหม่ ๆ ออกมาอย่างต่อเนื่องจนในปัจจุบันกลายเป็นว่า ทุกที่ต้องมี AI ทุกคนต้องใช้ AI และธุรกิจต้องปรับตัวให้ทัน AI
อีกหนึ่งความตื่นเต้นในวงการ AI ที่เกิดขึ้นเมื่อต้นปี คือ การเปิดตัวของ DeepSeek เครื่องมือ AI จากจีนที่ถูกเคลมว่า เทรนด้วยต้นทุนที่ต่ำกว่า ด้วยทรัพยากรที่น้อยกว่า แต่ฉลาดกว่าหรือใกล้เคียงกัน
การเปิดตัวของ DeepSeek ก็สร้างความสั่นสะเทือนไม่น้อยต่อวงการเทคโนโลยีและการลงทุน ตลาด AI กำลังเปลี่ยนผ่านโลกของเรา เมื่อต้นทุนลดลง สุดท้าย AI จะเปลี่ยนไปเร็วขึ้น การพัฒนาใหม่ ๆ จะมาเร็วขึ้น และไม่ได้มีแค่เพียงการแข่งขันที่เข้มข้นขึ้นในด้านเทคโนโลยี แต่ยังเร่งให้คนต้องปรับทักษะ ใช้ AI ให้เป็น และไปพร้อม ๆ กับการพัฒนาทักษะตัวเอง ไม่ใช่การละทิ้งทักษะตัวเอง
ความร้อนแรงของสงครามการเมือง การค้า และเทคโนโลยีของ 2 มหาอำนาจโลกอย่างสหรัฐอเมริกาและจีนที่ดำเนินมาอย่างต่อเนื่องนั้น ในปี 2025 และหลังจากนี้ เราจะเริ่มเห็นจุดเปลี่ยน เพราะหลายประเทศในภูมิภาคเอเชียกำลังก้าวขึ้นมาแข่งในสนามที่ใหญ่ขึ้นสู้กับประเทศมหาอำนาจ ไม่ว่าจะเป็นจีน อินเดีย และอินโดนีเซีย เพื่อนบ้านในอาเซียน
แม่เหล็กชิ้นแรกคือ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้หรืออาเซียนยังกลายเป็นตลาดสำคัญที่ดึงดูดการลงทุน โดยเฉพาะในสิงคโปร์ที่มียอดการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (Foreign Direct Investment: FDI) สูงถึง 141,190 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่ประเทศไทยมียอดการลงทุนเข้ามาสูงกว่า 9,940 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
แม่เหล็กชิ้นที่สอง คือ Talents ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่สนใจจะไหลเข้าสู่ประเทศไทย พบว่า ตั้งแต่ปี 2021-2023 มียอด Talents ไหลเข้าประเทศไทยกว่า 620,000 ราย โดยส่วนใหญ่มาจากเยอรมนี และรัสเซีย แต่ในส่วนของ Talents คนไทยกลับไหลออกนอกประเทศ โดยพบว่าในช่วงเดียวกัน คนไทยออกนอกประเทศกว่า 1.5 ล้านคน และส่วนใหญ่เลือกไปอยู่ที่สหรัฐอเมริกา
และแม่เหล็กที่สาม ต้องยอมรับว่าอาจจะไม่ใช่ส่วนดี คือ การที่สินค้าจีนไหลทะลักเข้าสู่อาเซียน ทั้งนี้มีผลมาจากสงครามการค้าระหว่างจีนและสหรัฐอเมริกา ทำให้จีนไม่สามารถส่งออกสินค้าบางส่วนไปสหรัฐฯ จึงเทดัมป์มาลงในอาเซียน ไม่ว่าจะเป็นสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ เครื่องใช้ไฟฟ้า ตลอดจนเครื่องนุ่งห่ม ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นสินค้าคงคลังที่ล้นตลาดแล้วในจีน
ที่ผ่านมา เศรษฐกิจไทยยังโตต่ำประมาณ 3% ในขณะเดียวกันจำนวนคนวัยทำงานก็ลดลงต่อเนื่องทุกปี จนเข้าสู่ “สังคมผู้สูงอายุ” คนวัยทำงานกลายเป็นเดอะแบกของประเทศ
การเพิ่มขึ้นของจำนวนผู้สูงวัยในปัจจุบัน นำมาซึ่งโอกาสใหม่ในหลายด้าน โดยเฉพาะในแง่ของการเติบโตของ “Care Economy” ที่ได้รับความสนใจมากขึ้นไม่เฉพาะแค่ในประเทศไทย แต่ทั่วโลกก็เริ่มให้ความสำคัญกับแนวโน้มนี้เช่นกัน นอกจากนี้ยังไม่ใช่แค่ผู้สูงวัยเท่านั้นที่ให้ความสำคัญกับสุขภาพ แต่คนรุ่นใหม่ก็เริ่มหันมาดูแลสุขภาพของตนเองมากขึ้นอีกด้วย
อีกทั้งยังเป็นโอกาสของประเทศไทย ที่เรามี Wellness Tourism การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ และประเทศไทยยังเป็นปลายทางของคนหลายชาติในการเข้ามาพัก รักษากาย และรักษาใจ โดยพบว่า ตลาด Wellness หรือการดูแลสุขภาพทั่วโลกโตขึ้นอย่างต่อเนื่องจนมีมูลค่ากว่า 5.6 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2022 เพราะคนไม่ได้ต้องการที่จะมีชีวิตที่ยาวนานขึ้น อายุยืนขึ้นเท่านั้น แต่ยังต้องแข็งแรงขึ้นแม้จะก้าวพ้นวัยหนุ่ม พร้อมกับมีคุณภาพชีวิตที่ดี หรือเป็น “นักกีฬาสูงวัย” เพราะ Healthspan นั้นสำคัญกว่าคำว่า Lifespan
ธรรมชาติถือเป็นจุดแข็งของประเทศไทย ถ้าวันหนึ่งเกิด “ในน้ำไร้ปลา ในนาไร้ข้าว ในป่ามีไฟ และในอากาศมีฝุ่น” สิ่งเหล่านี้จะนำไปสู่การปรับตัวแบบใหม่ ให้รับมือกับการเปลี่ยนแปลงของสิ่งแวดล้อมได้
ปัจจุบันได้เลยช่วงของ Mitigation มาแล้ว และกำลังก้าวเข้าสู่ช่วง Adaptation ซึ่งเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะภัยธรรมชาตินั้นเราหลีกเลี่ยงไม่ได้ และไม่ใช่แค่เรื่องของบริษัทใหญ่ แต่ SMEs และผู้ประกอบการรายเล็ก ๆ ก็ต้องปรับตัวเช่นกัน
ทุกวันนี้ ธุรกิจจะต้องเลือกแล้วว่าจะสร้างกำแพงหรือคว้าโอกาสจากการเปลี่ยนแปลง เพราะเรื่องของ Sustainability จะเป็นกลยุทธ์ที่สร้างผลกำไรระยะยาว
ติดตามเพจ Facebook: Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ - https://www.facebook.com/ThairathMoney