หาดทิพย์ลงทุนแล้ว 3 พันล้าน ยกเครื่องโรงงานยั่งยืน เปิดไลน์ผลิตขวดแบบใหม่ หมุนเวียนใช้ทุกทรัพยากร

Business & Marketing

Corporates

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

Tag

หาดทิพย์ลงทุนแล้ว 3 พันล้าน ยกเครื่องโรงงานยั่งยืน เปิดไลน์ผลิตขวดแบบใหม่ หมุนเวียนใช้ทุกทรัพยากร

Date Time: 29 พ.ย. 2567 17:12 น.

Video

ล้วงลึกอาณาจักร “PCE” สู่บริษัทมหาชน ปาล์มครบวงจร | On The Rise

Summary

  • หาดทิพย์ เปิดไลน์การผลิตขวดแก้วแบบใหม่ ใช้เทคโนโลยีการผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เดินหน้าลดการใช้พลาสติก ลดการใช้น้ำในการผลิต ใช้พลังงานทดแทนและพลังงานสะอาด ตลอดจนใช้บ่อกำจัดน้ำเสียด้วยระบบธรรมชาติ ลงทุนไปแล้วกว่า 3,000 ล้านบาท เพื่อยกระดับตั้งแต่โครงสร้างพื้นฐานของบริษัท เพื่อส่งมอบผลิตภัณฑ์คุณภาพ ร่วมพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่น และลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม

บริษัท หาดทิพย์ จำกัด (มหาชน) หรือ HTC ผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องดื่มภายใต้แบรนด์ “โคคา-โคล่า” หรือ “โค้ก” ใน 14 จังหวัดภาคใต้ เปิดให้ชมโรงงานในอำเภอพุนพิน จังหวัดสุราษฎร์ธานี พร้อมเปิดไลน์การผลิตขวดแก้วแบบใหม่ ใช้เทคโนโลยีการผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เดินหน้าลดการใช้พลาสติก ลดการใช้น้ำในการผลิต ใช้พลังงานทดแทนและพลังงานสะอาด ตลอดจนใช้บ่อกำจัดน้ำเสียด้วยระบบธรรมชาติ

โดยเน้นย้ำว่า ทั้งระบบนิเวศการผลิตของหาดทิพย์จะมุ่งเน้นไปที่การผสานด้านความยั่งยืน ที่ผ่านมาถึงปี 2024 ได้มีการลงทุนไปแล้วกว่า 3,000 ล้านบาท เพื่อยกระดับตั้งแต่โครงสร้างพื้นฐานของบริษัท เพื่อส่งมอบผลิตภัณฑ์คุณภาพ ร่วมพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่น และลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม

หาดทิพย์ดำเนินงานมาแล้วกว่า 55 ปี โดยมีจุดเริ่มต้นในปี 1969 จนปัจจุบัน หาดทิพย์มีโรงงาน 2 แห่ง คือ โรงงานหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา และโรงงานพุนพิน จังหวัดสุราษฎร์ธานี มีพนักงานมากกว่า 2,000 คน ในสาขา 19 แห่งที่ครอบคลุมทั้ง 14 จังหวัดภาคใต้ มีศูนย์กระจายสินค้า 19 แห่ง มาพร้อมกับรถขนส่งอีกกว่า 200 คัน และยังมีร้านค้าเอาท์เล็ตกว่า 46,000 ร้าน

ล่าสุด หาดทิพย์ได้เผยถึงเป้าหมาย 4 ด้านที่จะจัดการในเรื่องของความยั่งยืน ได้แก่ การบริหารจัดการบรรจุภัณฑ์ การบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ การจัดการพลังงานและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และการพัฒนาและส่งเสริมบุคลากรด้านความรับผิดชอบต่อสังคม

จอห์น เบเนเดตตี รองประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการอาวุโส - ซัพพลายเชน บริษัท หาดทิพย์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “หาดทิพย์เดินหน้ายกระดับกระบวนการและเทคโนโลยีการผลิตที่ก้าวล้ำอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการผสานความยั่งยืนในกระบวนการผลิต และล่าสุดได้เปิดสายการผลิตขวดแก้วใหม่เพื่อส่งเสริมบรรจุภัณฑ์ยั่งยืน”

โรงงานการผลิตใหม่นี้ ตั้งอยู่บนเนื้อที่ 315 ไร่ จะมีไลน์การผลิตทั้งหมด 6 ไลน์ รองรับการผลิตทั้ง ผลิตภัณฑ์ที่เป็นขวด PET กระป๋อง ขวดแก้ว และ Fountain สำหรับตู้กดน้ำ ซึ่งหาดทิพย์ยังมีการผลิตตัว Preform หรือแบบพลาสติกที่จะนำมาเป่าขึ้นเป็นขวด PET เอง และยังมีโกดังเก็บสินค้าที่รองรับเครื่องดื่มได้กว่า 2 ล้านแพ็ค

สำหรับสายการผลิตขวดแก้วใหม่ที่เพิ่งเปิดดำเนินการเมื่อกลางเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา มีกำลังการผลิตขวดแก้วสูงสุดถึง 800 ขวดต่อนาที และผลิตได้ทั้งขวดแก้วชนิดคืนขวดและไม่คืนขวด หลังจากนี้ จะมีการทยอยปรับการผลิตเครื่องดื่มในบรรจุภัณฑ์ขวดแก้วจากที่โรงงานหาดใหญ่มายังโรงงานพุนพิน ซึ่งคาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จภายในสิ้นปีนี้

นอกจากขวดแก้วใหม่แล้ว หาดทิพย์ยังออกแบบลังบรรจุภัณฑ์ใหม่ที่ช่วยป้องกันการกระแทก ทำให้ขวดแก้วใช้งานได้ยาวนานยิ่งขึ้นรวมทั้งใช้ฉลากกระดาษที่ย่อยสลายได้ตามธรรมชาติอีกด้วย

สายการผลิตขวดแก้วใหม่นี้ถือเป็นกลยุทธ์สำคัญของหาดทิพย์ เนื่องจากบรรจุภัณฑ์ขวดแก้วชนิดคืนขวดยังมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก โดยเฉพาะในช่องทางโรงแรม ร้านอาหาร และภัตตาคารในพื้นที่ภาคใต้ ซึ่งผู้บริโภคนิยมดื่มเครื่องดื่มภายในร้าน อีกทั้งยังเป็นประเภทของบรรจุภัณฑ์ที่หาดทิพย์มีศักยภาพในการแข่งขันสูงกว่าคู่แข่ง และยังช่วยเสริมความสามารถในการบริหารต้นทุนบรรจุภัณฑ์ในระยะยาวให้ดียิ่งขึ้นด้วยการจัดการน้ำอย่างยั่งยืน

โรงงานใหม่ หมุนเวียนน้ำมาใช้ซ้ำได้ 100%

โรงงานพุนพินได้ออกแบบมาให้ใช้ทรัพยากรน้ำอย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยกระบวนการที่ลดการใช้และหมุนเวียนน้ำกลับมาใช้ซ้ำได้ 100% ในการผลิตที่ไม่ใช่ส่วนประกอบของเครื่องดื่ม โดยหาดทิพย์ได้สนับสนุนเรื่องการใช้ทรัพยากรน้ำ ดังนี้

  • ลดการใช้น้ำในการผลิต: ตั้งเป้าลดการใช้น้ำในกระบวนการผลิต จากปัจจุบัน 1.54 ลิตรต่อหน่วยการผลิตให้เหลือ 1.39 ลิตรต่อหน่วยการผลิตภายในปี 2030 ผ่านการดำเนินงานต่าง ๆ เช่น การปรับขนาดหัวฉีดล้างขวดแก้ว การติดตั้งเครื่องแลกเปลี่ยนความร้อนแบบแผ่น และการติดตั้งระบบล้างรถอัตโนมัติที่ใช้น้ำจากการหมุนเวียน

  • นำน้ำสะอาดกลับมาใช้: ตามโครงการ UF Recover Backwash ที่เปลี่ยนมาใช้ไส้กรอง Ultrafiltration ซึ่งสามารถนำน้ำสะอาดกลับมาใช้ใหม่ ช่วยลดปริมาณการใช้น้ำได้ถึง 44,513 ลูกบาศก์เมตรต่อปีเมื่อเทียบกับระบบเดิมในปี 2022 ช่วยลดการใช้น้ำในกระบวนการผลิตลงได้ถึง 9%

  • บำบัดน้ำเสียด้วยระบบธรรมชาติ: บ่อบำบัดน้ำเสียบนพื้นที่ 26 ไร่ ที่ใช้พลังงานต่ำ และใช้แบคทีเรีย Anaerobic ในการย่อยสลายสารอินทรีย์ในน้ำเสีย สามารถรองรับน้ำทิ้งได้เพียงพอกับกำลังการผลิตของโรงงานและมีคุณภาพที่ได้มาตรฐานของกรมโรงงานอุตสาหกรรม

ปรับมาใช้พลังงานสะอาดและพลังงานทดแทน

นอกจากนี้ หาดทิพย์ยังตั้งเป้าลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี 2050 โดยมุ่งลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทั้งซัพพลายเชน และหันมาใช้พลังงานสะอาดอย่างมีประสิทธิภาพ

  • เพิ่มการใช้พลังงานสะอาด: ติดตั้งโซลาร์เซลล์บนหลังคาอาคารผลิต และโซลาร์เซลล์ลอยน้ำ ซึ่งสามารถผลิตพลังงานทดแทนมาใช้ภายในโรงงานได้ถึง 19% ของพลังงานที่ใช้ทั้งหมด ช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ประมาณ 3,000 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า นอกจากนี้ยังมีแผนที่จะติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์เพิ่มเติม โดยคาดว่าจะเพิ่มสัดส่วนการใช้พลังงานแสงอาทิตย์ในโรงงานได้ถึง 28% ก่อนสิ้นปี 2025

  • ใช้พลังงานทดแทน: มีแผนเพิ่มการใช้รถยกไฟฟ้าในคลังสินค้า และใช้รถขนส่งที่ใช้เชื้อเพลิง NGV นอกจากนี้ โรงงานพุนพินยังติดตั้งหม้อไอน้ำที่ใช้เชื้อเพลิง LPG รวมถึงระบบหมุนเวียนความร้อนกลับมาใช้ใหม่

ปรับบรรจุภัณฑ์ใหม่ เน้นการผลิตขวดแก้ว-ใช้ฉลากกระดาษ

หาดทิพย์มุ่งมั่นใช้บรรจุภัณฑ์ที่ยั่งยืน โดยใช้เทคโนโลยีในการพัฒนาการออกแบบบรรจุภัณฑ์ การเก็บกลับบรรจุภัณฑ์ที่ใช้แล้วเพื่อเข้าสู่กระบวนการรีไซเคิล รวมถึงการร่วมมือกับพันธมิตรเพื่อส่งเสริมให้เกิดการใช้บรรจุภัณฑ์หมุนเวียน พร้อมทั้งสร้างความตระหนักรู้ให้กับผู้บริโภค โดยมีการดำเนินการ ดังนี้

  • ลดปริมาณและน้ำหนักของบรรจุภัณฑ์: ตั้งแต่ปี 2019 เป็นต้นมา หาดทิพย์สามารถลดปริมาณการใช้พลาสติกใหม่ในการผลิตบรรจุภัณฑ์ลงถึง 911 ตัน และลดการใช้อะลูมิเนียมลง 404 ตัน ซึ่งช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้มากถึง 4,670 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า ส่วนในปี 2024 นี้ มีเป้าหมายที่จะลดน้ำหนักพลาสติกในบรรจุภัณฑ์ลงให้ได้ 800 ตัน โดยล่าสุดสามารถลดน้ำหนักพลาสติกที่ใช้ผลิตฝาขวดน้ำอัดลมจาก 2.45 กรัม เหลือ 1.75 กรัม ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนการใช้พลาสติกที่ลดลงถึง 28%

  • เน้นบรรจุภัณฑ์ขวดแก้ว: หาดทิพย์ส่งเสริมการใช้บรรจุภัณฑ์ขวดแก้ว เพื่อลดการใช้พลาสติก และใช้ฉลากกระดาษที่ย่อยสลายได้ นอกจากนี้ยังร่วมมือกับโคคา-โคล่าในการใช้บรรจุภัณฑ์ที่ผลิตจากพลาสติก PET รีไซเคิล หรือ rPET 100% (ไม่รวมฉลากและฝา) ในผลิตภัณฑ์ “โคคา-โคล่า” ขนาด 1 ลิตร

  • นำบรรจุภัณฑ์กลับมาแปรรูปใช้ใหม่: ร่วมมือกับพันธมิตรในการจัดเก็บขวดพลาสติกและกระป๋องเครื่องดื่มที่ใช้แล้วกลับเข้าสู่กระบวนการรีไซเคิล รวมทั้งร่วมกับภาครัฐ เอกชน และองค์กรต่าง ๆ ออกแบบแคมเปญ เพื่อสร้างความตระหนักรู้และกระตุ้นให้ผู้บริโภคร่วมลดและแยกขยะอย่างจริงจัง

โดยหาดทิพย์ยังได้มีการบูรณาการกระบวนการผลิตเข้ากับเทคโนโลยีอัจฉริยะอย่างเช่น ระบบคลาวด์ ในการใช้มอนิเตอร์ข้อมูลการใช้งานพลังงานได้แบบเรียลไทม์ เพื่อนำข้อมูลมาใช้วิเคราะห์ออกแบบหาโซลูชันต่อ อีกทั้งยังใช้ AI ในไลน์การผลิต เพื่อตรวจสอบคุณภาพของบรรจุภัณฑ์ ตั้งแต่เรื่องความสะอาด คุณภาพ และความเสียหาย ซึ่งจะช่วยลดข้อผิดพลาดระหว่างการผลิตลงได้ และยังช่วยเพิ่มมาตรฐานด้านความปลอดภัยอีกด้วย

ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ - https://www.facebook.com/ThairathMoney


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ