3 กลุ่มทุนผนึกกำลัง ตั้ง FAB Food Holding รวม 8 แบรนด์ดัง ท้ารบสมรภูมิเชนร้านอาหาร

Business & Marketing

Corporates

กองบรรณาธิการ

Author

กองบรรณาธิการ

Tag

3 กลุ่มทุนผนึกกำลัง ตั้ง FAB Food Holding รวม 8 แบรนด์ดัง ท้ารบสมรภูมิเชนร้านอาหาร

Date Time: 24 ก.ค. 2567 18:29 น.

Video

3 มาตรการใหม่ ตลาดหลักทรัพย์ฯ คุมหุ้นร้อนผิดปกติ | Money Issue

Summary

  • 3 ธุรกิจใหญ่ “บริษัท อควา คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)-บริษัท ฟู้ด แฟคเตอร์ จำกัด-เบียร์ ใบหยก” ร่วมทุนกว่า 2,500 ล้านบาท จับมือกันปั้นธุรกิจเชนร้านอาหาร รุกตลาดในประเทศ เร่งขยายสาขาร้านดังในเครือเพิ่ม และเตรียมสร้างแบรนด์ใหม่ตอบโจทย์ลูกค้ายุคใหม่

Latest


อีกหนึ่งความเคลื่อนไหวที่น่าจับตามองในกลุ่มธุรกิจเชนร้านอาหาร เมื่อ 3 ธุรกิจใหญ่ “บริษัท อควา คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)-บริษัท ฟู้ด แฟคเตอร์ จำกัด-เบียร์ ใบหยก” ร่วมทุนกว่า 2,500 ล้านบาท จับมือกันปั้นธุรกิจเชนร้านอาหาร รุกตลาดในประเทศ เร่งขยายสาขาร้านดังในเครือเพิ่ม และเตรียมสร้างแบรนด์ใหม่ตอบโจทย์ลูกค้ายุคใหม่

3 พันธมิตร จับมือ รุกตลาดเชนร้านอาหาร


หลังจาก บริษัท อควา คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ AQUA ได้แจ้งต่อ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ถึงการได้มาและจำหน่ายไปซึ่งสินทรัพย์ของบริษัท เรื่อง การปรับโครงสร้างและการเข้าลงทุนในธุรกิจอาหารในการประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 5/2567 เมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม 2567 ที่ผ่านมา ในการจัดตั้งธุรกิจร้านอาหารร่วมกับ บริษัท ฟู้ด แฟคเตอร์ จำกัด หนึ่งในธุรกิจเสาหลักของเครือบุญรอดฯ และ เบียร์ ใบหยก หรือ ปิยะเลิศ ใบหยก 

โดย เบียร์ ใบหยก จะทำหน้าที่เป็น ซีอีโอของบริษัท ภายใต้ชื่อ บริษัท เอฟเอบี ฟู้ดโฮดิ้ง จำกัด หรือ FAB

ฉาย บุนนาค ประธานกรรมการบริหาร บริษัท อควา คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวในงานแถลงความร่วมมือในวันที่ 24 กรกฎาคม 2567 ว่า “AQUA มีแผนที่จะขยายสาขาธุรกิจมาสักระยะนึงแล้ว เพื่อเสริมให้ธุรกิจแข็งแรงขึ้น และก็เล็งเห็นว่าเป็นโอกาสดีที่จะได้จับมือกับพี่ๆ และเพื่อนๆ ที่รู้จักกันมานานในการตั้งบริษัทขึ้นมา อีกทั้งยังได้ขยายธุรกิจไปสู่ธุรกิจเชนร้านอาหาร ภายใต้ความร่วมมือที่ทำกับผู้เชี่ยวชาญในเชนร้านอาหารอย่าง เบียร์ ใบหยก และบริษัท ฟู้ด แฟคเตอร์ จำกัด”

ปัจจุบันนี้ FAB จะมีเชนร้านอาหารอยู่ที่ 8 แบรนด์ รวมจำนวน 204 สาขา ได้แก่

  • กลุ่มร้านสเต๊ก : Santa Fé 127 สาขา และ Santa Fé Easy 5 สาขา
  • กลุ่มร้านอาหารไทย : เจ๊แดง สามย่าน 42 สาขา และ เหม็ง แซ็ปนัว 10 สาขา
  • กลุ่มร้านอาหารแนวอิซากายะ : Sekai no Yamachan 10 สาขา
  • กลุ่มร้านราเมง : ราเมงเดส 5 สาขา, อิคโคฉะ ราเมน 2 สาขา และ อุชิดายะ ราเมน 3 สาขา

ซึ่งเชนร้านอาหารในกลุ่มนี้สามารถทำรายได้มากถึง 1,700 ล้านบาท และจากรายงานยังพบว่า บริษัท อควา คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) จะถือหุ้นที่ 51% บริษัท ฟู้ด แฟคเตอร์ จำกัด จะถือหุ้น 40% และเบียร์ ใบหยก จะถือหุ้นที่ 9%


กลยุทธ์เดินหน้าธุรกิจ เดินหน้าขยายสาขา เพิ่มแบรนด์ต่อ


สำหรับกลยุทธ์หลักในการเดินหน้าธุรกิจของ FAB ด้าน ปิยะเลิศ ใบหยก รองประธานกลุ่มใบหยก, ซีอีโอ บริษัท บีเอ็นเอฟ โฮลดิ้ง จำกัด และซีอีโอ บริษัท เอฟเอบี ฟู้ดโฮดิ้ง จำกัด กล่าวว่า “จุดเริ่มต้นอยากให้ FAB กลายเป็นภาพจำของตลาดมากขึ้น พร้อมๆ กับสร้างแบรนด์เดิมที่มีอยู่แล้วให้ดูมีความสนุกมากขึ้น เพื่อเจาะไปที่กลุ่มคน Gen ใหม่ และในส่วนของกลยุทธ์ทางธุรกิจ ในอนาคตอาจจะมีการ Collab กันของร้านอาหาร หรืออาจจะเพิ่มแบรนด์อื่นๆ ออกมาอีก เพื่อเพิ่มตัวเลือกให้กับลูกค้าที่ต้องการความหลากหลาย ภายใต้แนวคิดที่ดึงความสนุกมาสู่เมนูอาหาร”

นอกจากนี้ทาง FAB ยังมีแผนที่จะขยายสาขาของแบรนด์ร้านอาหารที่มีอยู่เดิมออกต่างจังหวัดให้มากขึ้น โดยตั้งเป้าในปีนี้ว่าจะให้มีครบ 250 สาขาทั่วประเทศ จากเดิมที่รวมกันแล้วมี 204 สาขา

“ในอนาคตเราจะได้เห็นมากกว่า 8 แบรนด์อย่างแน่นอน แต่ในช่วงเริ่มต้น FAB จะมุ่งเน้นไปที่การขยายสาขาของแบรนด์เดิมที่มีอยู่แล้ว อย่างเช่น เจ๊แดง สามย่าน ที่มองว่าจะขยายไปสู่ต่างจังหวัด และ Santa Fé ที่เป็นร้านที่โตเร็วที่สุด” ปิยะเลิศ ใบหยก กล่าว

นอกจากนี้การรวมตัวกันครั้งนี้ยังมีเรื่องของการจัดการร้านอาหารที่จะมีการปรับเปลี่ยนให้ใช้ระบบหลังบ้าน อย่างเช่น การจัดการออเดอร์วัตถุดิบ การจัดพื้นที่ร้านใหม่ที่อาจจะมี 2 แบรนด์ในร้านเดียว เป็นต้น

ภูริต ภิรมย์ภักดี กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด กล่าวเพิ่มเติมว่า “ด้วยความแข็งแรงของแต่ละแบรนด์ที่มีอยู่เดิม ซึ่งแต่ละบริษัทฯ ที่มาเข้าร่วมกันนี้มีจุดเด่นและศักยภาพต่างกันในแต่ละด้าน ยิ่งมาผนึกรวมกันมันจะยิ่งมีความแข็งแรงมากขึ้น อีกทั้งยังช่วยเพิ่มความหลากหลายให้กับธุรกิจในวันที่ตลาด F&B มีการแข่งขันสูง เพื่อสร้างศักยภาพและเดินหน้าต่อไปด้วยกันอย่างมั่นใจ”

ด้วยการแข่งขันที่มีสูงขึ้นเรื่อยๆ ในตลาดเชนร้านอาหาร ส่งผลให้ในปี 2567 นี้ตลาดร้านอาหารจะมีมูลค่าอยู่ที่ประมาณ 6.69 แสนล้านบาท.

ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ - https://www.facebook.com/ThairathMoney


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
กองบรรณาธิการไทยรัฐออนไลน์