ในสังคมไทยสมัยโบราณ การใช้เครื่องหอมจะสอดแทรกอยู่ในประเพณีต่างๆ เช่น ประเพณีการโกนผมไฟ พิธีสรงน้ำพระ การรดน้ำดำหัวในวันสงกรานต์ ตลอดจนการรดน้ำศพ โดยเครื่องหอมก็จะมีหลายชนิด ทั้งรูปแบบน้ำอบ น้ำปรุง สีผึ้ง แป้งร่ำ ดินสอพอง โดย ‘น้ำอบ’ หรือ ‘เครื่องหอมที่เป็นน้ำ’ จะนิยมใช้กันมากที่สุด
‘น้ำอบ’ คือ เครื่องหอมแบบไทยที่มีมาตั้งแต่สมัยสุโขทัย และต่อเนื่องมาในสมัยอยุธยาตอนปลายจนถึงสมัยรัตนโกสินทร์ ในช่วงรัชสมัยของพระพุทธเลิศหล้านภาลัย (รัชกาลที่ 2) ทรงโปรดปรานการใช้น้ำอบน้ำปรุง หรือน้ำหอม เป็นเครื่องประทินผิวเป็นอย่างมาก ทำให้ความนิยมการใช้เครื่องหอมต่างๆ มีจุดเริ่มต้นจากในวัง ก่อนจะแพร่หลายมายังชาวบ้านทั่วไปในภายหลัง ต่อมาในสมัยรัชกาลที่ 5 ได้มีการนำเอาหัวน้ำหอมจากต่างประเทศเข้ามาประยุกต์ใช้กับเครื่องหอมโบราณของไทย ทำให้เกิดลักษณะของการทำน้ำอบสองแบบ คือ ‘น้ำอบไทย’ และ ‘น้ำอบฝรั่ง’
‘น้ำอบไทย’ คือ น้ำที่อบด้วยควันกำยาน หรือเทียนอบ ซึ่งทำจากผิวมะกรูด กำยาน น้ำตาลแดง ขี้ผึ้ง และจันทน์เทศ และนำมาปรุงด้วยเครื่องหอม มีลักษณะเป็นน้ำใสสีเหลืองอ่อนๆ มีความแตกต่างทั้งลักษณะของกลิ่นและกระบวนการผลิตจากน้ำอบฝรั่ง
‘น้ำอบนางลอย’ ก่อตั้งกิจการโดย ‘แม่เฮียง ธ.เชียงทอง’ ซึ่งได้นำสูตรการปรุงน้ำอบไทยที่เรียนรู้จากในวังมาดัดแปลงเพิ่มเติม โดยมีการนำกลิ่นหอมของดอกไม้และสมุนไพรไทยชนิดต่างๆ มาผสมผสานกับน้ำหอมของฝรั่งที่เริ่มมีความนิยมในสมัยนั้น จนกลายมาเป็นเอกลักษณ์ของน้ำอบนางลอยที่มีกลิ่นหอมเย็นสดชื่น พร้อมด้วยสีเหลืองอำพัน โดยชื่อแบรนด์นางลอยมีจุดเริ่มต้นจากการวางขายน้ำอบครั้งแรกที่ ‘ตลาดนางลอย’ ข้างวัดบพิตรพิมุข เขตจักรวรรดิ กรุงเทพฯ โดยในสมัยนั้นยังไม่มีการตั้งชื่อและยังไม่มีตราสินค้า แม่เฮียงขายด้วยการตวง และลูกค้าจะเป็นคนนำภาชนะของตนมาบรรจุน้ำอบไทยกลับไปใช้
ด้วยกลิ่นหอมอันเป็นเอกลักษณ์ ทำให้น้ำอบไทยของแม่เฮียงได้รับความนิยมอย่างมาก จนลูกค้านำไปแนะนำกันแบบปากต่อปากว่า “น้ำอบไทยของแม่เฮียงที่ตลาดนางลอย” เมื่อนานวันเข้าคำพูดก็ได้เพี้ยนไปเป็น “น้ำอบไทยนางลอยของแม่เฮียง” อันเป็นที่มาของชื่อ น้ำอบนางลอยในปัจจุบัน
โดยต่อมาก็เริ่มเปลี่ยนมาทำตราสินค้าให้ชัดเจนขึ้น รูปนางฟ้าถือขวดน้ำอบไทยไว้ในมือซ้าย ลอยอยู่บนก้อนเมฆ และประดับด้วยลวดลายไทยโดยรอบ พร้อมกับเปลี่ยนมาบรรจุขวด และเริ่มขยายสู่ผลิตภัณฑ์อื่นๆ ในตราสินค้า ‘น้ำอบนางลอย’ เช่น แป้งหินร่ำนางลอย ดินสอพองนางลอย เทียนอบนางลอย วางขายผ่านช่องทางหลากหลายมากขึ้น ผ่านช่องทางของร้านสังฆภัณฑ์และร้านค้าต่างๆ ทำให้ตราสินค้าน้ำอบนางลอยเป็นที่รู้จัก และผลิตภัณฑ์ได้รับความนิยมไปทั่วประเทศมาจนถึงวันนี้
แม้ว่าในปัจจุบันคนรุ่นใหม่จะนิยมใช้น้ำอบไทย หรือเครื่องหอมของไทยน้อยลง แต่น้ำอบไทยยังเป็นส่วนประกอบสำคัญที่ถูกนำไปใช้ในพิธีกรรมต่างๆ ตลอดช่วงชีวิตของคนไทย โดยจะใช้กันมากในช่วงเทศกาลสงกรานต์และงานมงคลใหญ่โต ไม่ว่าจะเป็นงานแต่งงาน งานขึ้นปีใหม่ รวมถึงงานศพ หรือในชีวิตประจำวันอย่างการสรงน้ำพระเสริมสิริมงคล
โดยน้ำอบนางลอยก็ได้มีการพัฒนาสินค้าและรูปแบบผลิตภัณฑ์ต่างๆ อยู่เสมอ เพื่อตอบสนองกับความต้องการของลูกค้าที่เปลี่ยนไปตามยุคสมัย ยกตัวอย่าง ชุดของขวัญ ชุดของฝาก เทียมหอมอโรมากลิ่นน้ำอบไทย ซึ่งน่าจับตามองเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะตลาด Wellness & Spa ที่เรียกได้ว่า นวดไทย สปาไทย ได้กลายเป็นอุตสาหกรรมทำเงินที่ฮอตมากในตลาดตอนนี้
ไม่ว่าย้อนกลับมาสู่เทศกาลสำคัญของคนไทยอีกกี่ครั้ง แบรนด์ไทยดั้งเดิมอย่าง ‘น้ำอบนางลอย’ ยืนหนึ่งในฐานะผู้สร้างกลิ่นหอมอบอวลอันเป็นเอกลักษณ์ให้กับทุกงานประเพณีของคนไทย สร้างผลิตภัณฑ์ที่เป็นส่วนหนึ่งวัฒนธรรมไทยที่ 'ตระกูล ธ.เชียงทอง' ส่งต่อรุ่นต่อรุ่น
โดยปัจจุบันต้นตำรับความหอมแบบน้ำอบนางลอยที่หอมนานกว่าร้อยกว่าปียังคงอยู่แบบเดิม ทั้งคุณภาพและกรรมวิธีผลิตภายใต้การบริหารของทายานรุ่นสี่ ‘น๊อต ดิษฐพงศ์ ธ.เชียงทอง’ ที่ยังคงเชื่อมั่นในวัตถุดิบและตั้งมั่นในเรื่องเครื่องหอมไทยแบบ Craftmanship ที่รักษาไว้ซึ่ง ‘กรรมวิธี กลิ่น สี และความเป็นไทย’ เอกลักษณ์ของแบรนด์น้ำอบนางลอยที่หอมฟุ้งเหนือกาลเวลา
ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ - https://www.facebook.com/ThairathMoney