"สำนักงานสลากฯ" เตรียมจำหน่าย "สลากกินแบ่งรัฐบาลตัวเลขสามหลัก" ในราคาใบละ 20 บาท สามารถเลือกซื้อได้ทุกหมายเลข ตั้งแต่ 000-999 ไม่มีเลขอั้น เริ่มงวด 1 พ.ย. 2567
เมื่อวันที่ 2 ตุลาคม 2567 สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล (GLO) โดย รศ.ดร.ธนวรรธน์ พลวิชัย กรรมการและโฆษกคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล พร้อมด้วย พันโท หนุน ศันสนาคม ผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล แถลงเดินหน้าโครงการ "สลากกินแบ่งรัฐบาลตัวเลขสามหลัก" ผลิตภัณฑ์ใหม่ของสำนักงานสลากฯ ณ อาคารออกรางวัล สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล
รศ.ดร.ธนวรรธน์ เผยว่า การแก้ไขปัญหาสลากเกินราคา เพื่อให้คนไทยสามารถซื้อสลากได้ในราคาไม่เกิน 80 บาท เป็นวาระสำคัญที่สำนักงานสลากฯ ได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง โดยมีแนวทางแก้ไข (Road Map) เป็น 3 ระยะ โดยระยะที่ 1 คือ การจัดระเบียบและบังคับใช้กฎหมาย และระยะที่ 2 คือ การจัดระบบการจำหน่ายสลากผ่านโครงการซื้อ-จองล่วงหน้า ส่งผลทำให้สลากกระจายไปยังผู้จำหน่ายทั่วประเทศอย่างเป็นรูปธรรม รวมทั้งการผลักดันโครงการสลาก 80 ซึ่งมีตัวแทนกระจายอยู่ทุกจังหวัดทั่วประเทศ
ปัจจุบันการแก้ไขสลากเกินราคา ได้เดินทางมาถึงระยะที่ 3 ด้วยการแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืน และเป็นธรรม คือ การนำระบบดิจิทัลมาใช้ในการจำหน่าย ในรูปแบบสลากกินแบ่งรัฐบาลหกหลัก (L6) แบบดิจิทัล หรือ สลากดิจิทัล ผ่านแอปพลิเคชันเป๋าตัง ซึ่งยืนยันว่าผู้ซื้อทุกคนจะซื้อสลากในราคาไม่เกิน 80 บาททุกฉบับ โดยได้รับความนิยมและประสบความสำเร็จอย่างสูง ปัจจุบันมียอดจำหน่ายสูงสุด 24 ล้านฉบับ และเพิ่มระหว่างงวดอีก 2 ล้านฉบับ จากจุดเริ่มต้นที่ 5 ล้านฉบับ ในปี 2565
ทั้งนี้ เพื่อให้การแก้ไขสลากเกินราคาครบถ้วนในทุกมิติยิ่งขึ้น สามารถแก้ปัญหาได้อย่างยั่งยืนและเป็นไปตามกลไกตลาด สามารถแก้ปัญหาให้ผู้ซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลหกหลัก ที่ยังไม่สามารถซื้อหมายเลขที่ต้องการได้ ทำให้ต้องไปพึ่งพาทางเลือกอื่น เช่น การจำยอมซื้อสลากเกินราคาเพื่อให้ได้หมายเลขที่ต้องการ หรือเลือกเล่นการพนันนอกระบบ จึงเป็นที่มาของการเดินหน้าผลิตภัณฑ์ใหม่ คือ “สลากกินแบ่งรัฐบาลตัวเลขสามหลัก” เพื่อให้ตอบโจทย์กับผู้ซื้อและผู้จำหน่ายสลากในสภาวะปัจจุบัน
...
“ผลิตภัณฑ์สลากฯ ทั้ง 2 รูปแบบ ได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) ซึ่งเป็นการดำเนินการตามกฎหมาย มีวัตถุประสงค์เพื่อแก้ไขปัญหาการจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาลเกินราคา โดยเป็นทางเลือกให้กับผู้บริโภคสามารถเลือกซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลได้ตามราคาที่กฎหมายกำหนด ซึ่งสลากกินแบ่งรัฐบาลตัวเลขสามหลักจะเป็นเครื่องมือสำคัญต่อเนื่องจากการจำหน่ายสลากดิจิทัลที่พิสูจน์แล้วว่าสามารถแก้ไขปัญหาสลากเกินราคาและดึงราคาสลากมาได้บางส่วน”
รศ.ดร.ธนวรรธน์ กล่าวว่า สำนักงานสลากฯ กำหนดจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาลตัวเลขสามหลัก ในระบบทดสอบแบบปิด (Sandbox) ให้กับประชาชนทั่วไป ตั้งแต่งวดวันที่ 1 พฤศจิกายน 2567 หรือจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 17 ตุลาคม 2567 เป็นต้นไป โดยจะเก็บรวมรวมข้อมูลการจำหน่าย ผลกระทบต่อลูกค้าและกลุ่มผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย รวมทั้งผลต่อการจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาลหกหลัก โดยคาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 6 เดือน และจะเริ่มจำหน่ายเต็มรูปแบบได้ตั้งแต่ช่วงเมษายน 2568
สำหรับกระบวนการคัดเลือกตัวแทนจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาลตัวเลขสามหลัก อยู่ระหว่างดำเนินการจัดทำเกณฑ์การคัดเลือกตัวแทนจำหน่าย และข้อกำหนดต่างๆ ซึ่งกระบวนการทั้งหมดจะต้องเสร็จสิ้นและพร้อมให้ดำเนินการก่อนเปิดจำหน่ายเต็มรูปแบบ
พันโท หนุน ศันสนาคม ผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล เปิดเผยว่า สลากกินแบ่งรัฐบาลตัวเลขสามหลักในระบบทดสอบแบบปิด (Sandbox) จะจำหน่ายในราคาใบละ 20 บาท สามารถเลือกซื้อได้ทุกหมายเลข ตั้งแต่ 000-999 ไม่มีเลขอั้น โดยผู้ซื้อสามารถซื้อสลากในช่วงทดสอบจำหน่ายได้ที่ "ร้านค้าโครงการสลาก 80 ทั่วประเทศที่เข้าร่วมโครงการ" กว่า 400 แห่งทั่วประเทศ สามารถสแกนตรวจสอบจุดจำหน่ายได้จากแอปพลิเคชันเป๋าตัง และทำรายการซื้อสลากพร้อมชำระเงินผ่านอุปกรณ์ที่สำนักงานสลากฯ ได้ติดตั้งไว้ผ่านแอปพลิเคชันเป๋าตัง เพื่อให้เป็นไปตามข้อกำหนดของโครงการที่ต้องชำระเงินผ่านระบบดิจิทัลเท่านั้น
ทั้งนี้ สลาก 1 ใบ มีโอกาสถูก 4 ประเภทรางวัล ได้แก่ สามตรง, สามสลับหลัก, สองตรง และรางวัลพิเศษ ซึ่งจะจ่ายเงินรางวัลในรูปแบบผันแปรตามจำนวนผู้ซื้อในแต่ละหมายเลขที่ถูกรางวัลในงวดนั้น ๆ กำหนดออกรางวัลเดือนละ 2 ครั้ง ใช้ผลรางวัลอ้างอิงจากผลการออกรางวัลสลากกินแบ่งรัฐบาลหกหลัก โดยรางวัลสามตรงและสามสลับหลัก จะมาจากเลข 3 ตัวท้ายของผลรางวัลที่ 1, รางวัลสองตรงมาจากผลรางวัลเลขท้าย 2 ตัว และรางวัลพิเศษจะสุ่มจากผู้ถูกรางวัลสามตรงเท่านั้น โดยจะมีการออกรางวัลพิเศษภายหลังจากการออกรางวัลสลากกินแบ่งรัฐบาลหกหลักเสร็จสิ้นในแต่ละงวด
สำหรับการจ่ายรางวัล ผู้ที่ถูกรางวัลจะได้รับการเตือนในแอปพลิเคชันเป๋าตัง และสามารถกดรับเงินรางวัลผ่านแอปพลิเคชันเป๋าตังได้ทันที โดยจะต้องมีการชำระค่าอากรแสตมป์ในอัตรา 1 บาท ต่อเงินรางวัล 200 บาท หรือเศษของ 200 บาท และการรับเงินโดยวิธีการโอนเงินรางวัลเข้าบัญชีธนาคาร โดยธนาคารกรุงไทย ไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียม
อย่างไรก็ตาม สำนักงานสลากฯ จะจำหน่ายสลากด้วยความรับผิดชอบต่อสังคม ทั้งการกำหนดหลักเกณฑ์ ไม่ให้ผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปี สามารถซื้อสลากได้ การกำหนดพื้นที่ในการจำหน่ายสลากห้ามใกล้กับสถานศึกษา เช่นเดียวกับสลากกินแบ่งรัฐบาลหกหลักแบบดิจิทัล.