หากหลับตาแล้วมองภาพสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต แม่หลายคนก็อาจจะเริ่มเห็นภาพและเข้าใจมากขึ้นว่า จากอดีตถึงปัจจุบัน ไม่ใช่เพียงแค่ผู้คนและสังคมเท่านั้นที่เปลี่ยนไป แต่โลกของอาชีพก็ได้เปลี่ยนไปอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งอาชีพที่เกิดขึ้นตามการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีและชีวิตดิจิทัล คำถามของแม่หลายคนในวันนี้จึงมักเป็น “ในอนาคตลูกของเราจะทำอาชีพอะไร ?” หรือ “แล้วอาชีพในอนาคตแบบไหนจะเหมาะกับลูก ?” แต่แทนที่จะถามถึงตัวอาชีพ หากเปลี่ยนเป็นการคาดคะเนถึงทักษะที่จำเป็น และเตรียมการว่ามีอะไรบ้างสำคัญต่อการทำงานในอนาคต น่าจะเป็นทางเลือกที่ดีไม่น้อย ไม่ว่าวันนั้นที่สุดแล้วลูกๆ จะเติบโตขึ้นไปเลือกอาชีพใดก็ตาม

อาชีพเก่าที่หายไป และอาชีพใหม่ที่กำลังเกิดขึ้น
อาชีพเก่าที่หายไป และอาชีพใหม่ที่กำลังเกิดขึ้น

อาชีพเก่าที่หายไป และอาชีพใหม่ที่กำลังเกิดขึ้น

ด้วยเทคโนโลยีที่เปลี่ยนไป แม้วันนี้คุณแม่ทั้งหลายจะยังไม่สามารถคาดเดาสิ่งอาจเกิดขึ้นในอีก 10-20 ปีข้างหน้าได้ โดยเฉพาะกับอาชีพใหม่ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต แต่ในวันนี้ก็มีการประเมินมากขึ้นว่ามีหลายอาชีพที่จะเริ่มหายไปจากการนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้แทนที่คนมากขึ้น หรือถูกแทนที่โดย AI ยกตัวอย่าง เช่น แคชเชียร์ในซุปเปอร์มาร์เก็ตที่เริ่มถูกแทนที่ด้วยเครื่องชำระเงินอัตโนมัติ พนักงานต้อนรับในสำนักงานหรือห้างสรรพสินค้าหรือแม้แต่พนักงานเสิร์ฟอาหาร ที่เริ่มถูกแทนที่ด้วยหุ่นยนต์หรือระบบอัตโนมัติ ไปจนถึงอีกหลายอาชีพที่เริ่มหายไปแล้วจากการลดลงของธุรกิจการพิมพ์ เช่น คนส่งหนังสือพิมพ์ เป็นต้น

โลกอนาคตของลูก คุณแม่เลือกได้
โลกอนาคตของลูก คุณแม่เลือกได้

ด้วยการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีอย่างรวดเร็ว ทำให้เราจำเป็นต้องอยู่ร่วมกับการพัฒนาเพื่อตอบสนองความต้องการของกระแสตลาดโลกนอกจากจะมีอาชีพที่หายไป ในแต่ละปีก็มีอาชีพใหม่ๆ เกิดขึ้นตามมานอกเหนือจากอาชีพที่ได้รับความสนใจในยุคนี้อย่าง ยูทูบเบอร์ (YouTuber) หรืออินฟลูเอนเซอร์ (Influencer) มากมาย ไม่ว่าจะเป็น

  • นักพัฒนาแอปพลิเคชัน
  • นักวิทยาการข้อมูล
  • ผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดการข้อมูลเชิงลึก
  • นักพัฒนาซอฟต์แวร์ AI
  • นักพัฒนาหุ่นยนต์
  • นักพัฒนาและสร้างเกม VR หรือเทคโนโลยีเสมือนจริง (Virtual Reality) ฯลฯ

ซึ่งหลายอาชีพอาจทำให้แม่หลายต่อหลายคนประหลาดใจถึงการเกิดขึ้นและมีอยู่ในวันนี้ แต่ขณะเดียวกันก็ช่วยตอกย้ำมากขึ้นถึงการเปลี่ยนแปลงในโลกของอาชีพใหม่ในอนาคต ว่าในอีก 10-20 ปีข้างหน้าจะมีอาชีพอะไรบ้าง ซึ่งแน่นอนว่าจะเหนือการคาดเดาอีกมาก ในวันที่เทคโนโลยีเจริญรุดหน้ามากขึ้นเรื่อยๆ นั่นจึงเป็นเหตุผลด้วยว่า ทำไมแม่ต้องเข้าใจว่าทักษะอนาคตสำคัญกับลูกเพียงใด

ปลูกฝัง Soft Skills แบบแม่ Gen อนาคต เพื่ออาชีพในฝันของลูกน้อย
ปลูกฝัง Soft Skills แบบแม่ Gen อนาคต เพื่ออาชีพในฝันของลูกน้อย

แม่ทั้งหลายมองเห็นอะไรบ้าง จากโลกวันนี้

เมื่อมองกลับมาในความเป็นพ่อแม่ Gen อนาคตแล้ว การรู้จักและทำความเข้าใจภาพรวมของโลกเทคโนโลยี จึงอาจช่วยให้แม่ทั้งหลายสามารถมองเห็นภาพรวมการเปลี่ยนไปของโลกแห่งอาชีพในอนาคตได้ด้วย ขณะเดียวกันก็สามารถประเมินได้คร่าวๆ ว่า อาชีพกลุ่มใดที่กำลังจะหายไป และอาชีพใหม่ใดมีแนวโน้มที่จะเกิดขึ้น ทั้งนี้ก็เพื่อให้เป็นแนวทางในการเสริมทักษะที่จำเป็นสำหรับลูก โดยเฉพาะการเสริมทักษะความรู้ (Hard Skills) ที่จำเป็นต่ออาชีพในอนาคต แต่นอกเหนือจาก Hard Skills แล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่แม่ต้องระลึกถึงควบคู่กันไปก็คือ Soft Skills ทักษะสำคัญที่เกิดจากการเรียนรู้ผ่านประสบการณ์ ไม่ว่าจะเป็นความสามารถด้านอารมณ์ การพัฒนาตนเอง และการใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับผู้อื่นในสังคม ซึ่งมีความเกี่ยวข้องกับสติปัญญาแต่ละด้าน อันเป็นส่วนหนึ่งในการเตรียมลูกให้พร้อมกับอาชีพใหม่ในอนาคต ไม่ว่าอาชีพในอนาคตของลูกจะเป็นอาชีพใดก็ตาม

ปลูกฝัง Soft Skills แบบแม่ Gen อนาคต เพื่ออาชีพในฝันของลูกน้อย

มีข้อความหนึ่งกล่าวว่า Soft Skills สร้างยากกว่า Hard Skills เนื่องจากเป็นทักษะชีวิตที่ต้องอาศัยเวลาในการปลูกฝังยาวนานกว่า แม้เราไม่ทราบว่านี่เป็นข้อเท็จจริงเพียงใด แต่ Soft Skills ก็นับเป็นทักษะชีวิตที่ได้ชื่อว่าส่งผลต่อการใช้ชีวิตรอบด้าน ไม่เว้นโลกของการทำงาน ซึ่งหมายถึงภาคส่วนใหญ่ในชีวิตอนาคตของลูกเช่นกัน ซึ่งทักษะจะเล่าต่อไปนี้คือทักษะที่สำคัญต่อโลกของอาชีพในอนาคตที่แม่สามารถปลูกฝังให้แก่ลูกได้ตั้งแต่วัยเยาว์

  • วิจารณญาณและการวิเคราะห์ข้อมูล

จากวันนี้ถึงอนาคต เราจะเข้าถึงข้อมูลต่างๆ ได้ง่ายดายขึ้น แต่ภายใต้ข้อมูลมากมายก็คือการปะปนกันของข้อเท็จจริงมากขึ้นเช่นกัน การพูดคุยและสอนให้ลูกเรียนรู้การรู้จักตั้งคำถาม คือการปลูกฝังพื้นฐานที่ดีเรื่องการวิเคราะห์ข้อมูล และมีวิจารณญาณ ผู้เชี่ยวชาญยังแนะนำเพิ่มเติมว่าให้ลองชวนลูกหาข้อมูลเรื่องใดเรื่องหนึ่งจากหลายแหล่งข้อมูลบ่อยๆ 

  • ทักษะด้านความคิดสร้างสรรค์และการต่อยอด

ในอนาคตที่เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทต่อเรื่องพื้นฐานหลายเรื่องในชีวิต สิ่งที่จะทำให้มนุษย์แต่ละคนแตกต่างและโดดเด่นขึ้น คือการมีความคิดสร้างสรรค์ ขณะเดียวกันก็คือการสามารถนำไปต่อยอดได้ ผ่านกิจกรรมฝึกสมอง ซึ่งทักษะเหล่านี้สามารถเกิดได้จากการปลูกฝังโดยการผสานศิลปะ ดนตรี และการละเล่นเชิงสร้างสรรค์ เข้าไปในชีวิต นับเป็นอีกส่วนหนึ่งของการวางพื้นฐานให้ลูกที่น่าสนใจทีเดียว

  • การรู้จักปรับตัวกับทุกสถานการณ์

แม้อาชีพในอนาคต อาจเปลี่ยนแปลงไปตามสถานการณ์ใหม่ๆ ของโลกในอีก 10-20 ปีข้างหน้าของลูกน้อย การวางพื้นฐานชีวิตด้านการรู้จักปรับตัวกับทุกสถานการณ์จึงมีความสำคัญไม่น้อยเลย ผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่า การพาลูกไปทำกิจกรรมที่ไม่เคยทำบ่อยๆ จะช่วยกระตุ้นและพัฒนาทักษะให้ลูกกล้าเผชิญกับสิ่งใหม่และตั้งรับกับความท้าทายได้ดีขึ้น เช่นเดียวกับที่ควรให้พวกเขาเรียนรู้จากความผิดพลาดให้เป็น เพราะทักษะนี้จะเป็นอีกหนึ่งในภูมิคุ้มกันที่ดีของลูกได้

  • การทำงานเป็นทีมและการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า

สิ่งหนึ่งที่จะเกิดขึ้นอย่างแน่นอนในโลกของอาชีพ หรือการทำงานอนาคต คือการต้องเป็นส่วนหนึ่งของคนหมู่มาก ไม่ว่าจะในฐานะผู้นำ หรือผู้ตาม รวมถึงการทำงานเป็นทีมอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ วิธีการหนึ่งที่ผู้เชี่ยวชาญแนะนำอยู่บ่อยครั้งเพื่อการเรียนรู้เรื่องทีมเวิร์ก คือการเล่นกีฬาแบบทีม เนื่องจากจะช่วยสะท้อนสถานการณ์ของบทบาทที่หลากหลายกับหน้าที่และความสำคัญที่เชื่อมโยงกัน ขณะเดียวกันกีฬาก็ยังปลูกฝังการฝึกคิดแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าได้ดี ซึ่งถือเป็นทักษะที่ทุกอาชีพพึงมีนั่นเอง

เราเข้าใจดีว่าพ่อแม่ย่อมมีความกังวลใจถึงอนาคตที่ยังมาไม่ถึงของลูกน้อย แต่หน้าที่ของแม่ยุคใหม่ หรือแม่ Gen อนาคต คือคนที่พร้อมประเมินและตั้งรับสถานการณ์ทั้งในวันนี้และอนาคต มองภาพกว้างได้ วางแผนการเลี้ยงดูแบบมีหลักการเป็น เพื่อให้เมื่อวันนั้นของลูกน้อยมาถึง ไม่ว่าอาชีพใดจะหายไป หรือมีอาชีพใดกำเนิดใหม่ ทักษะชีวิตที่พ่อและแม่เตรียมพร้อมให้กับลูกในวันนี้ จะเป็นทักษะที่ยังใช้การได้ และให้ลูกๆ สามารถนำไปปรับใช้ได้ต่อไป

การทำงานเป็นทีมและการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า
การทำงานเป็นทีมและการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า

หากคุณแม่มีข้อสงสัยเกี่ยวกับพัฒนาการสมองและการเรียนรู้ของลูกเพิ่มเติม สามารถปรึกษาทีมพยาบาล S-Mom Club ได้ตลอด 24 ชม.ไม่มีค่าใช้จ่าย