เป็นหนึ่งในผู้บริหารมืออาชีพที่สร้างความสำเร็จด้วยความสามารถ กิตติ ตั้งพานทอง ผู้บริหารแห่ง Mattress City อาณาจักร หรือศูนย์รวมที่นอนและเครื่องนอนครบวงจรแห่งแรกในประเทศไทย มีความเข้าใจในงานและทีมงาน ใช้การสื่อสารเพื่อไปสู่เป้าหมายเดียวกัน

กิตติ หรือ หมู Marketing Manager แบรนด์ Mattress City อาณาจักร หรือศูนย์รวมที่นอนและเครื่องนอนครบวงจรแห่งแรกในประเทศไทย เล่าถึงงานของตนเองว่า ตนทำงานเป็นดีลเลอร์ในการขายที่นอน เครื่องนอน เตียงนอน ทุกอย่างที่เกี่ยวกับการนอน ช่วงแรกของแมทเทรส ซิตี้ เริ่มต้นที่พัทยา หัวหิน และขยายมาที่พระราม 9 จากนั้นก็ขยายสาขาไปที่ต่างๆ ตนจะดูแลที่แมทเทรส ซิตี้ เกือบทุกอย่าง ยกเว้นการเงิน บัญชี ซึ่งจะเน้นในส่วนของการขาย ทั้งในส่วนของออนไลน์ และออฟไลน์ ที่เป็นหน้าร้านในแต่ละสาขา เพื่อให้การทำงานไปสู่จุดมุ่งหมายเดียวกัน คือการสื่อสารทั้งในส่วนของลูกค้าและทีมพนักงาน

“หัวใจสำคัญในการทำธุรกิจทางออนไลน์ หรือออฟไลน์ การสื่อสารมีความสำคัญ ถ้าการสื่อสารถึง ไม่ใช่แค่ยิงโฆษณา เรามีทีมที่ปรึกษาเกี่ยวกับโปรดักส์ ตั้งแต่ช่วงเช้าจนถึงเที่ยงคืน ถ้าคุณมีปัญหาอะไรเกี่ยวกับการนอน เรามีพนักงานพีซีในการให้ข้อมูลเกี่ยวกับการนอนตลอด พีซีเรามีประสบการณ์อย่างน้อย 3 ปี แต่เฉลี่ยจะอยู่ที่ประมาณ 6-7 ปีในการเป็นคนขายที่นอนมาโดยตลอด ก็จะมีผู้เชี่ยวชาญระดับอาจารย์เข้าไปเทรนนิ่ง เนื่องจากสินค้าเรามีทั้งหมด 10 แบรนด์ที่มีความแตกต่างกัน เรื่องที่นอนต้องบอกว่าไม่มีที่นอนที่ดีที่สุด แต่มีที่นอนที่เหมาะกับเราที่สุด ยกตัวอย่างที่นอนบางตัว บางคนไปนอนบอกว่าตัวนี้ไม่โอเคกับฉันเลย แต่อีกคนซึ่งรูปลักษณ์หนึ่งอาจจะเหมาะกว่า ในส่วนของการสื่อสารกับลูกค้าเราจะสอนพนักงานเลยว่า หน้าที่ของเราคือมอบความสุขในยามค่ำคืนให้กับเขา! จึงต้องให้ความรู้แก่ลูกค้า อันดับแรกของเราคือ ให้เข้าใจก่อนว่าการนอนคืออะไร อย่างที่ 2 ให้เข้าใจสเปกของที่นอน อย่างที่ 3 บอกเราว่าลักษณะการนอนของคุณเป็นแบบไหน แล้วรูปลักษณ์เป็นแบบไหน เราก็จะเลือกที่นอนให้เหมาะกับคุณ ปัจจัยสำคัญของการนอน ทั้งท่านอน นอนคนเดียวหรือนอน 2 คน รูปร่างน้ำหนัก ล้วนมีผลในการเลือกที่นอนทั้งนั้น ถ้าลูกค้าเข้าใจถึงการนอนคืออะไร ทำไมถึงปวดหลัง ปวดตรงไหน อะไรแบบนี้ เราจะหาที่นอนให้เหมาะได้อย่างไร มันไม่ได้สำคัญว่าเราต้องขายสินค้าที่แพงที่สุด แต่ขายสินค้าที่เหมาะกับคุณมากที่สุด” ผู้บริหารคนเก่งอธิบาย

...

ในส่วนของการสื่อสารกับทีมงาน ผู้บริหารหนุ่มคนนี้บอกว่า การพูดคุยสร้างความเข้าใจและสร้างการเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันเป็นสิ่งสำคัญ และอีกสิ่งที่สำคัญคือการสร้างความสุขในการทำงาน

“ถ้าทุกคนทำงานบนพื้นฐานของคำว่า “สนุก” ต่อให้มีแรงกดดันก็ผ่านไปได้ อย่างช่วงโควิดที่ผ่านมา ทุกคนทำงานสนุก แม้จะไม่ได้พัก เขาไม่มีใครบ่น เพราะมีความสุข สนุก เราต้องมองว่าเขาอยู่ดีเราอยู่ได้ วันนี้ทำอย่างไรให้ชีวิตเขาอยู่ดีบริษัทก็จะอยู่ได้ ถ้าเขามั่งคั่ง เราก็จะอยู่ดี ถ้าพนักงานอยู่ได้ ยอดขายดี องค์กรก็จะ เติบโตเอง อย่างที่ 2 ต้องให้เขามองเห็นทิศทางการเติบโตว่าองค์กรเราจะโตไปในทิศทางไหน ไม่ให้รู้สึกว่ามันตันสำหรับเขา ถ้าเขาเห็นว่าสิ่งที่ทำวันข้างหน้าบริษัทโตไปที่ไหน เขาก็จะโตไปกับเราด้วย”...หัวใจการทำงานที่ประสบความสำเร็จของผู้บริหารคนนี้.