ชาวการบินไทยที่ช่วยกันสร้างชื่อเสียงให้สายการบินไทยแห่งชาติ กลับมาอยู่แถวหน้าของสายการบินที่กำลังแข่งขันกันเข้มมาก ปลาบปลื้มดีใจไปตามๆกัน เมื่อ อุษณีย์ แสงสิงแก้ว รักษาการ DD การบินไทย และ ภัครา เรืองสิรเดโช รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่หน่วยธุรกิจบริการการบิน วิวัฒน์ ปิยะวิโรจน์ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่สายการพาณิชย์ และ เฉลิมพล แก้วชินพร ผู้อำนวยการใหญ่ฝ่ายบริการบนเครื่องบิน บินไปรับรางวัล สายการบินยอดเยี่ยม
ของโลก จากสกายแทรกซ์ ประจำปี 2018 ที่เดอะ แลงแฮม ลอนดอน กลับมาถึง 3 รางวัล คือ สายการบินอันดับ 1 ที่ให้บริการชั้นประหยัดยอดเยี่ยมของโลก (World’s Best Economy Class) สายการบินอันดับ 1 ที่ให้บริการสปาเลานจ์ยอดเยี่ยมของโลก (World’s Best Airline Lounge Spa) และ รางวัลอันดับ 1 สายการบินที่ให้บริการอาหารสำหรับชั้นประหยัดยอดเยี่ยม (Best Economy Class Onboard Catering) -- ก็ต้องปลื้ม เพราะรางวัลจาก สกายแทรกซ์ ถือเป็น “ออสการ์ของอุตสาหกรรมการบิน”
ที่ต้องดีใจมาก เพราะรางวัลดังกล่าวไม่ใช่เพิ่งได้ เพราะการบินไทยได้รางวัลอันดับ 1 การบริการชั้นประหยัดยอดเยี่ยมของโลกเป็นปีที่ 2 และรางวัลอันดับ 1 สปาเลานจ์ยอดเยี่ยมของโลก ได้ติดต่อกันเป็นปีที่ 4 ส่วนรางวัลอันดับ 1 ที่ให้บริการอาหารสำหรับชั้นประหยัดยอดเยี่ยม ก็ได้รับเป็นปีที่ 2
...
นอกจากนี้ การบินไทย ยังได้รับการจัดอันดับให้เป็น 1 ใน 10 สายการบินที่ดีที่สุดในโลก (World’s Best Airline 2018) รวมทั้งรางวัลพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินที่ดีที่สุดในประเทศไทย (Best Cabin Crew in Thailand) และรางวัลสายการบินที่ให้บริการชั้นประหยัดที่ดีที่สุดในภูมิภาคเอเชีย (Best Economy Class in Asia) คุณอ้อม-อุษณีย์ จึงบินกลับมาด้วยรอยยิ้ม นำรางวัลมาเป็นกำลังใจแก่พนักงานการบินไทย ให้ภูมิใจที่ช่วยกันกอบกู้ รักษามาตรฐานการบริการและความปลอดภัยได้ติดระดับสากล ซึ่ง คุณอ้อม บอกจะพยายามทำให้ดีที่สุดต่อไปไม่ท้อ และขอกำลังใจจากคนไทย เพื่อเผชิญกับการแข่งขันจากสายการบินทุนหนาหนักที่สาหัสอยู่เนี่ย
หนๆอยู่บนเครื่องการบินไทย รับของว่างที่เสิร์ฟบนเครื่องไปอีกเรื่องนะคะ เพราะทราบกันว่า กัปตันต้วง-กรพรหม แสงอร่าม ใช้เวลาว่างในการรับผ่าตัดให้แก่ผู้ป่วยโรคหัวใจ และเป็นวิทยากรจิตอาสาในโรงพยาบาลเรื่องความปลอดภัยในการดูแลรักษาผู้ป่วยโดยไม่รับค่าตัว เพราะตั้งใจว่าจะเป็นอีกช่องทางที่ทำให้บุคลากรใน รพ.ต่างๆมีมาตรฐานในการปฏิบัติหน้าที่สูงสุด นอกจากงานหลวง งานราษฎร์ เรื่องกุศลก็ไม่พลาด เพราะถ้ามีเวลา กัปตันต้วง จะหาเวลาไปปฏิบัติธรรมครั้งละ 7 วันมาเกือบ 10 หนแล้ว ปีนี้ กัปตันต้วง จึงเริ่มพา น้องโบอิ้ง ลูกชายคนโต วัย 10 ขวบ ไปปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานครั้งแรก เป็นเวลา 5 วัน
พอกลับมาบิน ก่อนฟังบรีฟขึ้นบิน กัปตันต้วง ก็เข้าไปกราบพระเพื่อความเป็นสิริมงคลที่ห้องพระติดๆกับห้องพักนักบิน พอเดินออกมาก็เจอน้องนักบินผู้ช่วย ซึ่งไม่เคยบินด้วยกันมาก่อน จึงทักทายถามว่าน้องชื่อเล่นอะไร พอน้องตอบ ชื่อ น้ำมนต์ ครับ กัปตันต้วง ก็แอบคิดว่า โอ้โห สิ่งศักดิ์สิทธิ์มีจริง เท่านั้นยังไม่พอ พอมาถึงเครื่อง เจอน้องสจ๊วตครัวหน้า เขาก็แนะนำตัวว่าผมชื่อ ข้าวสาร ครับ พี่ กัปตันต้วง ก็นึกไปถึงข้าวสารในกระถางธูปทันที ต่อด้วยเจอน้องแอร์โฮสเตสที่เคยบินด้วยกันมาก่อนก็ชื่อ น้อง “บัว” ดอกไม้บูชาพระ
ทำให้ กัปตันต้วง แอบขำ พึมพำก่อนเข้าห้อง cockpit ว่า “อะไรกันเนี่ย ไฟลท์ ธรรมะ ธัมโม ชัดๆ” แถมจุดหมายปลายทางวันนั้นก็คือเชียงใหม่ ซึ่งเต็มไปด้วยวัด กัปตันต้วง มาเล่าให้ใครๆฟังจึงมีคนบอกว่า เป็นไฟลท์ที่ธรรมะจัดสรรกันมาบินกันจริงจริ๊ง เพราะทั้งกัปตันใฝ่ธรรมะ และลูกเรือก็ชื่อคล้องจองกันไปหมด.
โสมชบา