อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของไทยยังสดใสไปต่อได้อีกไกลล่าสุด เพิ่งคว้าแชมป์แหล่งท่องเที่ยวที่ทำรายได้สูงสุดเป็นอันดับหนึ่งของเอเชีย และขึ้นแท่นเป็นอันดับสี่ของโลก ด้วยสถิติเม็ดเงินกว่า 57,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (คิดเป็นเงินไทยราว 1.82 ล้านล้านบาท) น่าภูมิใจในความอะเมซิ่งของไทยแลนด์ ที่ไม่เป็นสองรองใครจริงๆ
เพื่อตอกย้ำความเป็นศูนย์กลางการผลิตสินค้าแฟชั่นและไลฟ์สไตล์ของอาเซียน ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งความภาคภูมิใจของประเทศไทย กลุ่มคัสเตอร์แฟชั่นและไลฟ์สไตล์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ภายใต้การนำของ “สุพันธุ์ มงคลสุธี” และ “เดอะหนึ่ง-สุริยน ศรีอรทัยกุล” จึงลุกขึ้นผนึกกำลังกับการท่องเที่ยวแห่ง ประเทศไทย, หน่วยงานภาครัฐ และภาคเอกชนชั้นนำ สร้างปรากฏการณ์ระดับทอล์กออฟเดอะเวิลด์ “Amazing Thailand Brand Made in Thailand : The Longest Runway” เนรมิตแฟชั่นรันเวย์ยาวที่สุดในเอเชีย 8.9 กิโลเมตร ขนทัพนายแบบและนางแบบกว่า 200 ชีวิต พาเหรดมาร่วมอวดของดีของเด่นเมดอินไทยแลนด์จาก 9 กลุ่มอุตสาหกรรมชั้นนำของไทย ให้ชาวโลกได้ตื่นตะลึง ภายใต้ธีม “คันทรี อิมเมจ” โดยออกสตาร์ตจาก “ริเวอร์ พาร์ค” ไอคอนสยาม มุ่งหน้าสู่สยามพารากอน ท่ามกลางเสียงฮือฮาตลอดเส้นทาง
...
งานนี้เรียกเสียงปรบมือกราวใหญ่ เพราะเป็นครั้งแรกในโลกที่ทัพนายแบบและนางแบบเป็นร้อยๆชีวิตเดินแบบในสไตล์สะเทินน้ำสะเทินบก ร่วมสัญจรทุกเส้นทางการขนส่งสาธารณะยอดนิยม ไล่ตั้งแต่ลงเรือสำราญเจ้าพระยาครุยส์ และเรือท่องเที่ยว Boat 4U ไปจนถึงกระโดดขึ้นรถไฟฟ้าบีทีเอส และรถบัสซิตี้ทัวร์สยามฮอป เพื่อเปิดมิติใหม่ ของการท่องเที่ยวไทย ที่ผนวกเอาเสน่ห์ความงดงามของ แม่น้ำเจ้าพระยาเข้ากับความคึกคัก มีชีวิตชีวาของแหล่งช็อปปิ้งใจกลาง เมืองได้อย่างชาญฉลาดน่าทึ่ง
ในฐานะโต้โผใหญ่จัดงานครั้งนี้ “เดอะหนึ่ง-สุริยน” ประธานคลัสเตอร์แฟชั่นและไลฟ์สไตล์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย บอกเล่าถึงความตั้งใจเกินร้อยว่า มีความใฝ่ฝันมานานว่าสักครั้งในชีวิตอยากจัดแฟชั่นรันเวย์ที่ยาวที่สุดในเอเชีย เมื่อมารับตำแหน่งประธานคลัสเตอร์แฟชั่นและไลฟ์สไตล์ จึงเป็นโอกาสดีที่ได้สานฝันยิ่งใหญ่ให้เป็นจริง เราใช้เวลาถึง 1 ปีเต็ม เพื่อเตรียมการจัดงานครั้งนี้ โดยผนึกกำลังกับทั้ง 9 กลุ่มอุตสาหกรรมคือ อัญมณีและเครื่องประดับ, เครื่องสำอาง, ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร, เครื่องนุ่งห่ม, หัตถอุตสาหกรรม, สิ่งทอ, รองเท้า, หนังและผลิตภัณฑ์หนัง ตลอดจนผู้ผลิตเครื่องมือแพทย์และสุขภาพ ซึ่งได้รับการยอมรับในระดับโลกถึงความเป็นเลิศด้านคุณภาพมาอย่างต่อเนื่อง โดยสร้างรายได้ให้ประเทศปีละมากกว่า 2.39 ล้านล้านบาท และสร้างงานให้คนไทยถึง 4 ล้านคน
...
...
ประธานรุ่นใหม่ไฟแรง “เดอะหนึ่ง” ยังแสดงวิสัยทัศน์ว่า ทุ่มสุดตัวกับการจัดงานครั้งนี้เพื่อให้ชาวโลกหันมามองประเทศไทยอีกครั้ง โดยอยากประชาสัมพันธ์ให้นักท่องเที่ยวได้รับรู้ถึงคุณภาพและมาตรฐานของสินค้าไทย ซึ่งทัดเทียมกับแบรนด์ชั้นนำระดับโลก เฉพาะกลุ่มอัญมณีและเครื่องประดับ ติดอันดับ 1 ใน 10 สินค้าส่งออกที่มีมูลค่าสูงสุดของไทยมาต่อเนื่องมากกว่าทศวรรษ โดยในปี 2561 สร้างรายได้จากการส่งออกถึง 400,000 ล้านบาท และทำรายได้ในประเทศ 600,000 ล้านบาท ต้องขอบคุณรัฐบาลที่สนับสนุนให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการผลิตและการค้าอัญมณีและเครื่องประดับของโลกอย่างจริงจัง ขณะที่กลุ่มอุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มก็เป็นกระดูกสันหลังของเศรษฐกิจไทยที่มีความสำคัญมายาวนาน สร้างรายได้ให้ประเทศปีละไม่ต่ำกว่า 750,000 ล้านบาท และที่น่าจับตามองอย่างยิ่งคือ แนวโน้มการเติบโตของกลุ่มหัตถอุตสาหกรรม ซึ่งเป็นสินค้าที่แสดงถึงอัตลักษณ์และคุณค่าความเป็นไทย สามารถสร้างรายได้จากการส่งออกมากกว่า 30,000 ล้านบาท และทำรายได้ในประเทศเป็นแสนล้านบาท ในปี 2561 สะท้อนให้เห็นว่าชาวต่างชาติชื่นชอบและนิยมงานฝีมือจากภูมิปัญญาไทย จึงถือเป็นพันธกิจที่จะต้องผลักดันให้ผู้ประกอบการไทยเกิดความตื่นตัวในการพัฒนาสินค้าให้ดียิ่งขึ้น ขณะเดียวกัน ก็ต้องกระตุ้นให้ผู้บริโภคชาวไทยภาคภูมิใจในอัตลักษณ์ความเป็นไทย และหันมาอุดหนุน สินค้าไทยอย่างคึกคักมากขึ้น
...
นับเป็นการจุดพลุครั้งใหญ่เพื่อประกาศว่า “สินค้าเมดอินไทยแลนด์” ก็เป็นหนึ่งไม่เป็นสองรองใครในโลก นี่คือการสานฝันของคนไทยทั้งชาติ!!
ทีมข่าวหน้าสตรี