ป็นเจ้าของทีมรถแข่งฟอร์มูล่าวัน Red Bull Racing มานานกว่า 25 ปี แต่มหาเศรษฐี โลว์โพรไฟล์ "เฉลิม อยู่วิทยา" ประธานบริษัทเรด บูล คอมปานี ลิมิเต็ด กรุงลอนดอน และกรรมการ ผู้จัดการใหญ่บริษัทสยาม ไวเนอรี่ จำกัด กลับเก็บตัวเงียบเชียบ ไม่เคยออกหน้าแต่อย่างใด เพิ่งจะมาในปีนี้ที่เจ้าพ่อเครื่องดื่มชูกำลังยี่ห้อเรด บูล ขอแสดงบทบาทให้เป็นที่ฮือฮาบ้าง เพราะอยากช่วยฟื้นฟูภาพลักษณ์ประเทศไทยให้ กลับคืนมาเป็นสยามเมืองยิ้มอีกครั้ง จึงลงทุนควักกระเป๋าตัวเองกว่า 5 แสนยูโร ทุ่มเป็นงบสปอนเซอร์พิเศษ เพื่อขอให้มีธงชาติไทย และโลโก้ AMAZING THAILAND ติดอยู่บนรถแข่งฟอร์มูล่าวัน ในการแข่งขันใหญ่ระดับโลก "ฟอร์มูล่าวัน บริติช กรังด์ปรีซ์" ณ สนามซิลเวอร์สโตน ประเทศอังกฤษ ระหว่างวันที่ 9-11 ก.ค.ที่ผ่านมา
ความหลงใหลในเรื่องสปีดความเร็วและรถแข่งเริ่มก่อตัวขึ้นตั้งแต่สมัยยังหนุ่มๆ โดย "คุณเฉลิม" ย้อนรำลึกความหลังว่า..."เมื่อหลายสิบปีก่อน หุ้นส่วนที่ทำเรด บูลด้วยกันในปัจจุบัน คือ "มร.เดียทริช เมทสชิทซ์" ซึ่งเป็นชาวออสเตรียน ต้องเดินทางมากรุงเทพฯ บ่อยๆ เพราะแรกเริ่มได้ร่วมกันทำธุรกิจยาสีฟัน ยี่ห้อเบลนแด๊กซ์จากเยอรมัน มีอยู่วันหนึ่งเราสองคนนั่งดูทีวี และเห็นการถ่ายทอดรถแข่งฟอร์มูล่าวัน ซึ่งเป็นอะไรที่อยู่ ในใจผมมานานมากๆ ตั้งแต่สมัยเป็นนักเรียนที่อังกฤษ จำได้ว่าตอนนั้นดูการแข่งขันที่โมนาโก และเป็นนักแข่งของทีมโลตัส คือ "โจเคน รินดท์" ตัวแทนจากประเทศออสเตรีย เขาออกสตาร์ตมาหลังๆ แต่ก็สามารถไล่แซงขึ้นจนได้เป็นที่หนึ่ง ผมตื่นเต้นมาก และรู้สึกประทับใจในสปิริตของกีฬาชนิดนี้ น่าเสียดายที่ "โจเคน" ประสบอุบัติเหตุจากการแข่งขันและต้องเสียชีวิต ทำให้อดรับถ้วยแชมป์โลกด้วยตนเอง
...
...ตอนนั้นผมเริ่มทำกระทิงแดงกับคุณพ่อ (เฉลียว อยู่วิทยา) มาได้ 4–5 ปี ทำมาจนสำเร็จมียอดขายมากที่สุด ผมอายุใกล้ๆจะ 30 ปีแล้ว พอได้มาคุยกับ "มร.เดียทริช" จึงตกลงใจทำเครื่องดื่มชูกำลังยี่ห้อเรด บูล ร่วมกัน โดยเน้นบุกตลาดต่างประเทศ เริ่มจากออสเตรียก่อน ทำอยู่ 10 ปี ก็ชวนกันเข้าฟอร์มูล่าวัน ผมฝันไว้ในใจว่าสักวันอยากเห็นแบรนด์เรด บูล ปรากฏบนรถแข่งฟอร์มูล่าวัน ก็ค่อยๆเริ่มจากซื้อหุ้นในทีมของสวิส จากนั้นก็ปรับปรุงพัฒนามาต่อเนื่อง จนซื้อทีมจากัวร์ของฟอร์ด เราก็ปรับปรุงทีมไปเรื่อยๆ โดยเอานักออกแบบเก่งที่สุดในตอนนั้นมาร่วมทีม คือ "เอเดรียน นิววี" ซึ่งเคยทำให้รถได้แชมป์มาแล้วเยอะแยะ หลังจากนั้นใช้เวลาสักพักจึงปรับปรุงทีมใหม่ จนถึงขณะนี้ทีมแข่งรถเรด บูล พัฒนาจนได้รถที่ถือว่าเร็วที่สุด เกาะถนนดีที่สุด โดยร่วมมือกับทางค่ายเรโนลต์ ถึงแม้กำลังเครื่องจะต่ำกว่าเครื่องของเบนซ์ก็สามารถทำความเร็วได้ดีกว่า แต่สิ่งหนึ่งที่ยังอยู่ในใจผมมาตลอดคือ อยากเห็นธงชาติไทยติดอยู่บนรถ!!"
ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลไทยบ้างไหม
ในตอนแรกคิดจะหาสปอนเซอร์ในเมืองไทย ก็คือ การบินไทย เพราะมีคำว่าไทยด้วย และเป็นสัญลักษณ์ที่คนรู้จักดี แต่เห็นใจที่การบินไทยประสบปัญหาอยู่ ส่วนบริษัทอื่นๆก็มีปัญหาทางเศรษฐกิจ รวมถึงการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เลยมานั่งคิดว่าเราก็มีความเป็นเจ้าของทีมอยู่แล้ว และถือหุ้นใหญ่เกินครึ่งในเรด บูล คิดว่า เราน่าจะช่วยอะไรบ้านเมืองได้บ้าง ช่วยฟื้นฟูภาพลักษณ์เมืองไทยได้บ้าง จึงคุยกับทางพาร์ทเนอร์ว่ายินดีจะจ่ายเงินค่าใช้จ่ายตรงนี้เป็นการส่วนตัว เขาก็เสนอมาว่าต้องทำอะไรบ้าง คือ มีพีอาร์ในหนังสือ มีโลโก้ จัดงานเลี้ยง ส่วนผมขออย่างเดียวคือ ต้องมีธงชาติไทยติดอยู่บนรถแข่งฟอร์มูล่าวันด้วย
รู้สึกยังไงบ้างที่ความฝันเป็นจริงแล้ว
(ยิ้ม) ภูมิใจมากครับ เมื่อวานนี้เป็นครั้งแรกที่มีธงไทยติดอยู่บนรถฟอร์มูล่าวัน...แถมทีมเรายังได้ถ้วยชนะเลิศ
ในฐานะเจ้าของทีมรถแข่ง "คุณเฉลิม" เข้าไปมีส่วนร่วมเยอะไหมในการทำทีม
เราจะปล่อยทีมให้เป็นอิสระ ก็คุยกับพาร์ทเนอร์ตลอด ถ้าเห็นแนวทางอะไรที่สำคัญๆก็มาคุยกัน แต่โดยทั่วไปแล้วจะไม่เข้าไปก้าวก่ายเลย ส่วนใหญ่ผมกับภรรยา (ดารณี อยู่วิทยา) จะไปช่วยให้กำลังใจเท่านั้น
...
ช่วงไหนที่ทีมตกอันดับ มีการอัดฉีดเพิ่มเติมไหม?
เราเองคอยให้กำลังใจอยู่แล้ว เพราะรู้ว่าทุกคนในทีมพยายามเต็มที่ และเชื่อมั่นว่าเรามีบุคลากรที่ดี ควรปล่อยให้คนที่เป็นโปรเฟส–ชั่นแนลจริงๆทำดีกว่า ถึงแม้ว่าเราจะเป็นเจ้าของก็ไม่เคยใช้สิทธิ์บังคับว่าต้องเอาอย่างนั้นอย่างนี้
ตั้งแต่ทำทีมมา ประทับใจนักแข่งคนไหนเป็นพิเศษ
บอกตามตรงว่าที่ผ่านมาก่อนๆไม่ค่อยได้ใกล้ชิดเท่าไหร่ เพิ่งจะมาปีนี้ที่ตระเวนดูการแข่งขันจริงจัง แต่คนที่สนิทสนมมากกว่าเพื่อนคือ "มาร์ค เว็บเบอร์" นักแข่งรถชาวออสเตรเลียน ซึ่งมาอยู่กับทีมเราตั้งแต่ปี 2007 และเพิ่งขึ้นโพรเดียมคว้าถ้วยที่หนึ่งเป็นครั้งแรกในฟอร์มูล่าวัน บริติช กรังด์ปรีซ์ครั้งนี้ เขาเป็นคนน่ารัก คบง่าย เชิญไปไหนมาไหนก็ไม่ค่อยปฏิเสธ ส่วนนักแข่งอีกคนในทีมเรด บูล "เซบาส–เตียน เวทเทล" ก็เป็นเด็กรุ่นใหม่ที่ไฟแรงมากๆ และเป็นคนโปรดของคุณดารณี
จะไปให้ถึงฟอร์มูล่าวัน ต้องมีคุณสมบัติอย่างไรบ้าง
ต้องเป็นสุดยอดนักขับจริงๆ ทุกอย่างต้องมีสติ ต้องมีความสามารถ เพราะมันเฉือนกันเพียงแค่เสี้ยววินาที และเรื่องทีมเวิร์กก็สำคัญมาก การแข่งขันแต่ละครั้งต้องใช้คนประมาณ 400 คน ต่อนักขับ 2 คน แต่ถ้าเป็นทีมใหญ่ๆก็ต้อง 500-600 คนขึ้นไป
ระหว่างนั่งดูฟอร์มูล่าวัน เคยคันไม้คันมืออยากลงไปขับรถแข่งเองไหม
คงไม่กล้า (หัวเราะ) เราก็รู้ตัวเรา ถึงจะเป็นคนขับรถเร็วพอสมควร แต่ชอบดูมากกว่า แล้วก็ประทับใจในความสามารถของนักขับกับทีมเวิร์ก รถชน..รถเสีย..ก็สามารถซ่อมกลับมาได้อย่างรวดเร็วทันเวลาที่สุด
อยากให้เมืองไทยมีสนามรถแข่งบ้างไหมคะ
นั่นคือความฝันอย่างหนึ่งของผม!! อยากให้เมืองไทยมีสนามรถแข่งที่ได้มาตรฐาน แต่ถ้าเอกชนลงทุนเองคงไม่คุ้มหรอก ที่จริงแล้วการสร้างสนามรถแข่งถือเป็นการสร้างชื่อเสียงและรายได้เข้าประเทศ อย่างประเทศเพื่อนบ้านของเรา เช่น มาเลเซีย, สิงคโปร์ รวมถึงจีน ก็มีสนามรถแข่งแล้ว หรืออย่างอินเดีย และเกาหลีใต้ ก็กำลังสร้างสนามรถแข่ง ผมเชื่อว่าคนไทยรักกีฬารถแข่งมากกว่าประเทศใกล้ๆ เราเสียอีก และคนไทยมีความสามารถที่จะเป็นนักขับระดับโลกได้ ผมก็พยายามสร้างอยู่ ตอนนี้มีเด็กคนหนึ่ง เป็นลูกครึ่งไทย-อังกฤษ ชื่อว่า "อเล็กซ์ อัลบอน" ทางเรด บูล สนับสนุนอยู่ เขาแข่งรถโกคาร์ท และเพิ่งได้เป็นแชมป์รายการ CIK-FIA European
"เรด บูล" ยังสนับสนุนกีฬาประเภทไหนอีก
เราตั้งงบด้านนี้ไว้เยอะมาก ปีหนึ่งตกประมาณพันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยเน้นกีฬาแนวเอ็กซ์ตรีม ทุกอย่างเป็นอะไรที่เราทำมาตั้งแต่แรก เพื่อให้เข้ากับสโลแกนของเรด บูล คือ ทำอะไรก็ต้องทำอย่างจริงจัง เราลงทุนพัฒนานักกีฬาขึ้นมาเอง เริ่มฝึกตั้งแต่เด็กจะเน้นกีฬาที่ใช้สมองมาก กว่าใช้กำลังหรืออย่างกีฬาฟุตบอล เราก็เริ่มสนับสนุนแล้วที่อเมริกา โดยเป็นเจ้าของทีมนิวยอร์ก เรด บูล และเพิ่งสร้างสนามใหม่ที่นิวยอร์ก
ยังมีอะไรที่อยากทำอีกไหม
ก็อยากให้ทีมเรด บูล ได้แชมป์โลกฟอร์มูล่าวัน และอยากให้ คนไทยได้เป็นแชมป์โลกในอนาคต
ฝากบอกอะไรถึงรัฐบาลไทยไหมคะ
อยากให้ส่งเสริมกีฬารถแข่ง และสร้างสนามที่ได้มาตรฐาน เพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์ประเทศ และดึงนักท่องเที่ยวเข้ามาเมืองไทย ผมเชื่อว่าคนอยากมาดูรถแข่งที่เมืองไทยมากกว่าไปดูที่อื่น เพราะบ้านเรา มีสถานที่ท่องเที่ยวสวยงามเยอะแยะ
จนถึงวันนี้อยากให้คนจดจำ "เฉลิม อยู่วิทยา" ในฐานะอะไร?
ก็เป็นคนธรรมดาคนหนึ่ง ที่อยากทำอะไรเพื่อส่วนรวมเท่าที่จะสามารถทำได้ เหมือนคุณพ่อที่ยึดถือมาตลอด ท่านสร้างโน่นสร้างนี่ไว้เยอะแยะ โดยเน้นให้ชาวบ้านสามารถพึ่งตนเองได้ ไม่เน้นการแจก ท่านจะทำโดยไม่หวังผลตอบแทน และไม่จำเป็นต้องประชาสัมพันธ์ตัวเอง ทำทุกอย่างโดยยึดแนวทางการใช้ชีวิตอย่างพอเพียงตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของในหลวง ซึ่งผมว่าเป็นวิธีที่เหมาะกับประเทศเราที่สุด ไม่ต้อง แข่งขันกัน ต่างคนต่างรู้จักความพอเพียง น่าจะเหมาะสมที่สุด และน่าจะมีเวลาเหลือสำหรับสร้างครอบครัวที่มีความสุข.
...