พลิกประวัติศาสตร์วงการกีฬาฟุตบอลโลกสุดๆไปเลย เมื่อ ทีมเลสเตอร์ ซิตี้ “จิ้งจอกสยาม” คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกมาครองเป็นครั้งแรก ด้วยแต้มขาดลอย 77 แต้ม นอกจากชาวเลสเตอร์จะฉลองใหญ่กันทั้งเมือง คนไทยยังหน้าบานสุดๆไปด้วย เพราะเจ้าของทีมคือ “เจ้าสัววิชัย ศรีวัฒนประภา” แห่งคิง เพาเวอร์ ที่ทุ่มเทปลุกปั้นทีมบ๊วยนอกสายตาอย่างเลสเตอร์อยู่นานถึง 6 ปี จนประสบความสำเร็จกลายเป็นแชมป์สมการรอคอย
...
ทีมที่มีอัตราต่อรองแชมป์ตอนต้นฤดูกาลพรีเมียร์ลีก 5,000-1 ถูกดูแคลนว่าเป็นเต็งตกชั้น สามารถมาไกลเกินฝันจนคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกได้เป็นครั้งแรก นับตั้งแต่ก่อตั้งมา 132 ปี จะต้องอาศัยความทุ่มเททั้งแรงกายแรงใจ และแรงอัดฉีดขนาดไหน คงไม่มีใครตอบได้ดีไปกว่า “ต๊อบ-อัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา” รองประธานสโมสรฟุตบอลเลสเตอร์ ซิตี้ ผู้อยู่เบื้องหลังการปลุกปั้นพลังฝันจิ้งจอกสีน้ำเงิน เปลี่ยนจากทีมบ๊วยรองบ่อน กลายเป็นฮีโร่ในชั่วข้ามคืน โดยมีกุนซือตกยุคอย่าง “เคลาดิโอ รานิเอรี” ร่วมผนึกกำลังสร้างประวัติศาสตร์หน้าสำคัญ
ทีมข่าวหน้าสตรีไทยรัฐร่วมเดินทางไปเมืองเลสเตอร์ เพื่อฉลองแชมป์พรีเมียร์ลีกตามคำเชิญของคิง เพาเวอร์ โดย “ต๊อบ-อัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา” เปิดโอกาสให้ได้พูดคุยสัมภาษณ์แบบเอ็กซ์คลูซีฟเจาะลึกสุดๆ ถึงเบื้องหน้าเบื้องหลัง และความภูมิใจในการปลุกปั้นทีมเล็กๆม้านอกสายตาให้ผงาดเป็นแชมป์พรีเมียร์ลีกภายในเวลาไม่ถึง 6 ปี
ทุ่มเทขนาดไหนถึงสามารถนำทีมเลสเตอร์ ซิตี้ คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก ครั้งแรกในประวัติศาสตร์
ความจริงต้องเรียนอย่างนี้ครับ เราเป็นเจ้าของทีมมาจะ 6 ปีแล้ว ถามว่าทุ่มเทแค่ไหน ต้องบอกว่า 3 ปีแรกหนักสุดกว่าที่จะปั้นทีมขึ้นพรีเมียร์ลีกได้ ซึ่งยากมาก พอปั้นขึ้นพรีเมียร์ลีกได้ ฐานที่เราสร้างมานาน ทั้งสตาฟฟ์ ทั้งนักเตะ ทั้งเรื่อง ฟาซิลิตี้ต่างๆในสเตเดียม มันเตรียมไว้เพื่อพรีเมียร์ลีก พอถึงพรีเมียร์ลีกก็ไม่มีอะไรต้องทำมาก เราจะมาโฟกัสเรื่องคุณภาพของนักเตะ เรื่องการลงทุนว่าจะทำทีมยังไงให้ประสบความสำเร็จ ถามว่าถึงวันนี้เป็นทีมที่แข็งแกร่งที่สุดในพรีเมียร์ลีกหรือยัง ผมคิดว่ายัง แต่ถ้าถามว่าเป็นทีมที่ดีที่สุดในปีนี้ใช่ไหม ผมตอบว่าใช่!! ทีมอื่นๆแกร่งกว่าเราเยอะครับ แต่เราใช้หลายๆอย่างช่วย ใช้ความพยายาม ใช้ทีมสปิริต ใช้การดูแลนักเตะอย่างดี เข้าใจเข้าถึงกัน การลิงค์กันระหว่างแฟนบอลทั่วโลกกับนักเตะ ทำให้เกิดกำลังใจมหาศาล ตั้งแต่เริ่มซีซั่นก็มีการพูดกันตลอดว่าเลสเตอร์จะไปอยู่ตรงไหน แต่พอจบซีซั่นเรามาอยู่ที่หนึ่งของพรีเมียร์ลีก คนก็พูดกันอีกว่าเราจะไปอยู่ที่ไหน มันมีการจับตามอง ซึ่งทุกคนบอกว่าเป็นแรงกดดัน แต่นักเตะของเราไม่ได้รับแรงกดดันนั้น นักเตะกลับรู้สึกเป็นแรงผลักดันให้ต้องพิสูจน์ตัวเองว่า เราทำได้แค่ไหนผมก็ใช้ตรงนี้บอกนักเตะว่าทำให้ถึงที่สุดเลย ไม่จำเป็นหรอกว่าต้องได้แชมป์ แล้วค่อยมาดูกันตอนจบ ทุกคนก็เลยมาไกลขนาดนี้
อะไรเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญทำให้ทีมเล็กๆอย่างเลสเตอร์ ก้าวขึ้นมาท็อปฟอร์มในเวลารวดเร็ว
จริงๆมันเป็นเรื่องของการใช้เวลาในการสร้าง ทั้งเรื่องสตาฟฟ์ เรื่องนักเตะ เรื่องทีมสปิริต และเรื่องกำลังใจ สี่อย่างนี้สำคัญที่สุด ถ้าพูดถึงเจ้าของทีมก็ต้องมีไดเรคชั่นชัดเจนว่าจะบริหารทีมแบบไหน จะให้ทีมไปในทิศทางไหน นักเตะทุกคนก็เหมือนนักรบของเรา ขึ้นอยู่กับเราว่าจะวางแผนรบแบบไหนเพื่อให้ชนะในแต่ละเกม เราสร้างวินนิ่งเมนทาลิตี้ คือ การปลุกใจ ให้มีความคิดอยากชนะทุกๆเกม ที่ผมเขียนในทุกที่ในสนามก็คือ Fearless เราจะไม่กลัว ไม่ว่าทีมใหญ่ทีมเล็ก เรามีสโลแกนประจำสโมสรอยู่แล้ว คือ Foxes Never Quit ฟ็อกซ์ไม่ยอมแพ้ อันนี้ใช้ตั้งแต่วันแรก พอเราขึ้นพรีเมียร์ลีก แค่ไม่ยอมแพ้คงไม่พอ เลยใส่สโลแกน “ไม่กลัว” เข้าไปด้วย แล้วมัน ก็อยู่ในทุกๆสื่อของเลสเตอร์ นักเตะได้ทราบว่าเป้าหมายของทีมคืออะไร แฟนบอล ได้ทราบว่าทิศทางเป็นยังไง ต้องช่วยกันแบบไหน เราต้องไม่กลัว ต้องสู้ไม่หยุด อันนี้เลยเกิดปรากฏการณ์แฟนบอลเลสเตอร์ช่วยซัพพอร์ตทีมสุดๆ
...
เบื้องหลังความสำเร็จสุดยอดครั้งนี้ อยากยกเครดิตให้ใครเป็นพิเศษไหม
จริงๆผมว่ารอบนี้ต้องให้เครดิตทุกคน ตั้งแต่สตาฟฟ์ตัวเล็กๆด้วยซ้ำ เพราะถ้า มีคนคนหนึ่งในสโมสรรู้สึกไม่ดี แล้วทำให้เกิดปัญหา มันก็จะเกิดปัญหาไปหมด แล้วรอบนี้ไม่มีเลย ทุกคนร่วมแรงร่วมใจกันช่วยทีม นักเตะคนหนึ่งมีปัญหา ทุกคนช่วยกันแก้ปัญหา มันเหมือนเป็นครอบครัว พวกเราเดินไปสู่เป้าหมายด้วยกัน ใครล้มก็ฉุดกันขึ้นมา แต่ต้องให้เครดิตนักเตะมากสุด เพราะพวกเขาต้องลงไปเตะเพื่อทุกคน เราในฐานะเจ้าของทีมสามารถรับรู้ได้เลยว่าพวกเขาพยายามแค่ไหน พวกเขาไม่ได้เตะเพื่อตัวเองหรือเพื่อเงิน แต่ทุกคนเล่นเพื่อให้โลกเห็นว่านักเตะเลสเตอร์สามารถเล่นได้ดีขนาดไหน และที่ต้องพูดถึงคือผู้จัดการทีม “เคลาดิโอ รานิเอรี” ตอนเราเอาเข้ามาทำทีม ทุกคนด่ากันเยอะว่าเอาเขามาทำไม เราสัมภาษณ์หลายคนนะครับ แต่เขาเป็นคนแรกที่เราเลือกตั้งแต่วันแรก เขามีความสามารถในการบริหารคนได้ดี การทำทีมเขาก็มีประสบการณ์ มหาศาลอยู่แล้ว ที่สำคัญบริหารแรงกดดันได้ดีมาก
ในฐานะเจ้าของทีมคนไทย ความแตกต่างทางเชื้อชาติเป็นอุปสรรคต่อการบริหารจัดการทีมไหม
ตอนแรกๆเป็น พวกเขาไม่เข้าใจว่าทำไมเจ้าของทีมต้องเป็นแบบนี้ ทำไม เจ้าของมีความเป็นไพรเวซี่สูง นอกจากนี้ อาจจะมีเรื่องวัฒนธรรมบางอย่างที่ไม่เหมือนกัน อย่างเช่นฝรั่งมีอะไรก็จะพูดกันตรงๆ แต่เราคนไทยก็จะแมนเนจอีกแบบหนึ่ง เช่น ใครโดนด่าร้องไห้ เราอาจจะแอบไปปลอบทีหลัง แต่จะไม่ปลอบต่อหน้าคนอื่นตรงนั้น ซึ่งก็ต้องค่อยๆปรับตัวเข้าหากัน แต่สุดท้ายทุกคนเข้าใจถึงความทุ่มเทตั้งใจของเราว่าอยากปั้นให้ทีมเลสเตอร์ดีขึ้น
...
นักเตะทีมเลสเตอร์ศรัทธาในยันต์ของเจ้าคุณธงชัยแค่ไหน
ผมบอกกับทีมเลสเตอร์ทุกคนว่า ครอบครัวผมเป็นคนพุทธ เรานับถือเรื่องบุญ เราจะทำบุญสนามนะ มีพระที่นับถือมาสวด ซึ่งทุกคนก็ควรมาร่วมด้วย ทั้งสตาฟฟ์และนักเตะให้ความร่วมมืออย่างดี ใครจะคิดว่าฝรั่งสามารถนั่งสวดมนต์กับเราเป็นชั่วโมงๆ ผมว่ามันเป็นเรื่องจิตวิทยาเล็กๆ นักกีฬา ทุกคนมีความเชื่อของตัวเอง เช่นต้องใส่เสื้อตัวนี้ ต้องก้าวเท้าไหนออกจากบ้าน เพราะงั้นถ้ารู้สึกว่าทำแล้วดี ทุกคนก็เต็มใจอยากทำ พอทำแล้วดี ทุกคนก็อยากให้ทำอีก
ทุกวันนี้ประสบความสำเร็จ แล้ว กลัวไหมจะโดนซื้อตัวนักเตะดีๆ
เราต้องคุยกับนักเตะให้ชัดเจนว่า นโยบายปีหน้าของเราเป็นยังไง แล้วทีมของเรา ปีหน้าคงไม่เป็นแบบนี้ อะไร คงไม่ง่ายแบบนี้ เพราะปีนี้ทีมใหญ่ฟอร์มไม่ดี ส่วนทีมเล็กๆก็เก่งขึ้นมาก ถ้าถามผมว่าจะเก็บนักเตะไว้ยังไง จริงๆนักเตะคงไม่อยากไปไหน เพราะเราเป็นแชมป์พรีเมียร์ลีก ปีหน้าก็ต้องสู้ให้ถึงที่สุดเพื่อรักษาแชมป์ มันสูงสุดของนักฟุตบอลแล้ว เราได้คุยกับนักเตะดังๆไว้แล้ว พวกเขายืนยันว่าไม่ได้อยากย้ายไปไหน ยังคงแฮปปี้ ที่จะอยู่กับทีมเรา แฟมิลี่ของพวกเขาก็มาซื้อบ้านปักหลักอยู่ที่นี่แล้ว เราเป็นทีมหนึ่งที่ทำให้เห็นว่าถ้าพวกเขารวมกันเป็นหนึ่งเดียว ใช้สปิริตที่มีอยู่เล่นด้วยกัน เราสามารถชนะทุกทีมในอังกฤษ
...
คุณพ่อให้อำนาจเต็มที่ไหมในการทำทีม มีให้คำแนะนำอะไรพิเศษ
หน้าที่ชัดเจนคือ คุณพ่อเป็นแชร์แมน ก็จะให้วิชั่นว่าอยากให้ทีมเลสเตอร์ ซิตี้ เป็นแบบนี้ ผมก็ไปทำ เช่น คุณพ่ออยากให้นักกีฬามีกำลังใจ และต้องสู้จนกว่านกหวีด จะเป่าหมดเวลา ผมก็ต้องหาวิธีว่าใช้วิธีไหนให้นักเตะมีสปิริตแบบนั้น หรืออยากจะให้สโมสรขยายสนามแบบไหน ทำสนามให้ดีขึ้นเพื่อแฟนบอล ท่านเก่งเรื่องการบริหารคน ถ้ามีปัญหาเรื่องนักเตะ คุณพ่อจะลงไปคุยเองเลย แล้วมันเป็นการแก้ที่นักเตะทุกคนชอบ เราทรีตท่านเป็นเจ้าของสโมสร พอเจ้าของลงไปใกล้ชิดนักเตะ นักเตะทุกคนจะแฮปปี้มาก นักเตะพูดกันทุกคนว่าไม่เคยเห็นเจ้าของสโมสรคนไหนให้ความใส่ใจดูแลนักเตะใกล้ชิดขนาดนี้ คุณพ่อให้อิสระเยอะ ให้เราลองดู โดยที่เราจะคอนซัลท์ตลอดว่าทำแบบนี้ดีไม่ดี
เตรียมฉลองแชมป์พรีเมียร์ลีกไว้ยิ่งใหญ่ขนาดไหน
นอกจากการเฉลิมฉลองยิ่งใหญ่ และนั่งรสบัสเปิด ประทุนแห่รอบเมืองเลสเตอร์ ในวันที่ 16 พ.ค.59 หลังจบการแข่งขันนัดสุดท้ายของฤดูกาล (เลสเตอร์ไปเยือน เชลซี วันที่ 15 พ.ค.) เราจะนำนักเตะมาฉลองแชมป์ต่อที่เมืองไทย ในวันที่ 18-19 พ.ค.นี้
หลังคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกแล้ว เป้าหมายต่อไป ที่จะพุ่งชนคืออะไร
เราอยากสร้างรากฐานทีมที่ดี ต้องพร้อมที่สุดในทุกซีซั่น ถ้าถามว่า ซีซั่นหน้าเราจะได้เป็นแชมป์อีกไหม ผมไม่กล้ายืนยัน เพราะมันก็ไม่ได้ง่าย เราอยากให้ทีมอยู่ในพรีเมียร์ลีกนานๆ และค่อยๆดันทีมให้ใหญ่ขึ้น
มีโอกาสไหมจะได้นำทักษะของทีมเลสเตอร์ มาช่วยพัฒนาทีมชาติไทย
ชัวร์ครับ เราทำอะคาเดมี่สนับสนุนเด็กไทย และได้คุยกับพี่ซิโก้เรื่องการช่วยพัฒนาทีมชาติไทยแล้ว
ฝันให้ไกลต้องไปให้สุด!! ถ้าไม่กลัวซะอย่าง ชัยชนะอยู่ใกล้แค่เอื้อม.
ทีมข่าวหน้าสตรี