ยึดหลักอดทน ไม่ท้อต่ออุปสรรค วันหนึ่งจะประสบความสำเร็จ...

โอกาสของคนรุ่นที่จะก้าวขึ้นเป็นเถ้าแก่น้อยมีอยู่ ถ้ามองเห็นและกล้าที่เดินหน้าไปสู่จุดที่ฝัน อย่างเช่น ฮู–นโรตม์ พิริยะรังสรรค์ ลูกชายคนโตของ ดร.สังศิต พิริยะรังสรรค์ นักวิชาการชื่อดัง

ผู้นำการวิจัยเรื่องเศรษฐกิจนอกระบบ และโด่งดังจากการผลักดันร่างกฎหมายหวยบนดิน หรือสลากพิเศษ 2 ตัว 3 ตัว กับ ดร.กรรณชฎา พิริยะรังสรรค์ ผอ. มูลนิธิสงเคราะห์เด็กยากจน ซีซีเอฟ ในพระบรมราชูปถัมภ์ เป็นลูกไม้หล่นไกลต้น ขอสร้างเนื้อสร้างตัวด้วยการเป็นเจ้าของธุรกิจดาวรุ่งอีกคน

ฮู–นโรตม์ หนุ่มสูงสมาร์ทวัย 24 ปี จบการศึกษาปริญญาตรี นิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และปริญญาโท Entrepreneurship University of East Anglia ประเทศอังกฤษ ซึ่ง ฮู เล่าว่า ตอนที่เรียนจบจากสาธิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ยังไม่รู้ว่าตัวเองชอบอะไร เลยเลือกเรียนด้านนิติศาสตร์ ตอนเรียนก็ได้ฝึกงานที่สำนักงานกฎหมาย พอเอาจริงในการทำงาน รู้ตัวว่าชอบงานด้านธุรกิจมากกว่าจบมาเลยไปทำงานที่บริษัท ล็อกซเล่ย์ อยู่ 1 ปี แล้วค่อยไปเรียนต่อด้านบริหาร ซึ่งก่อนนั้นก็สนใจลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ และได้เงินทุนมาสร้างธุรกิจของตัวเองในตอนนี้ ส่วนจุดเริ่มต้นของการทำธุรกิจ ตอนที่อยู่อังกฤษ มีเพื่อนๆ ชอบฝากซื้อของ โดยเฉพาะชาดีท็อกซ์ มีจำนวนมากจนไปขอเขาเป็นตัวแทนจำหน่ายในไทย และไอเดียที่จะมาทำธุรกิจด้านสุขภาพ โดยร่วมกับเพื่อนตั้งบริษัท เอชบี มิดเดิ้ล กรุ๊ป จำกัด

“เรามองเห็นโอกาสและเทรนด์การดูแลสุขภาพของคนยุคใหม่ เลยคิดวางแผนจะทำธุรกิจเกี่ยวกับชา ดีท็อกซ์ ในแบรนด์ของตัวเอง โดยมีโรงงานผลิตให้ที่ได้มาตรฐาน ซึ่งตอนนี้กำลังทำแพ็กเกจจิ้ง และขอ อย. อยู่ โดยจะเน้นขายทางออนไลน์ก่อน ที่จะวางตามห้างร้านต่อไป นอกจากนี้ ผมยังจับธุรกิจดิลิเวอรี่โต๊ะจีน ซึ่งมีญาติที่ทำอาหารโต๊ะจีน ระดับพรีเมียม ชื่อ ไดมอนด์ เชฟ อยู่แล้ว ผมมาต่อยอดขยายตลาดดิลิเวอรี่ พร้อมกับเป็นตัวแทนจำหน่ายไวน์และเนื้อวากิวด้วย โดยสั่งได้ทางอินเตอร์เน็ต จังหวัดที่เราเคยส่งไกลสุด คือ จัดส่งชุดหูฉลามไปที่นครศรีธรรมราช เพราะบางคนอยู่ต่างจังหวัด อยากรับประทานอาหารจีนอร่อยๆ แต่ไม่อยากเดินทางมากรุงเทพฯ ก็สั่งเราได้ และที่ทำอีกอย่างคือ ทำแฟรนไชส์กาแฟ แบรนด์ UP COFFEE ซึ่งธุรกิจนี้ วางแผนที่จะกระจายไปในประเทศอาเซียนด้วย”

...

นักธุรกิจหนุ่มไฟแรงคนนี้บอกอีกด้วยว่า ตนยังมองเห็นว่า โอกาสการทำธุรกิจในยุคนี้ ยังมีอยู่เยอะ อยู่ที่ว่าเราจะมองเห็นหรือไม่ และจะเดินเข้าไปทำหรือเปล่า ซึ่งตนเป็นคนไม่ชอบอยู่เฉยๆ และไม่อยากทำงานเป็นมนุษย์เงินเดือน ชอบอะไรที่มีความท้าทาย แม้การทำธุรกิจยุคนี้จะไม่ง่าย แต่มองว่า ถ้าเราอดทน ซึ่งมีความสำคัญมากกว่าเก่งเสียอีก อย่าท้อ มีอุปสรรคแค่ไหนก็ลุย วันหนึ่งคงจะประสบความสำเร็จ

ส่วนสิ่งวัดผลความสำเร็จในชีวิต ซึ่ง ฮูนโรตม์ ได้สะท้อนถึงมุมดีๆ ที่น่าเอามาเป็นตัวอย่าง โดยบอกว่า “อย่างแรกคงทำให้พ่อแม่ภูมิใจ ด้วยการทำงานให้ท่านเห็นว่า เราสามารถอยู่ได้ด้วยตัวเอง เลี้ยงครอบครัวได้ จากนั้นเราคงต้องคืนอะไรให้แก่สังคมด้วย”.