คำถามยอดนิยมอันดับ 1 ของผู้ป่วย ที่มีอาการปวดหลังคงจะหนีไม่พ้น "อาการปวดหลังที่กำลังเป็นอยู่เกิดจากอะไร และอันตรายหรือไม่?" ซึ่งหากคุณเป็นหนึ่งที่เคยมีอาการปวดหลังและเกิดคำถามดังกล่าวขึ้นในใจวันนี้ นพ.ภัทร โฆสานันท์ ศัลยแพทย์กระดูกและข้อ-โรคกระดูกสันหลัง โรงพยาบาลเวชธานี อธิบายว่า อาการปวดหลังเกิดได้หลายสาเหตุและเกิดได้จากอวัยวะหลายส่วน ซึ่งความอันตรายของการปวดหลังในผู้ป่วยแต่ละรายนั้น ขึ้นอยู่กับสาเหตุและตำแหน่งที่เกิดอาการ โดยอวัยวะที่ทำให้เกิดอาการปวดหลังได้ เช่น กล้ามเนื้อและเอ็นบริเวณหลัง, กระดูกสันหลังและข้อต่อหลัง, หมอนรองกระดูกสันหลัง, ไขสันหลังและรากประสาทหลัง 

ส่วนสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการปวดหลังนั้น นพ.ภัทร กล่าวว่า เกิดจาการบาดเจ็บจากอุบัติเหตุ, การเสื่อมสภาพตามอายุและการใช้งาน, ความผิดปกติแต่กำเนิด, มะเร็งและเนื้องอกต่างๆ การติดเชื้อ ซึ่งหากอยากทราบว่า อาการปวดหลังที่เป็นอยู่นั้นเกิดจากสาเหตุอะไร คนไข้ต้องสังเกตเวลาปวดว่ารู้สึกปวดแบบใด เนื่องจากอาการปวดแต่ละอย่างก็เป็นตัวช่วยในการวินิจฉัยโรคได้เช่นกัน หากปวดล้าๆ เมื่อยๆ มีจุดที่กดแล้วปวดมากขึ้น สาเหตุอาจเกิดจากกล้ามเนื้อ หรือหากปวดร้าวเหมือนไฟฟ้าช็อต เช่น ร้าวจากคอไปปลายนิ้วมือ สาเหตุเหล่านี้อาจเกิดจากเส้นประสาทที่ถูกกดเบียดได้

"บริเวณที่ปวด หรือตำแหน่งที่ปวดก็มีส่วนช่วยได้มากครับในการหาสาเหตุที่ทำให้เราปวดหลัง เช่น หากปวดตรงแนวกระดูกกลางหลังพอดีก็มักจะเกิดจากตัวกระดูกสันหลัง หมอนรองกระดูกสันหลัง หรือเอ็นยึดระหว่างกระดูกสันหลัง หากเยื้องออกมาด้านข้างอาจจะเป็นจากกล้ามเนื้อหลัง นอกเหนือจากนั้น อาการปวดที่ตำแหน่งจำเพาะบางตำแหน่งก็สามารถบอกได้ถึงบริเวณที่เส้นประสาทแต่ละเส้นวิ่งไปเลี้ยงได้"

นพ.ภัทร กล่าวต่อว่า หากมีอาการอื่นนอกเหนือจากการปวดแล้ว เช่น อาการชา หรืออาการอ่อนแรงร่วมด้วย ก็ต้องส่งสัยไปที่ความผิดปกติของระบบประสาท หรือเส้นประสาท ยิ่งหากคนไข้สังเกตอาการตนเองว่าอยู่ในท่าไหนแล้วรู้สึกปวดมากขึ้น หรือน้อยลง ก็จะช่วยได้มาก เช่น หากก้มหรือแอ่นตัวแล้วปวดมากขึ้น ก็มีแนวโน้มจะเป็นโรคจากหมอนรองกระดูกสันหลัง หรือข้อต่อหลัง และหากยิ่งนึกได้ว่าก่อนที่จะมีอาการปวดหลังนั้นไปทำอะไรมาหรือไม่ เช่น เล่นกีฬา ยกของหนัก นั่งนานๆ หรือไปเกิดอุบัติเหตุมา ประวัติส่วนนี้ก็มีประโยชน์สำหรับแพทย์

...

วินิจฉัยสาเหตุของโรคปวดหลัง

สำหรับอาการปวดหลังที่มีอันตรายและต้องรีบพบแพทย์ เพื่อให้ได้รับการรักษาที่ทันท่วงทีนั้น ประกอบด้วยอาการดังต่อไปนี้ 1.มีอาการชา หรืออ่อนแรงร่วมกับอาการปวดหลัง 2. อาการปวดหลังในคนที่มีอายุน้อยกว่า 20 ปี หรือมากกว่า 55 ปี 3.อาการปวดในขณะพัก หรือไม่มีกิจกรรม 4. อาการปวดที่หลังบริเวณทรวงอก 5.น้ำหนักลดอย่างรวดเร็ว 6.มีไข้ร่วมกับการปวดหลังไม่ว่าจะสูงหรือต่ำ 7. ประสบอุบัติเหตุก่อนจะปวดหลัง 8. มีประวัติของการเจ็บป่วยเป็นมะเร็งของคนในครอบครัว 9. สังเกตพบความคดผิดรูปของหลัง

อาการต่างๆ ที่แพทย์กล่าวมาแล้วนั้น เป็นอาการของโรคปวดหลังที่เกิดจากสาเหตุที่รุนแรง เช่น มะเร็ง กระดูกหลังหักหรือเคลื่อน และโรคติดเชื้อ ซึ่งสาเหตุเหล่านี้เป็นสิ่งที่ควรจะได้รับการรักษาให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เพื่อป้องกันและลดความเสียหายที่จะเกิดขึ้นในระยะยาว

นพ.ภัทร โฆสานันท์
ศัลยแพทย์กระดูกและข้อ-โรคกระดูกสันหลัง
โรงพยาบาลเวชธานี