เป็นหนึ่งในคุณหนูสู้งานที่ไม่อยู่นิ่ง พิมพ์ลักษณ์ กิจเลิศนภา ผู้บริหารสาวของบริษัท ORCA (Thailand) จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องเขียนและอุปกรณ์ในสำนักงานภายใต้ชื่อแบรนด์ “ออร์กา” ที่เข้ามาต่อยอดธุรกิจครอบครัวให้รุ่งเรืองขึ้นหลังจากที่ผู้เป็นพ่อได้บุกเบิกมากว่า 30 ปี
พิมพ์ลักษณ์ หรือ พิม ลูกสาวคนที่ 3 ของ ศิริศักดิ์–เอื้อนจิตต์ กิจเลิศนภา จบการศึกษาด้านบริหารธุรกิจ จากมหาวิทยาลัยมหิดล ภาคอินเตอร์ และปริญญาโท Fine Art ที่ Gross mont College สหรัฐอเมริกา พิม เล่าว่า ทีแรกอยากเรียนด้านดีไซน์ และมีญาติอยู่ที่ฝรั่งเศส พอเรียนจบ ม.ปลาย ก็รีบไปเรียนภาษาไว้เลย และตั้งใจจะไปหาที่เรียนที่ปารีส แต่อยู่ได้ปีเดียวก็กลับ เพราะไม่ค่อยชอบ จึงกลับมาเรียนบริหารที่มหาวิทยาลัยมหิดล พอเรียนจบก็ไปเรียนต่อปริญญาโทเลย ที่ซานดิเอโก พิม ไม่ได้มีโอกาสไปทำงานที่อื่น เพราะทางบ้านอยากให้กลับมาช่วยดูแลงานด้านต่างประเทศ ซึ่งตอนนี้ พิม นั่งเก้าอี้ผู้จัดการฝ่ายต่างประเทศ ร่วมทำงานกับพี่น้อง หลังจากพ่อวางมือปล่อยให้ลูกๆช่วยกันสานงานต่อ
“พิม มีพี่น้องทั้งหมด 6 คน เข้ามาช่วยกันทำงานของที่บ้าน 4 คน และมีพี่เขยเข้ามาช่วยด้วยคนหนึ่ง เราแบ่งงานกันชัดเจน โดย พิม ดูด้านต่างประเทศ จากเดิมยุคคุณพ่อเราขายในประเทศเป็นหลัก พอถึงรุ่นลูกก็อยากขยายตลาดไปต่างประเทศ เลยลุยหาหนทางจนได้งบจากรัฐบาลเนเธอร์แลนด์ให้ไปออกบูธสินค้าที่ประเทศเยอรมนี ซึ่งการออกบูธครั้งแรกค่อนข้างหินมาก เพราะเราไม่เคยทำกันเลย พิม ก็ต้องทำทุกอย่าง ทั้งงานเอกสารและขนของไปขาย ตอนไปครั้งแรกชาวต่างชาติ ก็บอกว่า อย่าคาดหวังว่าจะได้ออเดอร์เลยทันที แต่ พิม โชคดีที่ทำงานครั้งแรก ก็สามารถได้รับออเดอร์ในตลาดยุโรปเลย ทำให้ขณะนี้เราทำส่งออกด้วย 15% เลยตั้งใจจะขยายไปสู่ตลาด AEC อีกด้วย” พิม เล่าเส้นทางธุรกิจที่ทำมา
...
ส่วนในอนาคต พิม บอกว่า นอกจากจะขยายตลาดแบรนด์ออร์กา ออกสู่ต่างประเทศแล้ว ยังมีแผนที่จะแตกไลน์ทำโปรดักต์สดีไซน์ใหม่ ของตนเอง พร้อมกันนี้ยังเริ่มธุรกิจผลิตภัณฑ์ความงามที่ทำร่วมกับเพื่อนในชื่อ Skintuition หลังจากที่ทดลองใช้ด้วยตัวเองแล้วดีมานานเกือบปีจนแน่ใจว่าดีจริง เพราะมีความเชื่อว่าสกินแคร์ที่ดีไม่ได้มีเฉพาะ ตามเคาน์เตอร์ในห้างสรรพสินค้าเท่านั้น
เมื่อถามสไตล์การทำงาน สาวเก่งคนนี้ บอกว่า ด้วยธุรกิจเป็นกิจการครอบครัว การทำงานจึงต้องช่วยกัน ซึ่งถ้ามีการตัดสินใจใหญ่ๆก็ต้องปรึกษาคุณพ่อ เวลาคุยกันเรื่องงานระหว่างพี่น้องก็อาจมีเถียงกันบ้าง เราเลยลดความขัดแย้งด้วยการมีประธานในการประชุม แต่สุดท้ายเราก็ต้องฟังกันด้วยเหตุผล ในส่วนของการทำงาน พิม พยายามทำตัวให้เป็นเจ้านายที่ดี ให้เกียรติเพื่อนร่วมงาน โดยคิดว่าเขามาช่วยเราทำงาน
ส่วนหลักสำคัญในการทำงานของสาวคนนี้ เธอบอกว่า ทีแรก พิม ไม่ได้อยากทำงานที่บ้าน เพราะคิดว่าไม่ใช่ตัวเรา แต่พอทำไปๆ รู้สึกผูกพันและทำให้ พิม ทุ่มเท เพราะคิดว่าการที่เรามีวันนี้เพราะออร์กา รู้สึกเป็นบุญคุณทำให้เราอยากที่จะพัฒนาให้ก้าวหน้าไปเรื่อยๆ เท่าที่จะทำได้ นอกจากนี้ สิ่งที่พ่อมักจะย้ำสอนลูกๆทุกคน คือ พ่อไม่ได้สอนวิธีการทำงานแต่จะบอกพวกเราเสมอว่า การทำธุรกิจ เราต้องไม่โกง พ่อทำงานมา 30 ปี อยู่ได้ทุกวันนี้เพราะไม่เคยโกงใคร ถ้าเรามีความซื่อสัตย์ ธุรกิจเราก็จะเจริญก้าวหน้า...นี่คือหลักการทำงานที่นำไปสู่ความสำเร็จที่แท้จริง.