หลายคนอาจรู้จักชื่อ ณิชชา ธนลงกรณ์ ในฐานะภรรยาสาวของพระเอกหนุ่มสุดฮอต อนันดา เอเวอริงแฮม แต่อีกมุมหนึ่งที่หลายคนอาจจะยังไม่รู้คือเธอเป็นผู้ก่อตั้งและดีไซเนอร์แบรนด์ My Only Sunshine เสื้อผ้าแนวบีชแวร์ (Beach wear) ดีไซน์เก๋ที่มีเอกลักษณ์ไม่ซ้ำใคร จนถูกใจทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ

ณิชชา ธนลงกรณ์ หรือ แนต เล่าให้ทีมไลฟ์สไตล์ไทยรัฐออนไลน์ฟังถึงที่มาของแบรนด์ My Only Sunshine ว่ามีจุดเริ่มต้นเมื่อ 4 ปีก่อน ซึ่งเธอและอนันดาเดินทางไปพักผ่อนตามที่ต่างๆ ในประเทศไทย จนทำให้เธอเกิดแรงบันดาลใจในการก่อตั้งแบรนด์นี้ขึ้นมาด้วยจุดประสงค์ที่ต้องการหาเสื้อผ้าสไตล์บีชแวร์ (Beach wear) สำหรับสวมใส่ในวันพักผ่อนที่สามารถใช้ได้ในหลายๆ โอกาส ไม่ใช่แค่เดินชายหาดหรือว่ายน้ำเท่านั้น แต่ต้องตอบโจทย์ได้ทั้งไปเที่ยวภูเขา เที่ยวต่างประเทศ ไปจนถึงใส่ออกงานได้ จนเป็นที่มาของแบรนด์ My Only Sunshine ในวันนี้

แนต-ณิชชา ธนลงกรณ์ ผู้ก่อตั้งและดีไซเนอร์แบรนด์ My Only Sunshine (ภาพโดย ธนัท ชยพัทธฤทธี)
แนต-ณิชชา ธนลงกรณ์ ผู้ก่อตั้งและดีไซเนอร์แบรนด์ My Only Sunshine (ภาพโดย ธนัท ชยพัทธฤทธี)

...

เริ่มต้นด้วยความรักในการเดินทาง

“ตอนนั้นเป็นช่วงโควิด ทุกคนเริ่มหันมาเที่ยวในไทยมากขึ้น เพราะออกนอกประเทศไม่ได้ แล้วแนตก็มีโอกาสได้เดินทางบ่อยมากแล้วก็เริ่มจากจุดง่ายๆ เลย เราพยายามจะหาเสื้อผ้าบีชแวร์ (Beach ware) ที่เรารู้สึกว่าเราอยากใส่ แล้วเราอยากได้แบบที่มีทั้งชุดว่ายน้ำ กางเกง ชุดเดรส ทุกอย่างที่เป็นเกี่ยวกับการไปเที่ยวพักผ่อน ซึ่งตอนนั้นเรายังไม่เจอว่ามีแบรนด์ไทยทำ ก็เลยจุดประกายเริ่มต้น ที่เรารู้สึกว่าเราชอบเดินทาง แล้วก็มีแรงบันดาลใจสไตล์เสื้อผ้าที่เราอยากจะทำ เราก็เลยเกิดไอเดียขึ้นมาจากการที่เราเอาผ้าท้องถิ่นประจำจังหวัด เช่น เราไปภูเก็ตก็เอาผ้าปาเต๊ะมา เราไปเชียงใหม่ เชียงราย ก็ไปเอาผ้าของเขามา แล้วเอามาออกแบบร่วมกับผ้าที่ทันสมัยให้มันดูโมเดิร์นขึ้นจนกลายเป็นคาแรกเตอร์ของแบรนด์เรา”

จากวันนั้นจนถึงวันนี้ เป็นเวลาเกือบ 4 ปีแล้วที่แบรนด์ My Only Sunshine ได้โลดแล่นในโลกแฟชั่นให้หลายคนได้รู้จัก จากจุดเริ่มต้นของการเป็นเสื้อผ้าสไตล์บีชแวร์ (Beach wear) ได้มีการพัฒนาและปรับเปลี่ยนเป็นฮอลลิเดย์แวร์ (Holliday wear) ที่มีทั้งชุดไปเที่ยวทะเล เที่ยวภูเขา เดรสออกงาน ไปจนถึงชุดเพื่อนเจ้าสาวในสไตล์ฮอลลิเดย์ ที่ในแต่ละคอลเลกชันมีแรงบันดาลใจจากการเดินทางไปท่องเที่ยวในที่ต่างๆ ทั่วโลก

ภาพโดย ธนัท ชยพัทธฤทธี
ภาพโดย ธนัท ชยพัทธฤทธี

โดยที่ยังคงจุดเด่นของแบรนด์คือการนำผ้าต่างชนิดมาตัดต่อเข้าด้วยกันพร้อมแทรกด้วยดีเทลเล็กๆ อย่างลูกไม้ให้ดูน่าสนใจยิ่งขึ้น ซึ่งเป็นเอกลักษณ์สำคัญของแบรนด์ My Only Sunshine

ท่องโลกเพื่อหาแรงบันดาลใจ

ด้วยความรักในการท่องเที่ยวและเดินทาง คอลเลกชันใหม่ที่เกิดขึ้นจึงมีแรงบันดาลใจจากการเดินทางด้วยเช่นกัน 

เธอเผยว่าทุกคอลเลกชันที่ออกมาสะท้อนถึงการเดินทางในแต่ละที่ที่เธอไป โดยคอลเลกชันก่อนหน้านี้เกิดจากการที่เธอไปเที่ยวอินเดีย ยุโรป และจีน จึงได้กลับมาออกแบบคอลเลกชันที่มีผ้าอินเดียผสมกับลูกไม้ทางยุโรปและตัดต่อเข้ากับผ้าแพรของจีน จึงเกิดเป็นคอลเลกชันที่ออกมารับกับกระแสตรุษจีนที่ผ่านมาได้อย่างลงตัว

เอกลักษณ์ของแบรนด์ My Only Sunshine คือการนำผ้าแต่ละชนิดมาตัดต่อเพิ่มดีเทลให้สะท้อนถึงแรงบันดาลใจจากการเดินทางในแต่ละที่ (ภาพโดย ธนัท ชยพัทธฤทธี)
เอกลักษณ์ของแบรนด์ My Only Sunshine คือการนำผ้าแต่ละชนิดมาตัดต่อเพิ่มดีเทลให้สะท้อนถึงแรงบันดาลใจจากการเดินทางในแต่ละที่ (ภาพโดย ธนัท ชยพัทธฤทธี)

...

“คอลเลกชันนี้เกิดจากการเดินทางระหว่างจีนกับอินเดีย แล้วก็ยุโรป เป็น 3 เซต เซตละ 10 ลุค เพื่อสื่อถึงแต่ละประเทศที่มาร่วมมือกัน เราก็จะใช้ผ้าลูกไม้ที่ดูมีความเป็นยุโรปตัดกับผ้าอินเดีย แล้วก็ตัดกับผ้าที่มีความคล้ายจีน เพราะว่ามันเป็นช่วงตรุษจีน แล้วก็เป็นการเดินทางไปจีนด้วย เราก็เลยเลือกเอา 3 ประเทศนี้มาร่วมมือกัน ก็เลยยังจะมีดีเทลของความเป็นจีนผสมมา แล้วคงคอนเซปต์ความเป็นบีชแวร์ (Beach ware) ก็คือเป็นกางเกงเลแล้วเอาผ้าปริ้นแบบอินเดียมาผสมกับผ้าแพรของจีน ก็ยังมีความเป็น My only sunshine ก็คือเป็นบีชแวร์ (Beach ware) ที่ใส่สบาย”

ภาพโดย ธนัท ชยพัทธฤทธี
ภาพโดย ธนัท ชยพัทธฤทธี

สำหรับคอลเลกชันอื่นๆ ที่ผ่านมาก็มาจากแรงบันดาลใจจากการไปท่องเที่ยวตามที่ต่างๆ ด้วยเช่นกัน ตั้งแต่คอลเลกชันแรกที่เกิดจากการท่องเที่ยวในภูมิภาคต่างๆ ของไทย ทั้งในภาคเหนือและภาคใต้ หรือจะเป็นคอลเลกชันที่เกิดจากการไปท่องเที่ยวแอฟริกา และคอลเลกชันที่เตรียมไว้ในช่วงปลายปี 2567 นี้จะมาจากการเดินทางไปท่องเที่ยวที่เนเธอร์แลนด์

...

การเดินทางที่สดใสของ My Only Sunshine

ปัจจุบันแบรนด์ My Only Sunshine กำลังก้าวเข้าสู่ปีที่สี่ โดยแต่ละปีจะทำเป็น 2 คอลเลกชันใหญ่ๆ และยังมีคอลเลกชันเล็กๆ ที่ไปทำร่วมกับคนอื่นๆ และคอลเลกชั่นพิเศษอีก โดยล่าสุดได้ร่วมมือกับ แอน ทองประสม ดาราสาวชื่อดังของวงการบันเทิง ทำคอลเลกชันพิเศษครั้งแรกในชื่อ “Sea Sun Anne Sand”

การร่วมมือกับ แอน ทองประสม คือคอลเลกชันพิเศษแรกที่ My Only Sunshine ทำขึ้นมา และจากนี้จะมีอีกอย่างต่อเนื่อง
การร่วมมือกับ แอน ทองประสม คือคอลเลกชันพิเศษแรกที่ My Only Sunshine ทำขึ้นมา และจากนี้จะมีอีกอย่างต่อเนื่อง

“ที่เลือกคุณแอน เพราะเขาเป็นเจ้าหญิงแห่งวงการบันเทิง เป็นคนเก่ง สมาร์ท เป็นเวิร์กกิ้งวูแมนมากๆ เป็นคนที่มีความหลากหลายในตัว บวกกับที่พี่แอนใส่เสื้อผ้าเราจริงๆ และใส่บ่อยมากๆ ดูว่าเขาชอบของเราจริงๆ เขาชอบเพราะใส่สบาย พี่แอนก็เลยเป็นแรงบันดาลใจของเรา

...

และส่วนตัวคือพี่แอนเป็นดาราไทยที่แนตชอบมากตั้งแต่สมัยเรายังเด็ก เราก็ดีใจที่ได้ทำงานกับเขา และคิดว่าเขาเหมาะกับแบรนด์เรา เพราะเราเข้าใจในคาแรกเตอร์เขา คนส่วนใหญ่อาจจะมองว่าเขาเป็นคนเท่ๆ แต่งตัวมินิมอล แต่เราเห็นเขาในอีกมุมหนึ่งที่สนุกขึ้น เด็กลง สดใสขึ้น เราก็อยากเอาส่วนนี้ของเขาดึงออกมาทำได้ เราก็เลยเลือกพี่แอน ทองประสม มาทำคอลเลกชันนี้ ทุกอย่างในคอลเลกชันนี้ ไม่ว่าจะเป็นลวดลาย รูปแบบกระเป๋า พี่แอนเป็นคนเลือกเองทั้งหมด”

โดยคอลเลกชันพิเศษที่ออกแบบร่วมกันกับคนอื่นๆ นี้ เป็นครั้งแรกที่ My Only Sunshine ทำขึ้นมา ซึ่งจากนี้ไปจะมีการทำคอลเลกชันพิเศษรูปแบบนี้ออกมาอีกเรื่อยๆ

ตอนนี้ แนต-ณิชชา พยายามวางมือจากการเป็นดีไซเนอร์ แต่จะทำหน้าที่ดูภาพรวมและควบคุมธุรกิจของแบรนด์ My Only Sunshine ให้มากขึ้น (ภาพโดย ธนัท ชยพัทธฤทธี)
ตอนนี้ แนต-ณิชชา พยายามวางมือจากการเป็นดีไซเนอร์ แต่จะทำหน้าที่ดูภาพรวมและควบคุมธุรกิจของแบรนด์ My Only Sunshine ให้มากขึ้น (ภาพโดย ธนัท ชยพัทธฤทธี)

นอกจากการทำคอลเลกชันพิเศษแล้ว แผนการในอนาคตของแบรนด์ My Only Sunshine ที่คุณแนตวางไว้ก็คือการขยายช่องทางการขาย จากเดิมที่มีเฉพาะช่องทางออนไลน์ก็จะเริ่มไปวางขายในพื้นที่ต่างจังหวัดที่เป็นเมืองท่องเที่ยวมากขึ้น เช่น หัวหิน รวมทั้งมีแผนส่งออกไปขายในต่างประเทศอีกด้วย

เนื่องจากที่ผ่านมาแบรนด์ My Only Sunshine ได้รับความสนใจจากชาวต่างชาติเป็นจำนวนมาก อีกทั้งยังได้รับการติดต่อจากประเทศต่างๆ เพื่อมาขอเป็นตัวแทนจำหน่าย การเปิดตลาดในต่างประเทศจึงเป็นอีกหนึ่งเป้าหมายที่ต้องการเดินไปให้ถึง แต่ยังไม่สามารถบอกในตอนนี้ได้ว่าจะไปประเทศไหน เพราะกำลังอยู่ในช่วงตัดสินใจ

ภาพโดย ธนัท ชยพัทธฤทธี