ทริปนี้ แบกกล้องเที่ยว หนีอากาศร้อนจากกรุงเทพฯ ไปนอนแช่น้ำตกกันที่กาญจนบุรี และด้วยความที่มีเวลาน้อยแค่ 2 วัน 1 คืนเท่านั้น จึงเลือกไปที่ "สังขละบุรี" ก่อนอื่นเราต้องขับรถหาที่พักแต่นับว่าโชคดีมาก วันที่เราไปคือวันธรรมดา นักท่องเที่ยวเลยไม่เยอะ ทำให้เราหาที่พักง่ายและได้ราคาถูกกว่าช่วงเสาร์ อาทิตย์ หรือหน้าวันหยุดเทศกาล ที่พักเป็นห้องธรรมดาๆ แต่งใหม่ สะอาดมาก ราคา 600 ต่อคืนเท่านั้น
...
จากนั้นเราก็เปลี่ยนเสื้อผ้าเตรียมแช่น้ำกันที่ น้ำตกซองกาเรีย ไหลมาจากเขาทำให้ได้นอนเล่นน้ำเย็นๆ ใส สะอาด ที่นี้มีซุ้มเล็กที่สามารถนั่งได้ 5-6 คนอยู่ริมน้ำ และที่ฟินกว่านั้นคือ สั่งอาหาร ส้มตำ ไก่ย่าง เครื่องดื่มมาทานได้ด้วย ราคาถูกสั่งทานได้เรื่อยๆ ทานให้อิ่มหนำแล้วลอยตามน้ำไปเลยจ้า มีบริการฝากรถเสียคันละ 20 บาท
ช่วงเย็นเราไปไหว้พระกันที่ พระเจดีย์พุทธคยา เป็นปูชนียสถานที่สำคัญคู่กับวัดวังก์วิเวการาม เป็นเจดีย์องค์ใหญ่นี้ตั้งตระหง่านอยู่บนเนินเขาใกล้ริมฝั่งแม่น้ำ มีสีเหลืองทอง ภายในองค์เจดีย์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ใครที่มาสังขละบุรีอย่าลืมแวะมากราบไหว้บูชาของพรท่านได้เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต
ช่วงค่ำก็ถึงเวลาหาของอร่อยๆ ทานกันที่ถนนคนเดิน มาที่นี้แล้วไม่ได้ทาน หมูจิ้มจุ่ม ถือว่ามาไม่ถึงนะจ๊ะ เป็นหมูและเครื่องในต่างๆ ที่ทำอย่างสะอาดแล้วมาต้มพร้อมเครื่องหอมๆ หั่นเป็นชิ้นเล็กๆ เสียบไม้แหลม วางไว้ให้เราเลือกหยิบทานได้ ไม้ละ 1 บาทเท่านั้น เพลินจ้า มาดูไม้ที่วางไว้ข้างๆ จานก็ปาไปจะร้อยไม้แล้ว เพราะน้ำจิ้มที่อร่อยกลมกล่อม จนต้องขอเพิ่มไม่หยุด
...
อิ่มแล้วก็กลับที่พัก เข้านอนเตรียมตื่นแต่เช้าเราจะไปใส่บาตรกันที่ สะพานมอญ หรือ สะพานอุตตมานุสรณ์ เป็นสะพานไม้ข้ามแม่น้ำซองกาเรียไปยังหมู่บ้านมอญ ถือเป็นสะพานไม้ที่ยาวที่สุดในประเทศไทย และเป็นอันดับสองของโลกรองจากสะพานไม้อูเบ็งในพม่า และเป็นสัญลักษณ์ของอำเภอสังขละบุรี เป็นสะพานแห่งศรัทธา ที่เกิดจากการร่วมแรงร่วมใจของชุมชนที่อาศัยอยู่ในสังขละบุรี
...
ช่วงเช้าของที่นี้ครึกครื้นมาก นักท่องเที่ยวจะแต่งตัวเป็นสาวมอญ ประแป้งทนาคาหน้าขาว นั่งรอใส่บาตรกันเป็นแถว พระจะเดินบิณฑบาตตั้งแต่หกโมงถึงเจ็ดโมงครึ่ง เรียบร้อยแล้ว ยังสามารถใส่ชุดมอญ เดินถ่ายรูปกันบนสะพาน กับบรรยากาศช่วงเช้าของสะพานมอญ
ไฮไลต์ของที่นี้คือ การโดดน้ำโชว์ เราได้คุยกับน้องต๋อง (ฉายาน้องมืด) นักโดดน้ำที่มีชื่อเสียงในสะพานมอญแห่งนี้ โดดไม่ต่ำกว่า 10 รอบต่อวัน ใครพบเห็นเรียกน้องโดดโชว์ได้นะ พร้อมตังค์ตอบแทนเล็กๆ น้อยๆ
...
ก่อนกลับเราแวะเที่ยว วัดจมน้ำ ที่ต้องนั่งเรือไปประมาณ 15 นาที วัดจมน้ำ วัดใต้น้ำ คือวัดวังก์วิเวการามเดิม เป็นสถานที่เล่าขานถึงตำนานความเป็นมาของวัดหลวงพ่ออุตตมะ จนหลายคนเรียกกันว่าเมืองบาดาล ถ้าอยากเห็นวัดต้องมาเดือนมีนาคม-มิถุนายน เป็นช่วงหน้าแล้ง น้ำจะลดลงมาก จะสามารถเดินเข้าไปเยี่ยมชมโบสถ์เก่าได้ ถ้ามาช่วงอื่นก็จะมีให้เห็นแค่ยอดหอระฆังที่สูงพ้นน้ำเท่านั้น
2 วัน 1 คืนสำหรับสังขละบุรีเราขอบอกเลยว่าฟินมากมาย ไหนจะวิวสวย ที่พักดี อาหารอร่อย และมาเรียนรู้วัฒนธรรมของชาวมอญแค่นี้ก็คุ้มแล้ว...
ที่มา - แบกกล้องเที่ยว
www.baagklong.com
www.facebook.com/baagklong