เพชรบุรี เปิดเรื่องเล่าจากเมนูอาหาร สู่การต่อยอด “รสเพ็ดรี” ในรูปแบบการสร้างประสบการณ์มื้ออาหารสุดพิเศษให้นักท่องเที่ยวสายฟู้ดเลิฟเวอร์

ถ้าหากพูดถึง จ.เพชรบุรี สิ่งที่โดดเด่นนอกจากสถานที่ท่องเที่ยวแล้ว “อาหาร” ก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่มีชื่อเสียงไม่แพ้กัน เพราะ จ.เพชรบุรี เคยมีภาพจำว่าเป็น ‘เมืองสามรส’ ที่มีความโดดเด่นของ ‘รสหวาน’ จากน้ำตาลโตนดของดีเมืองเพชรบุรี จากอำเภอบ้านลาด, ‘รสเค็ม’ เข้มข้นจากเกลือสมุทรในนาเกลือติดทะเลของอำเภอบ้านแหลม รวมถึง ‘รสเปรี้ยว’ ที่เติมความสดชื่นจี๊ดจ๊าดให้อาหารทุกจานจากอำเภอท่ายาง

นอกจากนี้ จ.เพชรบุรีแห่งนี้ ยังมีความหลากหลายทางวัฒนธรรมไม่ว่าจะเป็นชาวไทย จีน มุสลิม และมอญ ที่อาศัยอยู่รวมกัน และสืบทอดวัฒนธรรมกันมาหลายชั่วอายุคนทั้งจากชาววัง และชาวบ้าน ทำให้ครัวเมืองเพชรมีเสน่ห์รสมือที่ชวนค้นหาในทุกจาน ไม่ว่าจะเป็น ข้าวแช่ แจ่วด้าน ซอสน้ำแดง หรือก๋วยเตี๋ยวน้ำแดง รวมไปถึงของหวานขึ้นชื่ออย่างขนมหม้อแกง ซึ่งล้วนมีรสชาติเฉพาะตัวที่ดึงดูดฟู้ดเลิฟเวอร์ให้เข้ามาสัมผัสรสชาติที่ไม่เหมือนใคร

วัตถุดิบที่กล่าวมา รวมถึงวัฒนธรรมทั้งหมดนี้ ทำให้ “อาหารเพชรบุรี” เต็มไปด้วยเรื่องเล่ามากมายที่ซ่อนอยู่ในทุกเมนู ตั้งแต่วัตถุดิบ ไปจนถึงวิธีการปรุงอาหารที่สะท้อนถึงวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์อันยาวนานที่ทำให้เกิดการผสมผสานวัฒนธรรมของอาหารจากหลายชาติ จนถูกขนานนามว่า “เมืองสร้างสรรค์ด้านอาหาร” ขององค์การยูเนสโก (UNESCO Creative Cities Network: UCCN) ในปี 2564 

...

ทั้งหมดทำให้จังหวัดนี้เต็มไปด้วยร้านอาหาร และขนมชื่อดัง ตลอดจนยังมีสถาบันการศึกษาด้านอาหารที่ช่วยสืบทอดภูมิปัญญาส่งต่อรุ่นสู่รุ่นต่อยอดความรู้ด้านอาหารอย่างยั่งยืน จึงเป็นโอกาสที่ดีในการเชื่อมต่อองค์ความรู้ระหว่างประเทศเครือข่ายให้กับผู้ประกอบการด้านอาหารในพื้นที่ อันจะส่งผลให้เกิดการเติบโตทางเศรษฐกิจและกระตุ้นการท่องเที่ยวให้กับท้องถิ่น

จากที่กล่าวมาข้างต้น ทั้งหมดจึงเป็นที่มาของคอนเซ็ปต์คำว่า “รสเพ็ดรี” ที่หมายถึง รสชาติอาหารที่ให้คุณค่ามากกว่า รสชาติที่ครอบคลุมถึงประสบการณ์การกินอาหารที่มีความหลากหลาย สามารถต่อยอดสู่อาหารรูปแบบต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น การนำวัตถุดิบท้องถิ่นมาผสมผสานภูมิปัญญาหลากชาติพันธุ์ และวัฒนธรรมการปรุงอาหารชั้นเลิศ สร้างสรรค์ให้เกิดเมนูอาหาร หรือรูปแบบการกินใหม่ ๆ ที่ช่วยเพิ่มมูลค่า สอดรับกับรสนิยมสากล และยังคงสะท้อนจุดเด่นทางวัตถุดิบ และรสชาติของเพชรบุรี

“รสเพ็ดรี” จึงจะเป็นคำที่เข้ามาช่วยขับเคลื่อนให้อาหารเพชรบุรีเป็นมากกว่าแค่เมืองอาหารทั่วไป แต่เป็นเมืองที่สะท้อนถึงความคิดสร้างสรรค์ทางด้านอาหารที่สืบทอดจากอดีตสู่ปัจจุบัน และยังคงเจริญเติบโต และสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้คนทั้งในและนอกพื้นที่อย่างไม่หยุดยั้ง

แง่มุมอาหารที่น่าสนใจนี้ทำให้ CEA สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (องค์การมหาชน) ภายใต้เครือข่ายสมาชิกเมืองสร้างสรรค์ขององค์การยูเนสโก (UNESCO Creative Cities Network: UCCN) ร่วมกับ จังหวัดเพชรบุรี ได้ต่อยอดคำว่า “รสเพ็ดรี” สู่ “สายพาน” อาหารสร้างสรรค์ เพื่อต่อยอดอัตลักษณ์ของอาหารเมืองเพชร ให้เกิดเป็น “รสเพ็ดรี” ที่สามารถร่ายยาวได้ เปรียบเสมือนสายพาน แห่งวัฒนธรรมการกินร่วมสมัย ตอน “รสเพ็ดรี มีดีอยากจะอวดดดดด” ที่จะบอกเล่าเรื่องราวความโดดเด่น และความพิเศษเฉพาะตัวที่หลากหลายมากมายของอาหารเพชรบุรี

ร่วมค้นหาคำตอบว่า “อาหารเพชรบุรี” มาอยู่ในร้านสุกี้สายพานได้อย่างไร ผ่าน 4 คอนเซ็ปต์ “รสเพ็ดรี มีดีอยากอวดดดดด” ที่ประกอบไปด้วย

  • “อวดดี” โชว์ขุมทรัพย์ผลผลิตทางภูมิศาสตร์ที่หลากหลาย
  • “อวดเก่ง” ด้วยวัฒนธรรมภูมิปัญญาอันรุ่มรวยหลากหลายชาติพันธุ์ทั้งจากไทย จีน มุสลิมและมอญ
  • “อวดฉลาด” ผ่านการต่อยอดสินทรัพย์ทางวัฒนธรรมเชิงสร้างสรรค์ ผนวกทั้งสามอวดเข้าด้วยกันให้กลายเป็น
  • “อวดรวย” ด้วยการสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจผ่านต้นแบบการนำเสนอจุดเด่นของอาหารเพชรบุรีในรูปแบบใหม่ พร้อมพลิกโฉมมุมมองอาหารเพชรบุรี ต่อยอดคุณค่าทางวัฒนธรรมและความเป็นเมืองสร้างสรรค์ด้านอาหารขององค์การยูเนสโก “ก่อนไม่มีให้อวด”

ชวนให้นักท่องเที่ยวมาสัมผัสเสน่ห์ที่ซ่อนเรื่องราวมากมายไว้ในทุกจานไปกับงานนิทรรศการ “รสเพ็ดรีสุกี้สายพาน” ตอน “รสเพ็ดรี มีดีอยากอวดดดด” ที่สะท้อนเรื่องราวของอาหารที่เสิร์ฟมาทางสายพานแห่งวัฒนธรรมการกินร่วมสมัย พร้อมสัมผัสความอร่อยแบบเอ็กซ์คลูซีฟที่ชวนทุกคนมาลิ้มลอง สามารถเข้าชมฟรี ได้ตั้งแต่วันที่ 18 - 22 กันยายน 2567 เวลา 12.00 น. -20.00 น. ณ ร้านหยวน หยวน สุกี้หม่าล่าสายพาน อาคารเคเบิ้ลคาร์ พระนครคีรี จังหวัดเพชรบุรี พร้อมสัมผัสมื้ออาหารสร้างประสบการณ์ 7 เมนู พร้อมเครื่องดื่มในราคา 250 บาท ต่อคน

...

ภาพ : หยวน หยวน 元 元 - สุกี้หม่าล่าสายพาน เพชรบุรี, devasom hua hin resort