พลันที่ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานเกาะสมุย กนกกิตติกา กฤตย์วุฒิกร ชวนร่วมทริปเที่ยวเกาะแบบไทยๆ ด้วยการนั่งรถไปเกาะเต่า แบบชิลๆ เสียงเพลง “ฉันคิดไปเป็นชาวเกาะ” ของปานศักดิ์ รังสิพราหมณกุล เมื่อ 30 ปีก่อน ก็ลอยมาทันที

ทริปนี้หมุดหมายแรกของเราคือ เกาะเต่า สวรรค์ของนักดำน้ำที่ติดอันดับ 5 ในจำนวน 10 เกาะยอดนิยมจากการเลือกของนักท่องเที่ยวทั่วโลก ผ่านเว็บไซต์ชื่อดัง ‘Tripadvisor’ และติดอันดับ 1 ของเกาะยอดนิยมในเอเชีย ไม่รวมการได้รับการโหวตให้เป็น 1 ใน 10 ของแหล่งเรียนดำน้ำที่ดีที่สุดในโลกบนเว็บไซต์ Lonely Planet เรียกว่าไม่ธรรมดาเลยสำหรับเกาะเล็กๆ ในเขตอำเภอเกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี แห่งนี้

ผอ.ททท.สมุย บอกว่า ส่วนใหญ่แล้ว นักท่องเที่ยวนิยมที่จะมาดำน้ำที่เกาะเต่า เพราะมีจุดดำน้ำมากกว่า 20 จุดรอบเกาะ ที่สามารถดำได้ทั้งแบบฟรีไดฟ์ สน็อกกลิ้ง หรือ Scuba ข้อดีของเกาะเต่าสำหรับคนที่สนใจอยากดำน้ำก็คือเกาะเต่าสามารถดำน้ำได้ทั้งปี

...

จริงๆแล้วเกาะเต่าถือว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวน้องใหม่ ในช่วงเวลาแค่ 70 กว่าปี สมัยก่อนถ้ามาเที่ยวทะเลแถบนี้ ส่วนใหญ่ก็มักจะนึกถึงเกาะสมุย เกาะนางยวน เกาะพะงัน มากกว่าจากคำบอกเล่าของคนเฒ่าคนแก่บนเกาะ บอกว่า กว่า 70 ปีที่แล้ว เกาะเต่าเป็นเกาะร้าง จนกระทั่งมีชาวบ้านจากเกาะสมุยล่องเรือมาเจอและเข้ามาตั้งถิ่นฐานบนเกาะ จากนั้นคนจากเกาะอื่นๆ

ใกล้เคียงทั้งเกาะสมุย เกาะพะงัน ก็ชวนกันย้ายมาอยู่ที่เกาะเต่า จนกลายเป็นชุมชนเล็กๆ หาเลี้ยงครอบครัวด้วยอาชีพเกษตร ประมง กระทั่งประมาณปี 2520 เมื่อนักท่องเที่ยวเริ่มลัดเลาะมาดำน้ำ และพบว่าที่นี่คือสวรรค์ของการดำน้ำ ชื่อเสียงของเกาะเต่าก็เริ่มโด่งดังตั้งแต่ช่วงนั้นเป็นต้นมา

สำหรับทริปเกาะเต่า...คราวนี้ ททท.สมุย ไม่ได้พาพวกเราไปดำน้ำเพื่อโปรโมตการท่องเที่ยว เพราะชื่อเสียงเรื่องการดำน้ำสำหรับเกาะเต่าดังระดับโลกไปแล้ว แต่ ผอ.ททท.พาเราไปรู้จักกับหาดลับๆ บนเกาะที่ชื่อว่า Freedom Beach ซึ่งตั้งอยู่ทางทิศใต้ของเกาะ ไม่ไกลจากอ่าวโฉลกมากนัก

ร่มเงาของต้นเทียนทะเลริมชายหาด ฟรีด้อม บีช ผสานกับ หาดทรายขาวละเอียด ทำให้ที่นี่เหมาะกับการนอนเล่นพักผ่อน ชื่นชมธรรมชาติมากกว่าที่อื่นๆ บนเกาะ จริงๆแล้วชื่อเดิมของหาดนี้ ชาวบ้านเรียกว่า หาดตาโต๊ะกลาง เป็นชื่อที่มาจากแนวก้อนหินใหญ่ที่ชื่อว่า หินตาโต๊ะ ซึ่งอยู่บริเวณปลายแหลมของหาดทรายที่ทอดยาวแห่งนี้

และเพราะความสงบ ไม่ไกลจากชายหาด แค่ว่ายน้ำออกไปใกล้ๆ คุณอาจจะได้เห็นปลาฝูงใหญ่ว่ายเข้ามาใกล้มากๆ และถ้าเขยิบออกไปอีกนิด ก็จะเป็นจุดที่สามารถดำน้ำตื้นหรือสน็อกกลิ้ง ดูปะการังได้อีกด้วย
ก่อนถึงปลายแหลมมีชายหาดเล็กๆอีกแห่ง ปกคลุมด้วยต้นมะพร้าว ชาวบ้านเรียกว่า “อ่าวตาโต๊ะเล็ก” หรือ “หาดฟรีด้อมบีชสอง” เรียกว่า เป็นหาดลับๆในมุมเล็กๆอีกแห่งที่น่าค้นหา

...

การมาเที่ยวที่หาดฟรีด้อม บีช สิ่งที่ไม่ควรพลาดคือการเดินขึ้นไปยังจุดชมวิวที่โด่งดังที่สุดของเกาะเต่า ชื่อ “จุดชมวิวจอห์น–สุวรรณ” ซึ่งใช้เวลาเดินขึ้นเขาประมาณ 15 นาที โปรแกรมนี้ หลายคนแม้จะอยากมองเห็นวิวสวยๆแต่ก็ขอ Bye นอนเล่นรอเพื่อนอยู่ที่ชายหาดแบบอิสระ ตามชื่อ Freedom ดีกว่า

จากบริเวณชายหาดฟรีด้อม สามารถเดินตามทางคอนกรีตเล็กๆ เลาะชายฝั่งไปเที่ยวหาดตาโต๊ะใหญ่ที่อยู่ใกล้เคียง ซึ่งเวลาน้ำลงยังสามารถเดินต่อไปถึงอ่าวโฉลกบ้านเก่าได้ด้วย

...

การเดินทางมาเที่ยว Freedom Beach ไม่ยากอย่างที่คิด สามารถขับรถประมาณ 10 นาทีจากหาดทรายรี และท่าเรือแม่หาด โดยหาดฟรีด้อมอยู่ปลายถนนทางเหนือจดทางใต้ของเกาะเต่า โดยสามารถจอดรถไว้ที่อ่าวตาโต๊ะ แล้วเดินไปประมาณแค่ 2 นาที อิสระเสรีบนชายหาดที่สวยงามก็เป็นของเราแล้ว

ข้อที่ต่างจากหาดอื่นๆบนเกาะเต่า สำหรับที่นี่ก็คือ ต้องจ่ายค่าเข้าชายหาดคนละ 100 บาท ทั้งคนไทยและฝรั่ง เป็นค่าบำรุงรักษาเกาะ ซึ่งหลายประเทศก็ทำแบบนี้ ไม่เช่นนั้นเกาะก็จะเสื่อมโทรมโดยเฉพาะเรื่องของการกำจัดขยะ ที่เป็นปัญหาในหลายๆเกาะที่เป็นแหล่งท่องเที่ยว

...

“หลังจากพวกเรามาที่นี่ ที่นี่ก็จะไม่ใช่หาดลับๆบนเกาะเล็กๆแห่งนี้อีกแล้ว” ผอ.ททท.สมุย บอกไม่ใช่แค่ Freedom Beach เท่านั้นที่เย้ายวนใจ บนเกาะเต่ายังมีอีกหลายหาดที่สวยไม่แพ้กัน และความสวยงามของแหล่งท่องเที่ยวในเมืองไทยที่เป็นมากกว่า Soft Power นี่ล่ะ ที่กำลังโบกมือทักทาย เชิญชวนนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกให้ไปผ่อนคลาย ทอดกายกับทะเล ท้องฟ้า และสายลม เหมือนในเพลงฟังสบายๆที่ว่า

“ฉันคิดไปเป็นชาวเกาะ มีชีวิตกลางแดดและคลื่นลม จะจูบอำลาสังคม แสงสีในเมืองนภา หากเบื่อชีวิตในเมืองกรุง และคิดใจมุ่งแสวงหา มีธรรมชาติในวิญญา ตามฉันมาเป็นชาวเกาะเอย”.

อ่าน "เที่ยวตามตะวัน" ทั้งหมดที่นี่