สืบเนื่องจากฟุตบอลนัดชิงแชมป์โลก 2018 ที่เพิ่งผ่านไปไม่นานนี้ ทีมของโครเอเชียเปรียบเสมือนม้ามืดผู้คว้ารางวัลรองชนะเลิศอันดับที่ 1 ไปได้สำเร็จ

หากพูดถึงกลุ่มประเทศในยุโรปตะวันออก ได้ยินมาว่า ความสวยงามของประเทศโครเอเชียยังครองอันดับต้นๆ ในใจของนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก โดยเฉพาะกับบรรยากาศริมทะเล ที่หลายคนยกให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวริมทะเลที่สวยที่สุดในยุโรป

ไลฟ์สไตล์ไทยรัฐ จึงมองว่านี่เป็นโอกาสดีที่จะพาท่านผู้อ่านไปรู้จักกับประเทศนี้ให้มากขึ้น จนไม่แน่ว่าคุณอาจจะหลงรักในมนตร์เสน่ห์แห่งโครเอเชียจนถอนตัวไม่ขึ้นก็เป็นได้

1. ประเทศโครเอเชีย ตั้งอยู่ระหว่างภูมิภาคยุโรปกลาง ภูมิภาคยุโรปใต้ และภูมิภาคยุโรปตะวันออก รูปร่างของประเทศคล้ายกับพระจันทร์เสี้ยวหรือเกือกม้า ดังนั้นนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จึงให้สมญานามว่า ดินแดนพระจันทร์เสี้ยวแห่งยุโรป 

2. ในสมัยก่อน การปกครองของที่นี่เป็นไปในระบบคอมมิวนิสต์ แต่ปัจจุบันได้เปิดประเทศแล้ว นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางไปเที่ยวได้อย่างสบายใจจ้า แถมทุกคนที่ไปมาแล้วยังพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าคนที่นี่ยิ้มเก่ง และใจดีกับชาวต่างชาติมาก รวมถึงอาหารการกินก็ไม่แพงอีกด้วย

...

3. ถึงแม้ว่าประเทศนี้จะไม่ได้รับความนิยมมากนักสำหรับนักท่องเที่ยวชาวไทย แต่เราอยากให้รู้ว่าที่นี่คือแหล่งรวมอารยธรรมวัฒนธรรมเก่าแก่หลายพันปีเข้าไว้ด้วยกัน จนมีหลายสถานที่ที่กลายเป็นมรดกโลก ซึ่งมีคุณค่ามากมายเกินจะประมาณ

4. เมือง "ดูบรอฟนิก" คือจุดมุ่งหมายของนักท่องเที่ยว เพราะเป็นเมืองสวยริมฝั่งทะเลอาเดรียติก และอีกแง่มุมหนึ่งคือเป็นเมืองแห่งประวัติศาสตร์ มีอาคารเก่าแก่หลายแห่ง ทั้งยังได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกด้วย

5. ด้วยความที่เป็นเมืองติดทะเล โครเอเชีย จึงมีหมู่เกาะที่น่าสนใจอยู่มาก โดยเฉพาะเกาะ “เคิร์ก” (Krk) ซึ่งเป็นเกาะที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับต้นๆ ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของทะเลอาเดรียติกและมีผู้คนอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก และบนเกาะนี้เองก็ยังมีสะพานคอนกรีตที่ยาวที่สุดในโลกอยู่ด้วย

สิ้นปีนี้ ไลฟ์สไตล์ไทยรัฐ ก็อยากจัดโครเอเชียสักทริป แต่ตอนนี้คงต้องก้มหน้าก้มตาเก็บเงินก่อนจ้า...