ปีนี้ใครจะไปญี่ปุ่นยกมือขึ้น! ต้นปีแบบนี้เชื่อว่าหลายคนคงแพลนจะไปเที่ยวแดนปลาดิบ ชมดอกซากุระบาน แต่ถ้าเป็นการเดินทางครั้งแรก คงยังไม่ค่อยมั่นใจเท่าไหร่ ไม่เป็นไร วันนี้เรามีเคล็ดลับดีๆ มาฝากขาเที่ยวสายคาวาอิ
วันนี้ คู่มือเที่ยว ไทยรัฐออนไลน์ มีคำแนะนำมาฝากขาเที่ยวซึ่งจะเดินทางเป็นครั้งแรกมาบอกต่อ หวังว่าคงช่วยให้เตรียมตัวได้มั่นใจมากขึ้น ส่วนจะต้องทำยังไงบ้าง ตามมาดูกันเลย
1. เลือกสถานที่
ประเทศญี่ปุ่นเป็นดินแดนแสนมหัศจรรย์ ไม่ว่าจะเมืองไหนๆ ก็น่าเที่ยว มีสถานที่น่าสนใจเยอะแยะไปหมด ใครที่ไม่รู้จะเริ่มต้นยังไง ลองแพลนรูทท่องเที่ยวเพื่อชมดอกซากุระดูก่อน น่าจะง่ายที่สุด
สำหรับการไปเที่ยวชมดอกซากุระบาน ขอแนะนำเมืองเกียวโต เมืองหลวงเก่าของญี่ปุ่นนี่แหละเริ่ดที่สุด บรรยากาศเมืองเก่าสวยๆ คลาสสิก และมีดอกซากุระบานเต็มเมือง ฟินสุดๆ นอกจากนี้ยังมีที่ โตเกียว, นาโกย่า, โอซาก้า, ฮิโรชิมะ, ฟุกุโอกะ, นางาซากิ เป็นต้น
2. เลือกเวลาที่เหมาะสม
...
แต่ถ้าอยากไปเที่ยวในช่วงอากาศดีๆ แนะนำให้ไปในช่วงเดือนตุลาคม - พฤศจิกายน อากาศเย็นกำลังดี ไม่หนาวมาก ไม่มีหิมะตก ส่วนใครที่อยากชมเมืองท่ามกลางหิมะขาวโพลนก็ต้องไปช่วงเดือนธันวาคม - กุมภาพันธ์
สำหรับสาวๆ หรือคู่รักที่อยากไปชมซากุระบาน ต้องไปช่วงเดือนมีนาคม - เมษายน และเดือนที่ไม่แนะนำให้ไปเที่ยวเลย เพราะพายุเข้า ฝนตกตลอด คือมันเที่ยวไม่สนุกอะ ก็คือตั้งแต่เดือนมิถุนายน - กันยายน
3. การสื่อสาร
ชาวญี่ปุ่นไม่ถนัดภาษาอังกฤษเลย ฉะนั้นการศึกษาภาษาญี่ปุ่นพวกคำพื้นฐานต่างๆ ไว้บ้าง ก็จะเป็นประโยชน์กับตัวคุณเอง เช่น
สวัสดี พูดว่า โคนนิจิวะ, ขอบคุณ พูดว่า อะริกะโตะ, ขอบคุณมาก พูดว่า อะริกะโตะ โกะไซอิมัส, ขอโทษ (Excuse me) พูดว่า ซึมิมาเซน, ขอโทษ (Sorry) พูดว่า โกเมนนาไซ, ใช่ พูดว่า ไฮ (hai), ไม่ พูดว่า ไอ่ (iie), แล้วเจอกันใหม่ พูดว่า มาตะไอมาโช่, ลาก่อน พูดว่า ซาโยนาระ
4. การให้ทิป
เวลาไปเที่ยวญี่ปุ่น เมื่อเราใช้บริการต่างๆ เช่นการเดินทาง ร้านอาหาร บางคนก็จะกังวลเกี่ยวกับการให้ทิปพนักงาน แต่ขอบอกว่าที่ญี่ปุ่นไม่จำเป็นต้องให้ทิปเลย เช่น ร้านอาหารไม่ต้องให้ทิปพนักงานเสิร์ฟ ไปเที่ยวบาร์ไม่ต้องทิปบาร์เทนเดอร์ ไปทัวร์กับไกด์ไม่ต้องทิปไกด์ พักโรงแรมไม่ต้องทิปพนักงานขนกระเป๋า หรือแม้แต่แท็กซี่ ก็ไม่ต้องให้ทิปเช่นกัน
5. มารยาทต่างๆ
การตรงต่อเวลา : ประเทศญี่ปุ่นมีความเป็นระเบียบสูงมาก ตารางเวลาต่างๆ จะตรงเป๊ะ! อย่างรถไฟในญี่ปุ่น ขบวนรถไฟจะมาตรงเวลา (บนรถไฟห้ามคุยกันเสียงดัง เตือนตัวเองนะว่าเราไม่ใช่ทัวร์จีน!) การนัดเวลากับไกด์นำเที่ยวเขาก็จะตรงเวลามากๆ ฉะนั้น ไปเที่ยวญี่ปุ่นต้องรักษาเวลาด้วยนะจ๊ะ
การทักทาย : การกล่าวสวัสดีให้โค้งศีรษะลงพร้อมกล่าวทักทาย ถ้าอยากขอบคุณเขาสำหรับการช่วยเหลือ ก็สามารถจับมือเชคแฮนด์ได้ แต่อย่าไปจ้องตา มองหน้าได้และควรค้อมศีรษะลงแต่พองาม จับมือกันสั้นๆ พอเป็นพิธี
บนโต๊ะอาหาร : เช็ดมือด้วยผ้าร้อนบนโต๊ะก่อนทานอาหารทุกครั้ง ถ้าอาหารชิ้นใหญ่ให้ใช้ตะเกียบตัดแบ่งอาหาร แล้วค่อยคีบอาหารเข้าปากคำเล็กๆ อย่าใช้มือทานเด็ดขนาด (ยกเว้นร้านซูชินะ ใช้มือกินจ้า) เวลาทานซุป ให้ยกถ้วยซุปขึ้นมาซดได้เลย และเพื่อส่งสัญญาณว่าคุณอิ่มแล้ว ให้วางตะเกียบไว้บนที่วางตะเกียบ พนักงานก็จะรู้ว่าเข้ามาเก็บจานไปได้
...
กินร้านข้างทาง : คนญี่ปุ่นไม่เดินกิน เวลาซื้อพวกขนมหรือของกินสตรีทฟู้ดข้างทาง เขาจะยืนกินหน้าร้านให้หมดก่อน ถึงเดินเที่ยวต่อ ยกเว้นน้ำเปล่ากับไอศกรีมโคนคงมีอนุโลมบ้าง เพราะเห็นวัยรุ่นส่วนใหญ่ก็มักถือไอติมเดินกินไปด้วย
เวลาพูดคุย : ถ้าเข้าไปถามทางกับชาวญี่ปุ่น เขาจะเต็มใจช่วยเหลือนักท่องเที่ยวต่างชาติมากๆ แต่เวลาเขาพูดกับเรา เราควรพยักหน้าไปด้วยตลอดการสนทนา เพื่อบอกให้รู้ว่าเราตั้งใจฟัง และถือเป็นมารยาทที่ดี
การถอดรองเท้า : ถ้าเข้าไปเที่ยวอาคารหรือบ้านที่ต้องเข้าชมด้านใน ส่วนใหญ่ให้ถอดรองเท้า โดยหันปลายรองเท้าออกจากตัวบ้าน แม้แต่ในโรงแรมบางแห่งก็เข้มงวด ตรงทางเดินถ้าสังเกตเห็นว่ามีพรมปูอยู่ ห้ามใส่รองเท้าไปเดินเหยียบบนพรม ต้องถอดรองเท้าก่อนทุกครั้ง
6. อาหารที่ต้องลอง
น่าโดนที่สุดเลยก็คือ ราเมนญี่ปุ่น จะบอกว่ากินราเมนเมืองไทยมันไม่อร่อยเหมือนกินที่ญี่ปุ่นจริงๆ นะ ไม่รู้ทำไม อยากให้ไปลองกันแล้วจะรู้! นอกจากนี้ก็มีพวกซูชิ ซาซิมิต่างๆ ซึ่งสด อร่อย และราคาถูกกว่าเมืองไทยซะอีก แล้วก็มีชาบู นาเบะ ข้าวแกงกะหรี่ เหล้าบ๊วย และสาเก
...
7. สิ่งที่ห้ามพลาดเด็ดขาด
ปิดท้ายที่สิ่งห้ามพลาดเมื่อมาเที่ยวญี่ปุ่น ก็ต้องออนเซ็นสิ รออะไร! แก้ผ้าลงออนเซ็นเลยจ้า แบบว่ามันฟินสุดๆ น้ำร้อนแต่พอลงไปแช่สักพักจะอุ่นกำลังดี พอขึ้นจากน้ำก็ไม่หนาวอย่างที่คิด ขอให้ไปโดนจริงๆ เอาเป็นว่าถ้าเตรียมตัวพร้อมแบบนี้แล้ว ก็ขอให้ไปเที่ยวอย่างมีความสุขกันนะจ๊ะ