ผู้โดยสารที่เดินทางด้วยเครื่องบินกว่า 30% ชอบซื้อของบนเที่ยวบิน เช่น ขนมเครื่องดื่ม และเครื่องอำนวยความสะดวกและความบันเทิง หากคนที่นั่งข้างซื้อก่อน โดยข้อมูลชี้รายได้ของธุรกิจเสริมนี้มีสูงถึง 3.1 พันล้านเหรียญ...

เว็บไซต์ Mashable รายงานอ้างผลการวิจัยของมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด ที่ศึกษาการซื้อของในเที่ยวบินต่างๆ กว่า 2 พันเที่ยวบิน โดย ผศ.เปโดร เอ็ม.กราเดเต้ นักวิจัยสาขาการตลาด บัณทิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด ได้เผยผลการศึกษาผ่าน รายงานที่ตีพิมพ์ ว่า จากการวิเคราะห์ข้อมูล ที่รวบรวมการซื้อสินค้าและบริการ 65,525 รายการจากผู้โดยสารบนเครื่องบิน 2.57 แสนคน เรารู้ว่าสังคมรอบข้างมีอิทธิพลต่อการโน้มน้าวใจผู้คน นี่จึงเป็นขนมปังและเนยของการทำการตลาดในเวลานี้ พวกเขาพยายามที่จะหาวิธีที่ดีที่สุดในการเข้าใกล้ผู้บริโภค จากการศึกษาพบว่าผู้โดยสารที่เดินทางด้วยเครื่องบินกว่า 30% ชอบซื้อของบนเที่ยวบิน เช่น ขนมเครื่องดื่ม และเครื่องอำนวยความสะดวก และบริการด้านความบันเทิง หากคนที่นั่งอยู่ข้างๆ หรือที่นั่งที่อยู่ใกล้ๆ ตัวเราซื้อก่อน

...


อีเลน ซิมเมอร์แมน ผู้เขียนการวิจัย เสนอต่อวิทยาลัยการตลาด ระบุว่า สาเหตุที่สามารถเก็บข้อมูลได้เป็นเพราะในทุกธุรกรรมการเงินบนเครื่องบิน มักจะมีการชำระเงินผ่านบัตรเครดิต ที่มีการบันทึกรายละเอียดการซื้อขาย ชื่อผู้โดยสาร หมายเลขที่นั่ง และ เที่ยวบิน ว่าพวกเขาซื้ออะไร และซื้อเมื่อไหร่


จากรายงานของ ฟอร์บส์ เจย์ โซเรนเซ่น ประธานของ ไอเดียเวิร์กส์ ผู้เก็บข้อมูล ในธุรกิจเสริมของสายการบิน กล่าว สำหรับบางสายการบินที่มีรายได้เสริมจากการขายอาหารและเครื่องดื่มพิเศษ รวมทั้งบริการด้านความบันเทิง รวมทั้งการอัพเกรดที่นั่งโดยสาร สิ่งเหล่านี้กลายเป็นมากกว่าธุรกิจเสริม สายการบินต่างๆ ทำรายได้จากธุรกิจพิเศษเหล่านี้ถึง 3.1 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯในปี 2013 โดยหากไม่มีรายได้เสริมตรงนี้ อุตสาหกรรมสายการบินอาจจะขาดทุนมหาศาล รายได้ธุรกิจส่วนนี้เติบโตอย่างรวดเร็วในปีนี้ และบรรดาสายการบินต่างๆ ก็ต้องการที่จะอยู่ในเทรนด์ของธุรกิจรูปแบบนี้ต่อไป


นักการตลาดมีความสนใจในการแสดงวิธีการที่จะทำให้บริษัทสามารถมีอิทธิพลเหนือการตัดสินใจของผู้บริโภค เพื่อให้ลูกค้าซื้อสินค้าของพวกเขามากขึ้น แต่การวิจัยของ กราเดเต้ก็ เป็นตัวที่ช่วยเตือนสติของผู้บริโภคในการซื้อของให้วางแผนและรอบคอบในการตัดสินใจซื้อ ก่อนที่จะโดนบรรยากาศพาไปให้ต้องซื้อตามคนอื่น.

ที่มา : mashable