ยังคงเป็นหนุ่มเจ้าเสน่ห์คนดีคนเดิม สำหรับ “ไผ่ พงศ์วรุตม์ ปังศรีวงศ์” ทายาทสุดหล่อของตระกูลธุรกิจในเครือเกษมกิจ และเคป แอนด์ แคนทารี โฮเทลส์ แต่เพิ่มเติมคือ การกระโดดเข้ามาเต็มตัวช่วยบริหารธุรกิจของครอบครัว “จอห์น เกรย์ ซีแคนู” (John Gray’s Sea Canoe) บริษัทนำเที่ยวด้วยเรือแคนูระดับโลก เพื่อสร้างสรรค์การท่องเที่ยวรูปแบบใหม่ และปลุกกระแสการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนด้วยเรือแคนู ควบคู่ไปกับการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม
ในฐานะผู้บริหารรุ่นใหม่หัวใจสีเขียว “คุณไผ่” เปิดใจกับทีมข่าวหนังสือพิมพ์ไทยรัฐถึงความตั้งใจในการสร้างสรรค์การท่องเที่ยวรูปแบบใหม่ ที่ทั้งเที่ยวสนุก เต็มไปด้วยประสบการณ์แปลกใหม่ไม่เหมือนใคร ขณะเดียวกันก็ต้องไม่ทำร้ายโลกด้วย
“ผมมีความเชื่ออย่างแรงกล้าว่า การดำเนินธุรกิจการท่องเที่ยวยุคใหม่ไม่ได้คำนึงถึงแค่การสร้างผลกำไร แต่ต้องสร้างผลดีให้กับชุมชนและสิ่งแวดล้อมด้วย สิ่งที่เป็นหัวใจสำหรับ “จอห์น เกรย์ ซี แคนู” คือการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน และการอยู่ร่วมกับธรรมชาติโดยไม่แทรกแซง เส้นทางการพายเรือแคนูของเราสอดแทรกไปด้วยการให้ความรู้เกี่ยวกับความมหัศจรรย์ทางธรรมชาติในแถบอุทยานแห่งชาติอ่าวพังงา ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีความโดดเด่นและแปลกตามากแห่งหนึ่งในเมืองไทย ขณะเดียวกันก็แฝงไปด้วยรายละเอียดของการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมอย่างกลมกลืน เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้ตระหนักถึงความสำคัญของการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน ที่ทั้งสนุกและต้องไม่ทำร้ายโลก ซึ่งบ่อยครั้งหากโชคดี นักท่องเที่ยวจะมีโอกาสเจอสัตว์ป่าและสัตว์ทะเลหายาก เช่น ปลากระเบน, ปลาตีน, ปลาดาว, ปลิงทะเล, นกเงือก, เหยี่ยวแดง, นกนางแอ่น และลิงแสม”
...
นอกจากการพานักท่องเที่ยวเข้าไปสัมผัสความมหัศจรรย์แห่งท้องทะเลอย่างใกล้ชิดและให้ความรู้เกี่ยวกับธรรมชาติแล้ว “คุณไผ่” บอกเล่าว่า “จอห์น เกรย์ ซี แคนู” ให้ความสำคัญกับแนวคิดการอนุรักษ์และการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน ผ่านการเชิญชวนนักท่องเที่ยว เก็บขยะทะเลไปพร้อมๆกันในทุกทริปของการเดินทาง รวมถึงการจัดกิจกรรมชักชวนผู้มีความสนใจมาร่วมเก็บขยะทะเล อาทิ กิจกรรมเก็บขยะในทะเลและขยะบนชายหาด กิจกรรมปลูกป่าโกงกาง โดยเป็นตัวตั้งตัวตีในการชักชวนผู้คนจากหลากหลายที่มา ทั้งนักท่องเที่ยว, นักศึกษามหาวิทยาลัย, กลุ่มบริษัทนำเที่ยว ไปจนถึงกลุ่มนักกิจกรรมในพื้นที่ มาร่วมกันพายเรือสำรวจและเก็บขยะตามเกาะแก่งต่างๆภายในพื้นที่อุทยานแห่งชาติอ่าวพังงาอย่างต่อเนื่อง เรายังเป็นส่วนหนึ่งในการรักษาสิ่งแวดล้อมของชุมชน โดยเฉพาะการรักษาความสะอาดในบริเวณใกล้เคียงท่าเรืออ่าวปอ และเก็บขยะชายหาดในพื้นที่ อ.ถลาง จ.ภูเก็ต ด้วยศักยภาพและความพร้อมของทีมงานที่เรามีอยู่ ทำให้มองไปไกลว่า เราน่าจะสามารถเป็นหัวหอกสำคัญในการขับเคลื่อนกิจกรรมเพื่อสิ่งแวดล้อมในแถบอ่าวพังงา เพื่อรวมพลังกันคนละไม้ละมือช่วยให้ทะเลของบ้านเรายังคงความสวยงามแบบนี้ต่อไปในวันข้างหน้า ตามแนวคิดที่ว่า เพื่อให้โลกนี้ดีกว่าที่เคยเป็น บางครั้งเราต้องช่วยเก็บกวาดสิ่งที่คนอื่นทิ้งไว้
ย้อนกลับไปถึงจุดเริ่มต้นของธุรกิจ “จอห์น เกรย์ ซี แคนู” จนกลายเป็นผู้บุกเบิกการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม “คุณไผ่” บอกเล่าว่า “จอห์น เกรย์ ซี แคนู” ก่อตั้งขึ้นในประเทศไทย เมื่อปี 2544 โดย “มร.จอห์น เกรย์” ชายอเมริกันร่างใหญ่ใจดี ร่วมกับคุณพ่อ (ธีระพงศ์ ปังศรีวงศ์) “มร.จอห์น เกรย์” เป็นผู้หลงใหลในการผจญภัยและรักการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม แถมยังเป็นนักสำรวจถ้ำมืออาชีพ เขาสร้างธุรกิจ โดยถือคติ “We Don’t Do Anything Normal” คือเรื่องธรรมดาเราไม่ทำ เขาเป็นคนแรกๆ ที่บุกเบิกเส้นทางการพายเรืออันน่าตื่นตาตื่นใจในพื้นที่ของอุทยานแห่งชาติอ่าวพังงา ตั้งแต่การเข้าสำรวจในปี 2532 จากคำบอกเล่าของเพื่อนชาวประมงและชาวบ้าน ขณะเดียวกันก็ออกแบบและสั่งผลิตเรือแคนูขึ้นเป็นพิเศษจากอเมริกา เพื่อให้มีประสิทธิภาพเหนือกว่าเรือแคนูทั่วไป โดยใช้วัสดุชั้นดีไม่รั่วหรือฉีกขาดง่าย ตัวเรือมีขนาดกว้างขวางมากขึ้น และท้องเรือถูกออกแบบเป็นพิเศษให้สามารถล้อไปตามคลื่นทะเล จึงมีความคล่องตัวสูงและสร้างสมดุลได้ดี ทำให้เรือไม่พลิกคว่ำยามกระทบคลื่น
...
...
เมื่อมาถึงยุคของผู้บริหารรุ่นใหม่ “คุณไผ่” ตั้งใจรักษาดีเอ็นเอ ของ “จอห์น เกรย์ ซี แคนู” ที่เป็นมากกว่าแค่บริษัทนำเที่ยวด้วยเรือแคนู โดยมุ่งหวังจะสร้างสรรค์การท่องเที่ยวรูปแบบใหม่ ที่เชื่อมทุกคนสู่โลกของธรรมชาติในแบบที่ไม่เคยสัมผัสที่ไหนมาก่อน ขณะเดียวกันก็ปลูกจิตสำนึกให้ผู้คนได้ตระหนักถึงความสำคัญของการอนุรักษ์ธรรมชาติ
...
หนึ่งในโปรแกรมท่องเที่ยวยอดนิยมของ “จอห์น เกรย์ ซี แคนู” ต้องยกให้ “จอห์น เกรย์ ซี แคนู : Hong by Starlight” ใช้เวลา 8 ชั่วโมง เที่ยวสนุกครบรสจบในวันเดียว ถามว่าอะไรคือความพิเศษของทริปนี้ พวกเราจะได้สัมผัสความมหัศจรรย์ของเกาะห้องพังงาแบบเอกซ์คลูซีฟสุดๆ โดยทีมไกด์ท้องถิ่นมากประสบการณ์จะทำหน้าที่พายเรือแคนูส่วนตัวพาพวกเราผ่านถ้ำลอดเข้าไปสำรวจความงดงามของ “เกาะห้องพังงา” เนื่องจากเป็นเกาะหินปูนที่มีลักษณะพิเศษแตกต่างจากเกาะอื่นๆ และมีหน้าผาหินปูนโอบรอบทะเลด้านในเหมือนห้องใหญ่ จึงคงความบริสุทธิ์งดงามของธรรมชาติไว้อย่างน่าตื่นตาตื่นใจ
หลังทานอาหารเช้าเรียบร้อย “คุณไผ่” นำชาวคณะออกเดินทางจากโรงแรมเคปพันวา ภูเก็ต ไปยังท่าเรืออ่าวปอ เพื่อขึ้นเรือโดยสารลำใหญ่ของ “จอห์น เกรย์ ซี แคนู” ที่แสนสะดวกสบายและปลอดภัย พาทุกคนออกเดินทางสู่ท้องทะเลกว้างใหญ่ พร้อมให้ความรู้เรื่องระบบนิเวศ, การกำเนิดของเกาะแก่งและถ้ำหินปูนของอ่าวพังงา รวมถึงแนวทางการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม เพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน โดยจุดหมายปลายทางของทริปนี้อยู่ที่ “เกาะพนัก” และ “เกาะห้องพังงา” ซึ่งมีทะเลสาบลากูนสีเขียวมรกต และหน้าผาหินปูนโอบล้อมรอบทะเลด้านใน เป็นจุดไฮไลต์สร้างความประทับใจ ขอชมเลยกับบริการแสนอบอุ่นและสุภาพของทีมไกด์ท้องถิ่นฝีพายเรือแคนู รวมถึงฝีมือปรุงอาหารไทยรสเลิศของพ่อครัวใหญ่ใจดีที่เสิร์ฟไม่อั้นตลอดทาง และความเป็นมืออาชีพของพนักงาน “จอห์น เกรย์ ซี แคนู” ทุกคน
ถือเป็นการเปิดโลกการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน และการอยู่ร่วมกับธรรมชาติโดยไม่ทำร้ายกัน ทำให้มนุษย์ตัวเล็กๆอย่างพวกเราต้องน้อมคารวะในความยิ่งใหญ่ของธรรมชาติ ทริปนี้ได้เจอครบทั้งลิงแสม, นกเงือก และเหยี่ยวแดง ช่างโชคดีจริงๆ!! แถมจัดเซอร์ไพรส์ทำกระทง DIY ให้ได้อธิษฐานในถ้ำ ก่อนจะช่วยกันเก็บกระทงกลับบ้าน ไม่ทิ้งไว้เป็นขยะทะเล...สัญญาว่าจะกลับไปอีกแน่นอน.
ทีมข่าวหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ
อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่