จักรยานไฟฟ้า หรืออี-ไบค์ (E-Bike) เป็นอีกหนึ่งในยานพาหนะที่ได้รับความสนใจอย่างมากในยุคนี้ไม่แพ้รถยนต์ไฟฟ้า ทว่าจักรยานไฟฟ้าถูกนำมาใช้เพื่อธุระและพักผ่อนมากกว่าการเดินทางไกล ทำให้อาจสำคัญต่อการลดการจราจรทางรถยนต์ในพื้นที่ท่องเที่ยว

หลายคนมองว่าจักรยานไฟฟ้าสามารถเปลี่ยนวิธีที่ผู้คนสัมผัสประสบการณ์ในพื้นที่ชนบท และลดผลกระทบด้านลบต่อสิ่งแวดล้อมและการท่องเที่ยวในพื้นที่ชนบทได้ มีนักวิจัยกลุ่มหนึ่งเขียนรายงานลงเว็บไซต์คอนเวอร์เซชัน สำรวจว่าชาวอังกฤษขี่จักรยานธรรมดาโดยเฉลี่ย 87 กิโลเมตรต่อปี โดยผู้ตอบแบบสำรวจหลายคนขี่จักรยานไฟฟ้ามากกว่านี้ในหนึ่งสัปดาห์ หนึ่งในพื้นที่ที่นักวิจัยสนใจสำรวจก็คืออุทยานแห่งชาติเลค ดิสทริก ทางตะวันตกเฉียงเหนือของอังกฤษ ที่มีนักท่องเที่ยวเดินทางโดยรถยนต์ไปพักผ่อนราวๆ 18 ล้านคนต่อปี รถยนต์เหล่านี้ก่อปัญหาการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ความแออัด มลภาวะ และอุบัติเหตุที่เพิ่มขึ้น นักวิจัยพบว่าผู้คนใช้จักรยานไฟฟ้าในอุทยานแห่งชาติเลค ดิสทริก โดยขี่เฉลี่ย 124 กิโลเมตรต่อสัปดาห์ ในช่วงมีมาตรการปิดเมืองรับมือโควิด-19 ในปี 2563 และขี่มากกว่า 101 กิโลเมตรต่อสัปดาห์ในฤดูใบไม้ผลิปี 2564

การวิจัยนี้แสดงให้เห็นว่าจักรยานไฟฟ้าเข้ามาแทนที่การเดินทางด้วยรถยนต์บ่อยกว่าการเดินทางด้วยจักรยานธรรมดาหรือการขนส่งสาธารณะ ถือเป็นผลบวกในแง่ของศักยภาพในการลดคาร์บอนและลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมต่อระบบนิเวศในชนบท และจะนำไปสู่การปรับปรุงการออกแบบสิ่งอำนวยความสะดวกที่จะช่วยให้ผู้คนใช้จักรยานไฟฟ้าแทนรถยนต์เพื่อไปยังที่ที่พวกเขาต้องการได้.

อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่