เมื่อเพื่อนพ้องน้องพี่ชาว SML 5 หมู่สิงโต จัดทริปฉบับย่อเที่ยวเวียดนามแบบกรุ๊ปเล็กๆ เที่ยวเบาๆ ได้ทั้งสาระและความรู้ ก็อดไม่ได้ที่ต้องขอติดสอยห้อยตามร่วมเดินทางด้วย
ทริปนี้เริ่มต้น ซินจ่าว...เวียดนามกันที่เมืองหลวงเก่าอย่างฮานอย ในวันที่อากาศกำลังสบาย อุณหภูมิต้อนรับพวกเราราว 17-25 องศา ถ้าไม่นับรวม PM 2.5 ที่ตามไปจากเมืองไทยด้วย ทริปนี้ถือว่าจบครบสมบูรณ์แบบ...ทีเดียว
ทันทีที่ถึงฮานอย สิ่งแรกที่ควรทำ คือ การไปทำความรู้จักกับผู้นำที่ยิ่งใหญ่ของเวียดนาม อย่างคุณลุงโฮจิมินห์กันเสียก่อน เพราะถ้าไม่มีลุงโฮ ก็คงไม่มีเวียดนามในวันนี้
...
ร่างของลุงโฮ ผู้นำการปฏิวัติคอมมิวนิสต์ของเวียดนาม ถูกดองด้วยน้ำยาอาบศพเก็บไว้ในโลงแก้วในสุสานที่จัตุรัสบาดิงห์ในกรุงฮานอยซึ่งปัจจุบันเป็น “พิพิธภัณฑ์โฮจิมินห์” รัฐบาลเวียดนามจะจัดพิธีรำลึกอย่างยิ่งใหญ่ทุกปี
ความน่าสนใจของการไปเยือนพิพิธภัณฑ์โฮจิมินห์คงไม่ใช่การถกเถียงว่าร่างของลุงโฮที่นอนนิ่งสงบ สง่างามอยู่นั้น เป็นร่างจริงหรือไม่ แต่สิ่งที่น่าสนใจกว่า คือ เหตุใดคนเวียดนามจึงรักและเทิดทูนคุณลุงท่านนี้ประดุจดังเทพเจ้าผู้ยิ่งใหญ่องค์หนึ่ง
ชาวเวียดนามจากทุกสารทิศไม่ใช่เฉพาะในเวียดนาม ถ้าทำได้จะต้องมาคารวะลุงโฮอย่างน้อยปีละครั้ง เช่นเดียวกับ โรงเรียนและสถาบันการศึกษาที่ต้องนำนักเรียน นักศึกษามาที่นี่ทุกปี โดยนัยสำคัญคงไม่ใช่เพื่อมาคารวะร่างลุงโฮเท่านั้น แต่เป็นการตอกย้ำจิตสำนึกของความเป็นชาติ ความรักชาติ ให้อยู่ในจิตสำนึกของชาวเวียดนามทุกคน และทุกคนมีดีเอ็นเอของความรักชาติเช่นเดียวกับลุงโฮอยู่ในสายเลือด
เวียดนามเคยตกเป็นส่วนหนึ่งของจีนนานนับพันปีตั้งแต่ 2 ศตวรรษก่อนคริสตกาล เคยถูกปกครองด้วยระบอบกษัตริย์หลายราชวงศ์ และเคยตกเป็นอาณานิคมของฝรั่งเศส ก่อนที่โฮจิมินห์จะประกาศตั้งพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามขึ้น ภายหลังจักรพรรดิบ๋าว ดั่ย จักรพรรดิพระองค์สุดท้ายสละราชสมบัติในปี 2488 เวียดนามประกาศเอกราชอย่างเป็นทางการ หลังรบชนะฝรั่งเศสในยุทธการเดียนเบียนฟู เมื่อปี 2497 โดยโฮจิมินห์ได้รับการแต่งตั้งเป็นประธานาธิบดีและนายกรัฐมนตรีแห่งสาธารณรัฐประชาธิปไตยเวียดนามคนแรก
...
โฮจิมินห์ถึงแก่อสัญกรรมเมื่อ 2 ก.ย.2512 ด้วยโรคหัวใจล้มเหลว เมื่ออายุ 79 ปี สิ่งที่น่าเสียดายก็คือ ลุงไม่ได้อยู่ชื่นชมชัยชนะของเวียดนามเหนือในปี 2518 ซึ่งเป็นความพ่ายแพ้ที่เลวร้ายที่สุดของสหรัฐอเมริกา
แม้จะเป็นผู้นำที่ยิ่งใหญ่ แต่ลุงโฮกลับใช้ชีวิตอย่างสมถะในบ้านหลังเล็กๆ มีรถยนต์ 3 คัน ที่ผลิตในโซเวียต และฝรั่งเศส สิ่งที่พวกเราได้เรียนรู้จากลุงโฮก็คือ “ผู้ยิ่งใหญ่มักทำตัวเรียบง่ายเสมอ”
ฮานอยมีการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่เร็วมากในช่วงระยะเวลา 2 ทศวรรษที่ผ่านมา นักลงทุนจากต่างชาตินิยมมาลงทุนและขยายธุรกิจในเวียดนาม รวมทั้งไทย ที่เป็นเจ้าของธุรกิจอาหารที่ใหญ่ที่สุดในเวียดนาม ไม่รวมธุรกิจด้านการเงิน โรงแรม อสังหาริมทรัพย์ และอื่นๆ
...
สถานที่ท่องเที่ยวในกรุงฮานอย นอกจากสุสานโฮจิมินห์แล้ว แนะนำให้เดินเล่นในย่านเมืองเก่า หรือ Hanoi Old Quarter เป็นย่านที่เต็มไปด้วยเสน่ห์และเอกลักษณ์ของฮานอย ที่นี่มีถนนเล็กๆ ถนน 36 สาย เป็นแหล่งช็อปปิ้ง ร้านค้า ร้านอาหาร คาเฟ่ชิกๆ รวมทั้งตึกวินเทจสไตล์เวียดนามและฝรั่งเศสเก่าแก่ที่อนุรักษ์เอาไว้กว่า 600 ปีด้วย
ใจกลางกรุงฮานอยเป็นที่ตั้งของทะเลสาบคืนดาบฮว่านเกี๋ยม หรือ Hoan Kiem Lake ที่มีตำนานอิงประวัติศาสตร์ สมัยที่เวียดนามทำสงครามสู้รบกับจีน กษัตริย์เวียดนามทำสงครามมาเป็นเวลานาน แต่ยังไม่สามารถเอาชนะทหารจากจีนได้ จึงมาล่องเรือที่ทะเลสาบแห่งนี้ และเกิดปาฏิหาริย์ เต่าขนาดใหญ่นำดาบวิเศษมาให้พระองค์ เพื่อทำสงครามกับประเทศจีน ทำให้ได้รับชัยชนะเหนือประเทศจีน เมื่อเสร็จศึกสงคราม พระองค์จึงนำดาบมาคืน ณ ทะเลสาบแห่งนี้ เป็นที่มาของชื่อ ทะเลสาบคืนดาบ
ด้วยเป็นการเที่ยวฉบับย่อ เราเลยพลาดอีกหลายที่ ไม่ว่าจะเป็นวิหารวรรณกรรม วัดเฉินก๊วก รวมทั้งที่ท่องเที่ยวใหม่ๆอีกหลายแห่ง ไว้ค่อยกลับมาเก็บตกคราวหน้า
...
จากฮานอย เรามุ่งหน้าสู่ อ่าวฮาลอง หรือ ฮาลองเบย์ (Hạ Long Bay) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ อ่าวตังเกี๋ย (Gulf of Tonkin) ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของเวียดนาม ไม่ไกลจากกรุงฮานอย ฮาลองเบย์ในภาษาเวียดนามมีชื่อว่า Vinh Ha Long หมายถึง อ่าวแห่งมังกรผู้ดำดิ่ง ความสวยงามของฮาลองเบย์ ที่เต็มไปด้วยเกาะหินปูนน้อยใหญ่กว่า 1,969 เกาะ และชายฝั่งยาวถึง 120 กิโลเมตร ทำให้ได้รับการขึ้นทะเบียนจาก UNESCO ให้เป็นมรดกโลกทางธรรมชาติ
กิจกรรมไฮไลต์ของการมาเที่ยวชมฮาลองเบย์คือ ล่องเรือชมทัศนียภาพอันงดงามของเกาะต่างๆ เช่น เกาะกัดบา (Cat Ba Island) เกาะต่วนเจิว (Tuan Chau) เกาะช้าง เกาะไก่ชน เกาะหลังคา และแวะชมถ้ำสวรรค์ (Thiên Cave) ซึ่งถือเป็นไฮไลต์ของฮาลองเบย์ โดยเป็นถ้ำที่มีโถงขนาดใหญ่ 3 ห้อง มีหินงอกหินย้อยรูปทรงแปลกตาประดับประดาอย่างสวยงาม ทั้งรูปทรงเต่ายักษ์ และนางฟ้า เมื่อกระทบกับแสงสีที่นำมาประดับตกแต่งก็ทำให้เห็นลวดลายประติมากรรมที่เกิดจากธรรมชาติได้อย่างชัดเจน
พี่ๆสิงโต SML 5 เลือกที่จะพักบนเรือสำราญขนาดใหญ่ 1 คืน ในอ้อมกอดของฮาลองเบย์ เพื่อดื่มด่ำกับความงดงามของที่นี่ เลือกทำกิจกรรมตามความชอบ ทั้งพายเรือคยัค เที่ยวถ้ำ ว่ายน้ำในสระน้ำอุ่นบนเรือสำราญ รวมทั้งร่ำเมรัยในบรรยากาศแห่งมิตรภาพแบบเบาๆ
เพียงแค่นี้ พวกเราก็พบกับความสุขที่ไม่ต้องตามหาให้ไกลจากที่ไหนในโลก...แล้ว.