น้องโมนิก้าและน้องมาร์โก้
ได้ฤกษ์เปิดตัวอย่างเป็นทางการซะทีสำหรับสนามเด็กเล่นในร่มที่ใหญ่ที่สุดในเมืองไทย หรือ ฟันเนเรี่ยม (Fun-arium) หลังเปิดให้บริการมาตั้งแต่วันที่ 13 เมษายนที่ผ่านมา พร้อมจัดกิจกรรมให้เด็กๆ ได้เล่นเกมและตะลุยฐานอันน่าตื่นเต้นและท้าทายสำหรับบรรดาเหล่าเล็กพริกขี้หนู งานนี้ครอบครัวตระกูลดังเลยพาลูกหลานมาร่วมงาน Grand Opening กันอย่างคึกคัก
มาฟังความคิดเห็นของคุณพ่อ-คุณแม่ ที่พาลูกๆ มาร่วมสนุกในครั้งนี้กันว่า แต่ละคนใส่ใจกับการเล่นและกิจกรรมโปรดของลูกมากแค่ไหน เริ่มจากครอบครัวที่นานๆ ครั้ง จะได้เห็นออกงานพร้อมกันสักที ม.ล.ดิศปนัดดา ดิศกุล - พิมพรรณ ดิศกุล ณ อยุธยา คุณพ่อ-คุณแม่น้องพริม-ดิศรา (4 ขวบ) และน้องไพร-ดิศศานุวงศ์ ดิศกุล ณ อยุธยา (2 ขวบ) คุณแม่เผยว่า “น้องพริมเป็นคนเด็ดขาด จะรู้ว่าตัวเองต้องการอะไร ส่วนลูกชายน้องไพรจะเป็นคนขี้อ้อน อ่อนโยน ขี้กลัว แต่ทั้งสองชอบมาเล่นที่นี่เหมือนกันตามประสาเด็ก มีอยู่ครั้งหนึ่ง น้องไพรวิ่งมาบอกคุณแม่อย่างตื่นเต้นว่า ไพรสไลด์ลงสไลเดอร์ 4 เลนได้ เราก็ดีใจ ซึ่งปกติลูกจะเป็นคนไม่ค่อยกล้า จึงคิดว่าการเล่นตามธรรมชาติของเด็กและปล่อยให้เขาได้เล่นอย่างอิสระเป็นการฝึกพัฒนาการของลูกรอบๆ ด้านค่ะ”
พิมพรรณ-ดิศศานุวงศ์ ดิศกุล ณ อยุธยา
“การเลือกสถานที่ให้ลูกเล่นต้องคำนึงถึงความปลอดภัยเป็นหลัก ผมไม่ชอบเลี้ยงลูกในห้องแอร์ น้องพริมและน้องไพรจะไปทำงานกับผมและภรรยาที่มูลนิธิแม่ฟ้าหลวงที่เชียงรายบ่อยครั้ง เขาก็ได้สัมผัสกับธรรมชาติ เล่นดิน ทราย แต่ถ้ากลับมากรุงเทพฯ ส่วนใหญ่ก็จะพามาที่นี่อาทิตย์ละ 2 ครั้ง เพราะมั่นใจในความปลอดภัยและที่นี่ก็มีเจ้าหน้าที่คอยดูแลอย่างใกล้ชิด” คุณพ่อ ม.ล. ดิศปนัดดาเผย
ด้านคุณพ่อมาร์ค-ธนพ และคุณแม่น้ำฝน-ณ วิภา เอี่ยมอมรพันธ์ ก็พาน้องเคท-ณ มน (1 ขวบ 5 เดือน) มาเล่นเครื่องเล่นในโซนเด็กเล็ก คุณแม่เผยว่า ลูกสำคัญที่สุดจึงขอเลี้ยงลูกเอง “เห็นพัฒนาการของลูกในแต่ละสเต็ปก็ชื่นใจค่ะ ตอนนี้น้องเคทซนมาก ชอบปีนป่ายไปทั่ว โชคดีที่ฟันเนเรี่ยมเปิด เลยพาลูกมาเล่นตั้งแต่เปิดวันแรก ตอนนั้นน้องเคทยังเดินไม่คล่อง เค้าได้มาปีนป่ายที่นี่และกลับไปบ้านเดินได้คล่องเลยค่ะ น้ำฝนจะให้ความสำคัญกับ ความปลอดภัยของสนามเด็กเล่นเป็นอันดับแรก ต่อมาก็ต้องความสะอาด เห็นว่าที่นี่เค้าเช็ดทำความสะอาด ลูกบอลทุกลูกเราก็มั่นใจค่ะ และอีกประการหนึ่งคือที่นี่อนุญาตให้พ่อแม่เล่นเครื่องเล่นกับลูกได้ จึงมั่นใจว่าเรา ได้ดูแลลูกได้อย่างใกล้ชิดตลอดเวลาที่เขาได้เล่นสนุกค่ะ”
มาร์ค-ธนพ และคุณแม่น้ำฝน-ณ วิภา เอี่ยมอมรพันธ์
ส่วนคุณพ่อมาร์คก็ทุ่มกับการเลี้ยงลูกสาวคนนี้สุดตัว ไม่ว่าจะช่วยเปลี่ยนผ้าอ้อม ป้อนข้าว เล่นเกมกับ น้องเคท ที่สำคัญคุณพ่อนักปาร์ตี้คนนี้ก็เปลี่ยนไลฟ์สไตล์มาร่วมปาร์ตี้ของลูกและเพื่อนๆ ลูกแทน “ตอนนี้เพื่อนๆ ก็มีลูกกันหมด ผมเลยได้ไปปาร์ตี้ของลูกเพื่อนๆ แทน ส่วนใหญ่จะจัดกันที่บ้าน พอหมดกิจกรรมลูกๆ ก็ส่งแม่และลูกกลับบ้าน ส่วนพ่อก็อยู่ต่อ (หัวเราะ) ก็ดีใจที่ที่นี่มีห้องจัดปาร์ตี้ให้เด็กๆ ทำให้พ่อแม่ได้มาเจอกันและร่วมปาร์ตี้กับลูกๆ ได้สะดวกขึ้น”
อีกหนึ่งครอบครัวที่มีกิจกรรมร่วมกันอยู่เสมอ คุณแม่ลูกหนู-สุจิมา วีระไวทยะ และคุณพ่อกฤษดา แสงไชยวุฒิกุล พาลูกสาว-ชาย ฝาแฝด น้องม้าเมฆ-ณัฐรส แสงไชยวุฒิกุลและน้องม้าหมอก-ณัฐสิริ วีระไวทยะ วัย 4 ขวบ มาร่วมเอ็นจอยกับสนามเด็กเล่นในร่มแห่งใหม่ คุณแม่ลูกหนูบอกว่า ลูกทั้งสองคนชอบเล่นสนุกชอบวิ่งเล่น ปีนป่าย ชอบว่ายน้ำ ส่วนใหญ่กิจกรรมของครอบครัวคือไปเล่นน้ำกันที่พัทยา เพราะใกล้กรุงเทพฯ “พอที่นี่เปิด ลูกบอกว่า สนามเด็กเล่นที่อื่นไม่สนุกและไม่ใหญ่เท่านี้ ส่วนตัวเองเห็นว่า ที่นี่ออกแบบให้มีความปลอดภัยสำหรับเด็กมากๆ ไม่ว่าวัสดุอุปกรณ์ หรือแม้แต่เสาหรือมุมของเครื่องเล่นก็ยังนุ่มและกว้างพอดีสำหรับเด็กๆ ได้วิ่งเล่น ตอนนี้ก็ต้องพาเจ้าตัวเล็กทั้งสองคนมาเล่นอาทิตย์ละ 2 ครั้ง หลังเลิกเรียนค่ะ”
สุจิมา วีระไวทยะ และคุณพ่อกฤษดา แสงไชยวุฒิกุล
ด้าน ม.ล.รดีเทพ บุรณศิริ ก็พาลูกสาวและลูกชาย น้องนุ๊ก-กมลพร (11 ขวบ) น้องมิ้ม-สุพิภา (10 ขวบ) และน้องแม๊บ-วุฒิชาติ (4 ขวบ) บุรณศิริ มาร่วมตะลุยเมืองแห่งสนามเด็กเล่น คุณแม่เผยว่า ลูกๆ แต่ละคนมีความชอบแตกต่างกัน ลูกคนโตจะชอบกีฬา เล่นเทนนิส ผาดโผน ชอบวาดเขียน ส่วนลูกสาวคนกลางจะตรงกันข้าม ชอบเล่นดนตรี ร้องเพลง ส่วนคนเล็กยังไม่เด่นชัด แต่ทั้งหมดชอบเล่นในสนามเด็กเล่นเหมือนกัน “ลูกในแต่ละวัยจะมีความชอบที่ต่างกัน เราก็ต้องสนับสนุนสิ่งที่ลูกชอบอย่างเต็มที่ ส่วนใหญ่ถ้ามีวันหยุดยาวเราจะไปเที่ยวทะเลกัน ตอนแรกจะไปหัวหิน พอตอนหลังพี่สาวโตแล้วเริ่มเบื่อกิจกรรมที่หัวหิน เราจึงเปลี่ยนไปเที่ยวที่ภูเก็ตแทน เค้าก็จะได้เล่นเคเบิลสกี เล่นกิจกรรมที่ผาดโผนขึ้น”
ม.ล.รดีเทพ บุรณศิริและลูกชาย
ด้านคุณแม่คนสวย ดร.แคทเธอรีน มาลีนนท์ พาลูกชายวัย 4 ขวบ น้องเบรธ-ณธนนท์ กิจโอธาน มาร่วมกิจกรรมโปรด เผยว่า คนเป็นพ่อแม่ก็ต้องมีความอดทน บางทีลูกอยากได้ของเล่นหรืออยากเล่นนั่นนี่ก็ต้องเข้าใจ แต่เรื่องดุก็ต้องมีบ้าง ต้องเข้มงวดกับลูกบ้าง เพราะไม่งั้นโตขึ้นลูกจะเสียนิสัย โดยเฉพาะการเล่นของลูก ความปลอดภัยต้องมาเป็นอันดับหนึ่ง “เมื่อก่อนก็พาลูกไปเล่นบ้านบอลในห้างฯ หรือถ้าหยุดยาวหน่อยก็ไปต่างจังหวัด แต่พอที่ฟันเนเรี่ยมเปิด ก็เรียกว่าตอบโจทย์ให้ลูกได้ครบเลยค่ะ ไม่ว่าจะเป็นของเล่นที่หลากหลาย ไม่ร้อน ปลอดภัย และพ่อแม่ดูแลได้ทั่วถึง แต่สนามเด็กเล่นใหญ่ๆ ก็ต้องระวังเรื่องเด็กโตกว่านิดหนึ่งค่ะ เพราะ บางทีอาจจะวิ่งหรือสไลด์ไปชนเด็กตัวเล็กๆ ได้” 
...
ดร.แคทเธอรีน มาลีนนท์ และลูกชาย
ปิดท้ายที่คุณแม่บิ๋ง-นันทมาลี ภิรมย์ภักดี พาฝาแฝดน่ารักวัย 3 ขวบ น้องเจมม์-นันทวุฒิ และ น้องบีม-วรณัน ภิรมย์ภักดี มาเล่นเครื่องเล่นในร่มแห่งนี้ครั้งแรก คุณแม่เผยว่าการให้ลูกได้เล่นอย่างอิสระในพื้นที่ที่ปลอดภัยถือว่าจำเป็นมาก เพราะการเล่นเป็นส่วนสำคัญในการพัฒนาทักษะด้านต่างๆ ของลูก “บิ๋งจะทุ่มเทเรื่องลูกๆ มาก ไม่ว่าเรื่องกิน เรื่องเล่น ตอนลูกเล็กๆ บิ๋งจะทำอาหารเองให้ลูกทานทุกมื้อ ส่วนเรื่องเล่นก็ต้องเน้นความสะอาดเป็นหลัก โดยเฉพาะสนามเด็กเล่น บางทีเห็นผ้าเช็ดมือเก่าๆ เราก็ต้องไปขอให้เค้าเอาผืนใหม่ มาเปลี่ยน อุปกรณ์ของเล่นหรือลูกบอลต่างๆ เราก็ต้องแน่ใจว่ามันสะอาดจริงๆ ความปลอดภัยก็สำคัญ บิ๋งจะคอยดูว่าสถานที่กว้างขวางไหม ปลอดภัยหรือเปล่า ของเล่นสูงไปไหม ข้างล่างนุ่มพอไหม และสุดท้ายเราสะดวกไปรับไปส่งหรือเปล่า ซึ่งที่ฟันเนเรี่ยมก็ตอบโจทย์ได้ทุกข้อเลยค่ะ”
นันทมาลี-นันทวุฒิ-วรณัน ภิรมย์ภักดี
“น้องเจมม์และน้องบีมจะชอบออกนอกบ้านมากค่ะ แค่ได้ไปบ้านคุณปู่เค้าก็มีความสุขแล้ว เพราะบ้านคุณปู่มีบ่อปลา มีสุนัข นอกจากนั้นก็ไปเที่ยวทะเล ไปเที่ยวเชียงใหม่ เที่ยวประเทศใกล้ๆ อย่างสิงคโปร์ ซึ่งการให้ลูกได้สัมผัสธรรมชาติและได้ทำกิจกรรมนอกบ้าน ก็สำคัญเช่นกันค่ะ” คุณแม่บิ๋งแนะนำทิ้งท้าย
ใครที่สนใจอยากจูงมือลูกๆหลานๆไปเที่ยวก็ไปสนุกกันได้แล้วทุกวัน ตั้งแต่เวลา 8.30-20.30 น. ค่าเข้าเด็กเล็ก (เด็กที่มีความสูงไม่เกิน 105 ซม.) 180 บาท, เด็กโต (เด็กที่มีความสูงเกิน 105 ซม.) 300 บาท และผู้ใหญ่ (อายุเกิน 13 ปี) 90 บาท โดยสามารถอยู่เล่นได้ไม่จำกัดเวลาในวันธรรมดา ส่วนในวันหยุด (เสาร์-อาทิตย์) จะอยู่เล่นได้ 2 ชั่วโมง ต่อค่าธรรมเนียม 1 ครั้ง สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ฟันเนเรี่ยม สุขุมวิท 26 โทรศัพท์ 02-665-6555